"พิมาน เพลินวาน" ถ้าถามถึงเหตุผลที่เราเลือกพักทีนี่ ก็ต้องย้อนไปเมื่อปลายปีที่แล้ว ในงานไทยเที่ยวไทย ขณะกำลังเดินดูหาแพคเกจโปรโมชั่นที่พักเขาค้อ สายตาก็เหลือบไปเห็นการลดราคาของที่นี่ จากราคาเต็มเท่าไร ไม่แน่ใจครับ แต่ลดราคาเหลือ 990 บาท สำหรับห้องคลาสสิค โดยต้องซื้อ 2 ห้องขึ้นไป และสามารถเพิ่มเงินอีก 250 บาท เพื่อทำการอัพเกรดเป็นห้องระดับเดอลุกซ์
ทำให้เกิดความอยากรู้ขึ้นมาทันที ว่าอะไรคือความแตกต่างของห้องทั้ง 2 แบบ แต่ที่พอจะรู้คือ ขนาดห้องต้องเพิ่มขึ้นมาแน่นอน ตามราคาที่อัพขึ้นมานิดหน่อย ทางเจ้าหน้าที่แจ้งว่า จะได้มุมวิวที่มองเห็นจอหนังกลางแปลง หมายความว่า เราแค่เปิดหน้าต่างหรือประตูระเบียงจากห้องนอน เราก็จะสามารถนอนดูหนังกลางแปลงจากบนเตียงได้อย่างสบายๆ เรียกได้ว่า เป็นที่นั่งแบบ super vip
อย่างต่อมา ก็เป็นการตกแต่งภายในห้อง ที่แฟนเพียงดูผ่านภาพถ่ายตัวอย่าง ก็รู้สึกว่า น่ารักและน่าสนใจที่จะไปนอน เพียงแค่นั้น ก็ทำให้เราตัดสินใจเลือกซื้อทันที ครั้งแรกของการใช้บริการพักที่นี่ เราเลือกที่พักห้อง เพลินจ้อง ซึ่งอยู่ริมสุดของที่พัก มีระเบียงด้านข้างเพิ่ม และสามารถมองเห็นจอหนังกลางแปลง จากบนเตียงได้ แต่เนื่องจากเราไปพักครั้งแรกปีที่แล้ว ช่วงเดือนพฤศจิกายน ซึ่งยังเป็นช่วงที่ห้ามเล่นมหรสพ ทุกชนิด ทำให้งดฉายหนังกลางแปลง
มาในครั้งนี้ ด้วยเหลือคูปองที่่พักอีกหนึ่งใบ ซึ่งกำลังจะหมดเขตลงในเดือนตุลาคม ปี2560 เมื่อหาเวลาว่างตรงกันได้ จึงทำการโทรคอนเฟิร์มกับทางพิมาน เพลินวาน และตัดสินใจจ่ายเงินเพิ่ม 250 บาทอีกครั้ง เพื่อที่จะอัพเกรดเป็นห้องเดอลุกซ์เหมือนเดิม ถึงแม้ว่าหนังกลางแปลงจะยังงดฉาย แต่ด้วยเพราะเหตุใดเราติดใจที่จะเลือกเสียเงินเพิ่ม เดี๋ยวเรามารอชมภาพภายในห้องพักกันครับ
สำหรับท่านที่มาพักที่พิมาน เพลินวาน เข้าเชคอินได้ในเวลา บ่าย 2 โมง ถ้าใกล้ถึงแล้ว สามารถโทรแจ้งเลขทะเบียนรถให้กับทางพนักงานที่พัก เพื่อทำการประสานงานมายังยามรักษาความปลอดภัยด้านหน้า และด้านใน ให้อำนวยความสะดวกเปิดทางให้เข้าไปที่จอดรถเฉพาะสำหรับผู้ที่มาพักที่พิมาน เพลินวาน ในช่วงกลางวัน สามารถเข้าได้ทั้งทางซอยหัวหิน 40 หรือจะเข้าทางด้านหน้าเลย แล้วแจ้งว่ามาพักที่พิมาน ยามรักษาความปลอดภัยจะเปิดโซ่ที่กั้นให้ครับ
