วันเสาร์ที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2561

ก๋วยเตี๋ยวเรือขึ้นห้าง

              ช่วงเวลาเร่งรีบในช่วงวันศุกร์ตอนเย็น ณ ตึกฟอร์จูนทาวน์ บนถนนรัชดาภิเษก มีเวลาไม่มากในการทานอาหารก่อนที่จะไปซื้อของโลตัสต่อ อาหารง่ายๆ เบาๆ ไม่หนักท้อง หลังจากเดินสำรวจหาร้านดังกล่าวอยู่นาน เราก็ตกลงที่จะทานที่ ร้านก๋วยเตี๋ยวเรือขึ้นห้าง ที่ร้านนี้มีทั้งก๋วยเตี๋ยวเรือ และส้มตำให้เลือกสั่ง ถ้ามาในช่วงเวลากลางวัน ก็จะมีปอเปี๊ยะสด หมูสะเต๊ะ และข้าวซอยให้บริการด้วยนะครับ ขนมหวานก็มี แต่เรามาในช่วงเย็น จึงจะมีแต่เพียงลูกชิ้นหมูปิ้ง

               



              มาถึงร้านจะมีให้นั่งสองฝั่งนะครับ ทั้งภายในร้าน และฝั่งตรงข้าม ตรงใต้บันไดเลื่อน เลือกที่นั่งได้ตามอัธยาศัย จากนั้นก็จะมีน้องพนักงานส่งเมนูให้เราทำการเลือกสั่งอาหารครับ วันนี้แฟนเลือกที่จะทานเป็น เส้นหมี่น้ำตก พิเศษเพิ่มหมู ไม่ใส่ผัก ไม่ใส่กระเทียมเจียว (รายการสั่งค่อนข้างยาว แต่มันก็คือชามเดียว) ตามด้วย ส้มตำไทย เผ็ดรสจัด และ ส้มตำลาวอุดร ไม่ใส่พริก (น้องทางร้านบอกว่า ก็คือส้มตำปลาร้า ไม่ใส่ปู) ใช้เวลาไม่นานนะครับ อาหารก็มาทะยอยเสริฟ์กันที่โต๊ะ


ส้มตำไทยรสจัด

น้ำดื่ม และน้ำแข็ง

ส้มตำลาวอุดร ไม่ใส่พริก

เส้นหมี่น้ำตก พิเศษ เพิ่มหมู

                     รสชาติส้มตำไทย ออกหนักเปรี้ยวนำ ไม่ค่อยถูกใจคุณแฟนเท่าไรครับ สำหรับตำลาวอุดร อันนี้มาตามสูตร ไม่ใส่น้ำตาล ไม่ใส่ปู ปลาร้าก็นัวใช้ได้ครับ รสชาติทานได้ สำหรับเมนูก๋วยเตี๋ยวเรือ ซึ่งเป็นจานหลักของร้านนี้ รสชาติอร่อยครับ น้ำซุปมาร้อนๆ หมูนุ่ม

                     สรุปค่าเสียหาย 164 บาทครับ สำหรับมื้อนี้ ถ้ามีโอกาสผ่านมาที่ห้างฟอร์จูนทาวน์ รัชดาภิเษก อย่าลืมมาลองแวะทานกันดูนะครับ

วันศุกร์ที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2561

ร้าน คำพูน สาขาเซ็นทรัลพระราม 9

                    เนื่องด้วยเพื่อนสนิทมารับถึงบ้าน เพื่อไปหาข้าวเย็นทานกัน แต่เราอยู่ในช่วงคุมน้ำหนักที่ขึ้นกระฉูดฉุดไม่อยู่ จึงขอเสนอว่า เมนูส้มตำ ไม่ก็สลัดนะเพื่อน เพื่อนผู้น่ารัก จึงเสนอร้าน คำพูน ที่เซ็นทรัลพระราม 9 พิกัดชั้นใต้ดิน ฝั่งใกล้ Top supermarket

                   หลังจากฝ่ารถติด และควานหาที่จอดรถในช่วงเย็นของวันพฤหัสสำเร็จ เราก็เดินมุ่งหน้าไปที่ร้าน คำพูน ด้วยความหิวโหยกัน ไปถึงหน้าร้าน หลังจากแจ้งจำนวนลูกค้าแล้ว ก็เดินไปเลือกนั่งโต๊ะตามอัธยาศัย ในวันนี้ก็มีแขกในร้านประปรายนะครับ

                 เหมือนเช่นทุกๆร้านอาหารครับ เมื่อเรานั่งที่โต๊ะแล้ว พนักงานก็จะนำเมนูมาให้เราเลือกรายการอาหาร พร้อมแนะนำว่า ช่วงนี้มีโปรโมชั่นพิเศษ ชำระค่าอาหารผ่านบัตรเครดิตกรุงศรีฯ จะได้รับส่วนลด 5% นะครับ เนื่องด้วยเพื่อนไม่ทานปลาร้า วันนี้เราจึงเลือกอาหารทุกรายการไม่ใส่ปลาร้าครับ
เปิดเลือกกันสักพัก ก็ได้มา 4 เมนู ต้มแซ่บกระดูกหมูอ่อน/ตำแตงไข่ต้ม/ตำไทยไข่เค็ม/ลาบหมูสับวุ้นเส้น และข้าวเหนียว 1 ที่ครับ






ต้มแซ่บกระดูกหมูอ่อน

ข้าวเหนียวดำ

ลาบวุ้นเส้นหมูสับ

ส้มตำไทย ไข่เค็ม

ตำแตงไข่ต้ม

               
                สรุปรสชาติอาหารโดยรวมเลยนะครับ เมนูแรกที่มาถึง ต้มแซบกระดูกหมูอ่อน ถึงจะมีไฟมาให้อยู่ด้านล่าง แต่อยากจะบอกว่า ไม่ได้ช่วยทำให้ต้มแซบร้อนแต่อย่างใดครับ เรียกว่า มีประดับให้สวยงามเฉยๆก็ว่าได้ครับ แต่ก็ดีสำหรับคนไม่ชอบทานของร้อนแบบเรา ตัวกระดูกหมูอ่อนจริงครับ เคี้ยวได้สบายๆ ไม่ต้องกลัวฟันแตก เจ็บฟันกัน มาแบบตุ๋นนุ่มๆมาแล้ว รสชาติเข้มข้นทานได้ แต่ไม่ถึงกับจัดจ้าน

                   ส้มตำไทยไข่เค็ม และตำแตงไข่ต้ม มาแนวรสชาติเปรี้ยวหวาน รสชาติปกติ ทานได้ครับ แต่ไม่ถึงกับอร่อย ลาบหมูสับวุ้นเส้น ก็รสชาติปกติครับ ทานได้ แต่ไม่ถึงกับโดนในรสชาติเท่าไร สำหรับข้าวเหนียวที่นี่มีให้เลือก 2 แบบนะครับ ระหว่างข้าวเหนียวขาวปกติ กับข้าวเหนียวดำ

                  ค่าเสียหายในวันนี้ 600กว่าบาท เมื่อเทียบกับรสชาติ และปริมาณที่ได้รับ ก็รู้สึกว่าค่อนข้างแพงครับ แต่ก็คิดว่าเป็นค่าสถานที่ เพราะภายในร้านตกแต่งให้นั่งสบาย เราสามารถนั่งคุยกับเพื่อนไปได้เรื่อยๆ ไม่ต้องรีบร้อน เหมาะสำหรับมานั่งทานอะไรเบาๆ พูดคุยกัน ถ้าถามว่า โอกาสหน้าจะมาซ้ำอีกหรือเปล่า ต้องขอบอกว่า รอบเดียวพอครับสำหรับเรา

ร้าน ครัวบ้านเห็ด

                  มื้อเย็นวันนี้มีความรู้สึกอยากหาอะไรเบาๆทานกัน ก็เลยตัดสินใจว่า ส้มตำ เป็นอาหารที่น่าจะย่อยง่าย และไม่สร้างไขมันสะสมในร่างกายของเราสองคน ด้วยภารกิจที่ต้องไปซื้อของที่แมคโครสาขาศรีนครินทร์ ทำให้เราตัดสินใจที่จะกินมื้อเย็นกันที่ร้าน ครัวบ้านเห็ด ทีตั้งอยู่แถวสี่แยกศรีนครินทร์

                 ที่ร้านจะอยู่ในตัวโซนของร้านอาหารหลายร้าน มีที่จอดรถกว้างขวาง มีห้องน้ำส่วนกลางไว้ให้บริการพร้อม เมื่อจอดรถเสร็จแล้วก็เดินมาที่หน้าร้านกันเลยครับ ด้านหน้าของร้านจะมีป้ายแสดงเมนูแนะนำ และมีเคาน์เตอร์ไว้ให้เราบริการตัวเองในการหยิบอุปกรณ์ในการทานอาหารทั้ง จาน ช้อน ส้อม แก้วน้ำ หลอด และน้ำแข็ง น้ำ ตรงนี้บริการฟรีครับ สำหรับข้าวเปล่า ที่นี่มีเป็นบุฟเฟ่ต์ครับ 10 บาท สามารถเติมข้าวเปล่าได้เรื่อยๆ แต่ห้ามทานเหลือนะครับ












               สำหรับท่านที่ไม่อยากทานน้ำเปล่าฟรีในถัง สามารถสั่งน้ำขวดได้เช่นกันครับ มีเป็นตู้แช่ให้บริการอยู่ตรงด้านในร้าน หลังจากเลือกที่นั่งได้แล้ว พนักงานในร้านก็จะนำเมนูมาให้เลือกสั่งอาหารกันครับ ที่นี่มีอาหารหลากหลาย




                หลังจากเปิดเมนูวนไปวนมา 2 รอบครึ่ง เราก็ได้เมนูที่ต้องการกันครับ ตำถั่วปลาร้า ไม่ใส่พริก / ตำไทย เผ็ด รสจัด / แกงเห็ด และข้าวเหนียว 1 ถุง ใช้เวลาในการทำไม่นาน อาหารก็มาเสริฟ์กันพร้อมหน้า


ตำถั่วปลาร้า ไม่พริก

ตำไทย เผ็ด รสจัด

แกงเห็ด ปลาร้า

ข้าวเหนียว

อาหารพร้อมทานครับ

                 เมนูส้มตำที่นี่ จะมียอดอ่อนดอกทานตะวันโรยมาให้ด้านบนด้วยทุกจานนะครับ คลุกแล้วทานเข้ากับส้มตำอร่อยเป็นอย่างดี ถึงแม้ขนาดใหญ่ของมันจะเป็นอุปสรรคในการทานอาหารของเราบ้าง ทำให้รอบๆปากมีเปื้อนเป็นระยะ แต่รสชาติตำถั่วปลาร้า ที่นี่ รสชาตินัวมากครับ ปลาร้าอร่อย ถึงจะสั่งไม่พริก แต่ก็ยังคงมีความเผ็ดของครกก่อนหน้า ที่ทำให้ต้องซดน้ำไปหลายแก้ว

               แกงเห็ดที่นี่รสชาติกลมกล่อมดีครับ ผักก็มีให้มาครบ ฟักทอง น้ำเต้า ใบย่านาง เห็ดฟาง เห็ดเข็มทอง เห็ดหูหนู ซดน้ำร้อนๆ ลวกปากลวกคอกันดีครับ สำหรับตำไทยจานนี้แฟนบอกว่ารสชาติจัดจ้าน เผ็ดถึงใจ แต่ก็มาแอบซดน้ำปลาร้าจานตำถั่วของเราตลอด เพราะติดใจความนัวของน้ำปลาร้าร้านนี้

              สรุปรสชาติ อร่อยกลมกล่อมดีครับ โดยเฉพาะน้ำปลาร้า ถ้าสั่งเมนูที่ใส่น้ำปลาร้า ต้องบอกว่าไม่ผิดหวังแน่นอน และสำหรับราคา มื้อนี้เบ็ดเสร็จที่ 160 บาทถ้วนครับ ถ้ามีโอกาสมาแถวศรีนครินทร์ ลองแวะมาทานกันนะครับ

บทความที่ได้รับความนิยม