วันอังคารที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

ร้านอาหารครัวบางตะบูน (ลุงญา)

             ช่วงเวลานี้ ถ้าพูดถึงแหล่งกินปูม้า ราคาไม่แพง แถมบริการแกะให้เสร็จเรียบร้อยพร้อมทาน แถวสมุทรสงคราม-เพชรบุรี หลายท่านคงนึกถึง "คลองโคนและบางตะบูน" แต่มีอีกหลายท่านอาจจะไม่ทราบว่า อยู่ตรงแห่งหนใด เพราะเป็นเส้นทางลัดจากถนนเพชรเกษมหลัก ตัดผ่านไปถึงชะอำ โดยเลาะเลียบอ่าวบางตะบูน เป็นเส้นทางธรรมชาติที่สามารถชมทิวทัศน์ ต้นไม้และกลิ่นไอทะเลได้ตลอดทาง

            ตลอดทั้งเส้นทาง คลองโคน-บางตะบูน จะพบกับร้านอาหารทะเลมากมายสองข้างทาง ให้เลือกเข้าไปทานได้ตามอัธยาศัย และระหว่างเส้นทางที่ขับรถ ริมทางก็จะพบกับเพิงขายปูม้านึ่ง มากันครบทั้งแบบเป็นถุงยังไม่แกะ รวมถึงก้ามปูใบ้

           ขอพูดถึง "ก้ามปูใบ้" สักนิดนะครับ ปูใบ้เป็นปูทะเลตัวเล็กๆ แต่ก้ามปูใบ้เนื้อค่อนข้างแน่นเหมือนปูทะเล และอาศัยอยู่บริเวณโขดหิน ชาวประมงจับปูใบ้มาเพื่อเด็ดก้ามใหญ่ออกแล้วปล่อยกลับลงทะเล เพียงไม่กี่เดือนก้ามปูใบ้ก็จะงอกออกมาใหม่ดังเดิม และที่สำคัญราคาของก้ามปูใบ้ยังไม่สูงเท่ากับปูทะเล จึงเป็นที่นิยมของคนที่ชื่นชอบการทานก้ามปู

         โดยส่วนตัวเป็นคนไม่ชอบทานปู ไม่ใช่ว่าแพ้ หรือว่าไม่ชอบรสชาตินะครับ แต่เป็นเพราะทั้งแกะไม่เป็น และขี้เกียจแกะครับ ไม่อยากมือเปื้อนแล้วมาจับช้อนทานข้าว (กลิ่นปูมันติดมือทนนานนะครับ กว่าจะล้างออก)  แต่เมื่อเราได้ดูรายการทีวีรายการหนึ่งที่่พามากินที่ร้านครัวบางตะบูน (ลุงญา) เช่นเดิมครับ เมื่อดูแล้วก็เกิดกิเลสอยากตามรอย เพราะการมาทานปูที่นี่ เราไม่ต้องแกะอะไรเลยครับ ปูม้านึ่งจะมาแบบพร้อมทานให้เรา เพียงแค่ตักขึ้นมาใส่ปาก หรือจะจิ้มน้ำจิ้มสักนิดเพือเพิ่มรสชาติ

           และแล้วเราก็มาถึงร้านอาหาร ครัวบางตะบูน (ลุงญา) ที่ร้านอาหารแห่งนี้จะมีลานจอดรถฝั่งตรงข้ามร้านไว้บริการ สังเกตตามป้ายนะครับ ที่นี่หยุดทุกวันจันทร์ เมื่อจอดรถแล้วก็เดินข้ามถนน มาถึงทางเข้าหน้าร้าน ตัวร้านอาหารจะต้องเข้าไปในซอยอีกทีนะครับ แต่ระหว่าง 2 ข้างทางก็จะมีของวางขายมากมาย เริ่มตั้งแต่ปากทางเข้าจวบจนถึงหน้าร้านอาหาร จะมีใบชะคราม รังนก ของตากแห้ง ขนม ลูกตาลลอยแก้ว ผลไม้ ของดอง ปลาทอด ตลอดจนถึงปูม้านึ่ง ที่บริการแกะใส่กล่องวางขาย ให้เลือกซื้อได้ทั้งขาไปและขากลับจากการทานอาหารแล้ว


ป้ายทางเข้าที่จอดรถ



ลานจอดรถค่อนข้างกว้าง ไม่ต้องกังวลว่ามาแล้วไม่มีที่จอดรถครับ



พร้อมแล้วก็ข้ามฝั่งถนน เข้าร้านกันเลย


ร้านอาหารอยู่ริมแม่น้ำ เพราะงั้นเราจะต้องเดินเข้าไปในซอย


ระหว่างทางเดินเข้าไปในร้าน จะมีของขายข้างทาง


มีขายของตากแห้ง และกะปิ


ขนม ผลไม้ ของดอง มีครบ


จะแวะซื้อก่อนหรือหลังการทานอาหาร ก็ตามสะดวกครับ

ปูม้านึ่งแกะพร้อมทาน กล่องละ 350 บาท ซื้อ 3 กล่องได้ในราคา 1000 บาทครับ

ห่อหมกทะเลก็มา ทำกันสดๆ

เดินเข้ามาจนสุดทางก็จะพบกับร้านอาหาร 

                     หลายเมนูของที่นี่ถ้ามาช่วงบ่ายโมง อาจจะหมดได้ โดยเฉพาะเมนูหอยหลอด หมดไวมากครับ ถ้าอยากทานควรจะมาไวสักนิดนึงนะ ที่นี่ไม่มีเมนูปูทะเลนะครับ เมื่อมาถึงก็แจ้งพนักงานได้เลยว่ามากี่ท่าน หลังจากได้โต๊ะนั่งแล้วก็จะนำเมนูมาให้เลือกพร้อมรอรับรายการอาหาร