|
ที่จอดรถเฉพาะสำหรับผู้ที่มาพัก |
|
ที่จอดมีหลังคา และกันส่วนสำหรับทางเข้าออกของผู้มาเที่ยวชมแยกจากบริเวณที่จอดรถ เพิ่มความมั่นใจในความปลอดภัย |
|
ป้ายแจ้งเวลาทำการ หน้าประตูทางเข้าไปในส่วนเพลินวาน |
เมื่อเราจอดรถเสร็จ จะมีเจ้าหน้าที่ของทางพิมาน เพลินวาน มายืนรอรับช่วยยกสัมภาระ กระเป๋า และพาเราไปเช็คอิน รับกุญแจห้องพัก พร้อมคูปองอาหารเช้า ทางเข้าพิมาน จะมีประตูให้ใช้คีย์การ์ดสแกน ขึ้นไปชั้น 2 จะพบกับลอบบี้ ซึ่งตรงนี้จะมีทางต่อเชื่อมออกไปกับทางเพลินวานที่ชั้น 2 ที่เป็นส่วนของร้านค้าต่างๆ
|
ทางเข้าพิมาน เพลินวาน |
|
ลิฟต์ไว้สำหรับขนสัมภาระ |
|
บันไดสำหรับเดินขึ้นไปยังห้องพักชั้น 3 |
จากนั้นพนักงานจะพาเราเดินขึ้นไปอีกชั้น ที่ชั้น 3 จะเป็นส่วนของห้องพัก เมื่อขึ้นมาจะพบกับห้องส่วนกลาง ที่ทางเจ้าหน้าที่แจ้งว่า สามารถเข้ามานั่งทานเครื่องดื่มและขนมได้ทุกอย่าง มีบริการทั้งกาต้มน้ำร้อน และเตาปิ้งขนมปัง จาน ช้อน ส้อม แก้ว รวมถึงมีไมโล กาแฟ ให้ชงด้วยตัวเองตลอดเวลา
ในห้องมีเก้าอี้ที่นั่ง ทั้งแบบโซฟา โต๊ะ เก้าอี้ ทั้งด้านในที่มีแอร์ ทีวี และด้านนอกระเบียงที่สามารถชมบรรยากาศในเพลินวาน แบบส่วนตัวสำหรับเฉพาะผู้ที่มาพักในพิมาน
|
ที่นั่งในห้องส่วนกลาง |
|
ชั้นวางของ อุปกรณ์ จาน ชาม ช้อน แก้ว |
|
ตู้เย็น มีบริการเครื่องดื่มน้ำอัดลม และน้ำเปล่า |
|
โต๊ะให้นั่งทานอาหาร หรือขนม |
|
บริการ ไมโล กาแฟ น้ำตาล |
|
เวเฟอร์ และขนมปังกรอบ abc |
|
เก้าอี้นั่งด้านนอก ระเบียงชั้น 3 |
หลังจากชมบรรยากาศของห้องส่วนกลางแล้ว เมื่ออกจากห้องจะเห็นโคมไฟเก๋ๆ ที่นำเอาตัวอักษรออกมาประดับ ดูชิคๆ ด้านข้างของกำแพงจะประดับไปด้วยรูปภาพมากมาย
|
โคมไฟ ตัวอักษร |
|
กำแพงประดับไปด้วยภาพ |
|
ทางเดินไปห้องพัก ชั้น 3 |
กลับไปที่ห้องพักของเรากันครับ ห้องเพลินจ้อง ห้องเบอร์ 611 ที่นี่ประตูใช้ความปลอดภัยแบบคีย์การ์ด นำมาแตะที่ประตู ก็จะทำการปลดล็อคครับ มีคีย์การ์ดให้ 2 อัน เวลาอีกคนออกไปนอกห้อง จะได้ไม่ต้องเคาะเรียกให้เปิดประตูกันครับ ก็สะดวกสบายดี
|
ห้องเพลินจ้อง |
|
เปิดประตูเข้ามา ก็พบกับประตูห้องน้ำ |
|
เมื่อก้าวเข้ามาในห้อง ด้านขวาจะเป็นตู้เสื้อผ้า มีบริการรองเท้าแตะให้ 2 คู่ ข้างๆกันจะเป็นถังขยะ |
|
ด้านซ้ายมือ เป็นที่ควบคุมสวิตซ์ไฟ และวางรีโมทแอร์ |
|
เปิดประตูห้องน้ำ จะพบกับโถชักโครก อยู่ทางด้านขวา |
|
ด้านในจะเป็นส่วนอาบน้ำ ทางขวาเป็นฝักบัว ไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่น แต่ด้านซ้ายจะเป็นตุ่มอาบน้ำ |
|
ด้านบนตุ่มน้ำมีขันน้ำ ก๊อกน้ำต่อสายยางลงมาภายใน และชั้นวางผ้าเช็ดตัว ผ้าเช็ดผม |
|
เปิดฝาตุ่มน้ำจะเห็นว่ามีน้ำบรรจุไว้เต็มพร้อม |
|
ด้านใต้ตุ่มน้ำจะเป็นขดลวดฮีตเตอร์ สำหรับทำความร้อน |
|
ตู้ควบคุมอุณหภูมิน้ำในตุ่มน้ำ |
|
ขั้นตอนการใช้งานตุ่มน้ำอุ่น |
|
ปุ่มสั่ง เปิด-ปิดเครื่องทำน้ำอุ่น และแสดงอุณหภฺมิน้ำภายในตุ่ม |
ด้วยความที่สามารถอาบน้ำอุ่นได้จากตุ่มน้ำอุ่น นี่ล่ะครับ สาเหตุหลักที่ทำให้ตัดสินใจ เพิ่มเงินส่วนต่าง เพื่ออัพเกรดมาใช้บริการที่ห้องนี้ มันเป็นความคลาสสิค ที่เราได้ตักน้ำจากขันอาบจากตุ่มน้ำ แต่เป็นน้ำอุ่นสบาย ที่นี่มีบริการแชมพู ครีมนวดผม และครีมอาบน้ำ โดยเป็นผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรทั้งหมด กลิ่นหอม ถ้าใช้แล้วถูกใจสามารถซื้อได้ด้วยนะครับ มีร้านจำหน่ายที่เพลินวานพร้อม
อ่างล้างหน้าที่นี่ขนาดใหญ่กว้างกำลังดี ถูกใจสำหรับคนที่ชอบล้างหน้าตรงอ่าง ชักโครกทีนี่ใช้แบบเป็นสายดึงแทนที่จะใช้เป็นปุ่มกดหรือคันโยก เป็นความคลาสสิคอีกอย่าง
|
อุปกรณ์อาบน้ำ มีครบทั้งแชมพู ครีมนวด และครีมอาบน้ำ |
|
อ่างล้างหน้า ชั้นวางมีกระป๋องใส่ หมวกคลุมอาบน้ำ และไม้ปั่นหูไว้บริการ |
|
สายกดชักโครก แบบดึง ใช้แทนปุ่มกด |
ออกจากห้องน้ำมาดูบริเวณฝั่งของห้องนอนกันต่อครับ มีเตียงนอน โซฟา ทีวีแอลซีดี ที่ตกแต่งให้ดูแบบเรโทร และตู้เย็น กาต้มน้ำไว้บริการครบ
|
มีผ้าม่านไว้สำหรับกั้นได้ |
|
เตียงนอนปูด้วยผ้าสีสันเข้ากับห้องพัก |
|
ด้านบนของเตียงนอนประดับด้วยรูปภาพ ด้านข้างมีโต๊ะเครื่องแป้งเล็กๆ โทรศัพท์ภายในใช้งานได้จริง |
|
ตรงข้ามกับเตียงจะเป็นทีวี ตู้เย็น เครื่องปรับอากาศ กำแพงประดับด้วยภาพ และตู้โชว์ของสะสม |
|
มีโซฟาสีแดง ตัดกับสีของห้อง |
|
ตู้เย็น กาน้ำร้อน มีแก้วชงกาแฟให้พร้อมกับกาแฟสำเร็จรูป และขนมขาไก่ในโถแก้ว |
|
มีบริการน้ำดื่ม และน้ำอัดลมกระป๋อง |
|
ด้านหน้า จะมองเห็นบรรยากาศเพลินวาน |
|
ระเบียงด้านข้างทางขวามือ ยังสามารถเดินต่อไปได้อีก |
|
มองเห็นจอหนังกลางแปลงได้อย่างชัดเจน |
|
ลานกิจกรรมด้านล่าง ก็สามารถมองได้อย่างสบาย |
|
ชมบรรยากาศเพลินวานจากมุมสูง ด้วยความเป็นส่วนตัว |
ขณะที่กำลังจะเปิดทีวี ก็ไปพบกับสมุดเพลินวาน ที่วางไว้อยู่หน้าทีวี ข้างในจะบอกความเป็นมา รายละเอียดสถานที่่ต่างๆภายในเพลินวาน รวมถึงรายละเอียด ราคาห้องพัก ก็เลยเปิดดูสักหน่อย
|
รายละเอียดราคาห้องพัก |
|
รายละเอียดห้องพัก |
ราคาห้องพักที่นี่จะรวมถึงอาหารเช้า ที่เราได้รับเป็นคูปองตอนเช็คอิน นำไปแลกเป็นเซท
อาหารเช้าได้ที่ร้านอาหาร
เพลินวาน พาณิชย์ (กดเข้าไปรับชมเมนูได้เลยครับ)
พิมาน เพลินวาน เหมาะสำหรับกลุ่มคนผู้ที่อยากสัมผัสกลิ่นอายย้อนยุค อยากได้เห็นการปรับเปลี่ยงแปลงของสิ่งของรอบตัวหลายๆอย่าง ได้เห็นอุปกรณ์ที่ไม่เคยเห็น หรืออาจะเคยเห็นแวบๆ ในสมัยยังเด็ก และสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายรูป ที่นี่ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจครับ มีมุมและบริเวณหลายที่ ที่ตกแต่งให้ถ่ายรูปได้สวยงาม วางระบบความปลอดภัยไว้ค่อนข้างดี ถึงแม้จะเป็นที่พักอยู่ในกลางสถานที่ท่องเที่ยว เปิดให้ผู้คนเข้ามาชม แต่มีความปลอดภัยค่อนข้างสูงเลย โดยเฉพาะการนำรถเข้า-ออก แต่ก็เป็นข้อเสียเช่นกัน เวลาจะออกไปข้างนอก ต้องรอเรียกยามมาเปิดประตูให้เพื่อนำรถเข้า-ออก
มีการแบ่งแยกสัดส่วนชัดเจน สำหรับผู้เข้าชม และผู้ที่่มาพักอาศัย ต้องใช้คีย์การ์ดในการผ่านประตูเข้าไปในส่วนพักอาศัยทุกขั้นตอน มีบริเวณส่วนตัวพิเศษให้ผู้ที่พักอาศัยได้ใช้บริการ
สภาพห้องจัดวางได้ดี แต่ขอติที่ความสะอาดของอุปกรณ์ใช้สำหรับทานอาหาร ทั้งภายในห้องพักและภายในส่วนกลาง แก้ว จาน ชาม เหมือนไม่ได้ทำความสะอาดมานาน จะเพราะไม่ได้มีคนมาใช้งานอยู่แล้ว หรืออย่างไร แต่มีคราบเป็นส่วนใหญ่ จากที่ตั้งใจจะไปซื้อของเข้ามาทานด้านภายในพิมาน ต้องขอเปลี่ยนใจเป็นมาม่าถ้วย น่าจะปลอดภัยกว่า แต่เมื่อเปิดดูกาน้ำร้อน ก็พบว่า มีตะกรัน และฝุ่นละอองภายในกา เราต้องทำความสะอาด ล้างใหม่ เปลี่ยนน้ำอีกที เพื่อความปลอดภัย
|
ต้มมาม่า ด้วยน้ำดื่ม |
แอร์ภายในห้องพัก เย็นตามสภาพอากาศภายนอกครับ ช่วงเวลาดึกๆ แอร์จะเย็นเป็นปกติ แต่ถ้าเป็นเวลากลางวัน ก็ค่อนข้างๆออกไปทางอุ่นๆ เสียงการทำงานของเครื่องปรับอากาศค่อนข้างดัง ไม่รู้เป็นที่ตัวเครื่องปรับอากาศเอง หรือว่ากล่องไม้ที่ครอบ
ที่ประทับใจเหมือนเดิมก็คือ ตุ่มน้ำอุ่น ให้ความรู้สึกกลับไปเมื่อสมัยยังเด็ก ที่ยังต้องตักน้ำอาบ หน้าหนาวต้องต้มน้ำมาผสมในอ่าง แต่นี่ไฮเทค ตรงที่แค่่กดปุ่มเปิดสวิตซ์ สักครู่เดียวน้ำก็อุ่นทั้งตุ่ม มีจุดชมวิวให้ด้านหน้าระเบียง ค่อนข้างกว้าง ถ้าเป็นช่วงมีงานเทศกาลน่าจะเป็นมุมที่ดี เพราะเราสามารถชมเพลินวานได้จากมุมสูง
เตียงนอน มีเสียงเอี๊ยดอ๊าดด้านหัวเตียง เวลาขยับตัวบนเตียง ตามสไตล์ ห้องแนวย้อนยุค และมีนาฬิกาที่ไม่ได้ใส่ถ่าน หรือตายไม่ทราบ ประดับไว้บนหัวเตียง ทำเอาเผลอมองหลายรอบ และตกใจทุกรอบกับเวลาที่ได้มอง
ทั้งๆที่เคยมานอนพักที่ห้องเพลินจ้องนี้แล้วครั้งหนึ่งเมื่อปลายปีที่แล้ว แต่มาในครั้งนี้ เรากลับรู้สึกสัมผัสได้ถึงชื่อห้อง เพลินจ้อง ไม่แน่ใจว่าเป็นการตกแต่งห้องให้เหมือนโดนจ้องหรือเปล่า โดยการนำเอารูปภาพที่มีการมองออกมาอยู่รอบๆ หรือว่า คือห้องที่เราสามารถจ้องมองหนังกลางแปลงจนเพลิน ตกกลางคืนมีเสียงคล้ายรถขนาดใหญ่วิ่งผ่าน แทบทุกชั่วโมง อาจจะเป็นเสียงเฮลิคอปเตอร์ เครื่องบิน แต่ก็รบกวนกลางนอนหลับเป็นอย่างมาก
การกลับมาในครั้งนี้ สัมผัสความรู้สึกบรรยากาศช่างต่างจากเดิม ภายในเพลินวานไม่ได้คึกคักดังเดิม ร้านค้าค่อนข้างเงียบเหงา ลานกิจกรรมไม่ได้มีอะไรมาจัดแสดง คนผ่านเข้ามาแล้วก็ผ่านไปในเวลาอันสั้น อาหารก็ไม่ได้มีให้เลือกทานเยอะแบบเดิม แอบหวังว่า ทางทีมงานเพลินวานจะจัดหากิจกรรมหรืออะไรที่น่าสนใจ เป็นจุดขายเรียกลูกค้ากลับมาที่นี่ได้อีกครั้ง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น