                   ระหว่างที่่รอ แอบได้ยินลูกค้าโต๊ะอื่นๆพูดว่า โชคดีวันนี้มาไว คนน้อย เหมือนๆกับว่า ถ้ามาช่วงเวลาเที่ยงๆ ต้องรอคิวโต๊ะกันเลยครับ ทางร้านอาหารมีบริการโซนห้องแอร์ด้วยอยู่ทางด้านข้าง โดยคิดค่าบริการเพิ่ม ท่านละ 10 บาท

                  หลังจากสั่งรายการอาหาร ใช้เวลาเพียงไม่นานครับ น่าจะแค่ 5-8 นาที อาหารที่สั่งก็มากันครบ เราสั่งปูม้านึ่ง เลี่ยงที่จะสั่งแต่กรรเชียงนึ่งเพราะกลัวว่าจะเลี่ยนถ้ากินเนื้อปูแค่ส่วนเดียว สั่งมาทั้งตัวเลยดีกว่า ได้กินครบทุกส่วน หอยหลอดผัดฉ่า น้ำพริกไข่ปู เรียกว่า เลือกมาจากเมนูแนะนำล้วนๆ


หน้าแรกของเมนู


เมนูแนะนำ



เมนูแนะนำ



น้ำแข็ง 1 ถังกับน้ำเปล่า


จาน ช้อนส้อม ถ้วยแบ่ง


น้ำพริกไข่ปู มาพร้อมกับใบชะคราม ราดด้วยน้ำกะทิ


หอยหลอดผัดฉ่า


ปูม้านึ่ง


ค่าเสียหายรวม ข้าว 1 จานและเครื่องดื่ม เป็นเงิน 900 บาท


                    เมนูปูม้านึ่ง รสชาติหวาน สด อร่อย สมกับที่ทางรายการทีวีแนะนำ และหลายท่านที่รีวิวร้านนี้ในหลายกระทู้ ราคาปูม้านึ่ง จะอยู่ที่จานละ 600 บาท โดยจะทำการชั่งน้ำหนักก่อนนำมาเสริพ์ และเนื้อกรรเชียงก็ราคาจานละ 600 บาทเช่นกัน สามารถเลือทานกันได้ตามใจชอบครับว่า ชอบเนื้อเน้นๆ หรือว่าชอบเนื้อแบบหลากหลายทุกส่วนของตัวปู ทานคู่กับน้ำจิ้มซีฟู้ด อร่อยเด็ดจ้า

                 น้ำพริกไข่ปู มาแบบรสชาติจัด เข้มข้น ครบรส มีเนื้อไข่ปูมาแน่นๆ ไม่ได้ใสแจ๋วเหมือนบางที่ มาพร้อมกับใบชะครามราดด้วยน้ำกะทิ ทานคู่กันช่วยเพิ่มความหอมมันได้เป็นอย่างดี และมีผักสดทั้งผักกาดขาว ถั่วฝักยาว และแตงกวา

                หอยหลอดผัดฉ่า รสชาติถึงพริก ถึงเครื่องเทศ เผ็ดร้อน ทานคู่กับข้าวสวย มีโถ หมดโถ แต่เนื่องด้วยเรามากันสองคน เลยเน้นทานกับ ไม่เน้นข้าว แก้เผ็ดกันด้วยเนื้อปูหวานๆ

              สรุป ร้านอาหารครัวบางตะบูน (ลุงญา) รสชาติอาหารไทย เผ็ด เครื่องเทศ มาครบ ถ้าสั่งอาหารรสจัด ไม่น่าจะผิดหวังกับรสชาติ สำหรับบรรยากาศ ริมน้ำธรรมดา เหมาะสำหรับมานั่งทานอาหาร มากกว่ามาชมวิวครับ

              ราคาค่าเสียหายอยู่ที่ 900 บาทพอดี ถือว่าคุ้มค่ากับรสชาติและปริมาณอาหารที่ได้รับ แอบเสียดายที่เรามากันแค่สองคน เลยไม่สามารถสั่งอาหารเมนูอื่นมาลองได้อีก เป็นร้านอาหารอีกร้านที่ต้องหาโอกาสกลับมาลิ้มลองเมนูอื่นๆอีกแน่นอน


             ก่อนออกจากซอยร้านอาหารครัวบางตะบูน แฟนเหลือบไปเห็นมะม่วงลูกใหญ่ ขนาดเกือบเท่ามะละกอ วางกองกันอยู่ ด้วยความที่เผ็ดจากอาหาร เลยอยากหาอะไรแก้เผ็ด คนขายบอกว่า เป็นมะม่วงเขียวเสวย ราคากิโลละ 60 บาท ด้วยความอยากลองเลยเลือกลูกที่เล็กที่สุด หนัก 1 กก.พอดี คนขายใจดีบริการปอก หั่น ใส่กล่องใส สวยงามพร้อมทานให้เลย ทั้งกล่องนี่ ลูกเดียวนะครับ รสชาติ กรอบ มันอร่อย แต่มีแอบอมเปรี้ยวนิดนึง


มะม่วง 1 ลูก หนัก 1 kg พอดี

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม