วันอังคารที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2565

ร้านข้าวสวยโปนายพล

                                 



                         ช่วงเวลาเย็นๆ เรามาทำธุระกันแถววงเวียน 22 แล้วรู้สึกว่าอยากทานเป็ดย่าง ก็เลยนึกถึงร้านข้าวสวยโปนายพล เป็นร้านอาหารจานเดียว สไตล์รถเข็น พิกัดอยู่ริมถนน ตรงข้ามโรงพยาบาลกลาง ซึ่งเป็นร้านประจำของมิสเตอร์ทีและผองเพื่อน ตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย จนปัจจุบัน (ระยะเวลาเกือบ 20ปี) สำหรับที่จอดรถ ด้วยเป็นช่วงเย็น ทำให้สามารถจอดได้ที่ริมถนนแถวหน้าร้านนะครับ


หน้าร้าน

เป็ดย่าง

รายการอาหาร

                ทางร้านมีโต๊ะให้นั่งทาน อยู่ด้านข้างของรถเข็นนะครับ ส่วนเมนูและราคา สามารถดูได้จากป้ายที่แขวนไว้ได้เลยครับ จะเห็นได้ว่าทางร้านมีให้เลือกสั่งหลายอย่างนะครับ วันที่ไป มีขาหมูด้วยครับ (สามารถระบุได้ด้วยว่า ขอส่วนหนัง/เอ็น/เนื้อ) เรียกว่าครบจบในร้านเดียว หลังจากสั่งอาหารกันแล้ว ใช้เวลาไม่นานครับ ก็นำออกมาเสริฟ์กันที่โต๊ะ


กาน้ำชาจีน

แกงฟักมะนาวดอง

ข้าวหน้าเป็ด+หมูกรอบ

ข้าวหน้าเป็ด+หมูกรอบ

ขาหมูหนัง+เอ็น

ข้าวสวยโป

              สำหรับรสชาติอาหาร ตามความเห็นส่วนตัวของครอบครัวเรานะครับ น้ำราดเป็นอะไรที่อร่อย กลมกล่อม ลงตัวมากๆ ทางร้านใช้เป็ดเชอรี่ ย่างออกมาได้หอม มันแทบไม่มี หนังอาจจะไม่กรอบ แต่เนื้อนุ่มอร่อยครับ หมูกรอบก็กรุบกรอบ ชั้นมันบางๆ ไม่มีความแข็งแทงปากแต่อย่างใด

                      เนื้อหมูย่าง ค่อนข้างแห้งไปสักนิด เมื่อเทียบกับเนื้อสัมผัสของเป็ดย่าง แต่ก็ทานได้ครับ อยู่ในเกณฑ์ปกติ และขาหมู รสชาติกลมกล่อมดีครับ นุ่มละมุน สำหรับคนที่ชอบทานพริกน้ำส้มคู่กับขาหมู ต้องขอบอกว่ายังไม่ค่อยสุดสักเท่าไรนะครับ แต่โดยรวมแล้วอร่อยมากครับ

                      แกงฟักมะนาวดอง รสชาติกลมกล่อมมากๆครับ ทานแล้วรู้สึกคิดถึงสมัยเด็กๆ ที่เคยทานช่วงตรุษจีน (มีเป็ดไก่ไหว้เจ้า จำนวนมาก แล้วเลาะเอากระดูกมาต้มน้ำแกงฟัก) รสชาติอมเปรี้ยวน้อยๆ ให้ความรู้สึกสดชื่น แก้เลี่ยนจากการที่ทานอาหารเนื้อสัตว์ได้เป็นอย่างดีครับ ในน้ำแกงมีให้ขาเป็ดมาด้วย เนื้อนุ่มกำลังดี และน้ำชาจีนบนโต๊ะก็รสชาติหอม อร่อยชื่นใจครับ

                    สรุปความคุ้มค่า เมื่อเทียบคุณภาพอาหาร ปริมาณอาหาร และความอร่อยที่ได้รับ กับค่าเสียหายมือนี้ ต้องบอกว่า คุ้มค่ามากๆครับ สมกับเป็นร้านอาหารที่ทานกี่ครั้งก็ยังคงประทับใจ จนต้องสั่งกลับบ้านอีก 2 ตัวครับ (สามารถแจ้งว่าเลาะกระดูก แล้วขอกระดูกกลับมาต้มน้ำแกงเองได้ด้วยนะครับ)


เป็ดสับกลับบ้าน


วันอังคารที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2565

ร้าน มิตรปลาจุ่ม

                        



                   ในช่วงของวันเสาร์ตอนเย็น เราและครอบครัวแฟน รวมกัน 5 ชีวิต อยากจะหาอะไรที่เบาๆทานกันเป็นอาหารเย็น โดยไม่อยากเน้นแป้ง เป็นเนื้อสัตว์และผัก เพื่อสุขภาพที่ดี แล้วก็นึกถึงสโลแกน ของร้านอาหารแห่งนึง "กินปลา อายุยืน" เมื่อได้พิกัดร้านอาหารแล้ว จึงทำการโทรจองโต๊ะกันก่อนครับ
          
                   ร้านมิตรปลาจุ่ม เมื่อก่อนตั้งอยู่ที่ดาดฟ้า ในซอยลาซาล ปัจจุบันย้ายที่ตั้งอยู่บริเวณปากซอยแบริ่ง 23 โดยทางร้านมีลานจอดรถให้บริการอยู่ด้านหลังร้าน และทางร้านมีประตูหล้างร้าน ให้เข้าได้จากทางด้านหลังเช่นกัน ก่อนเข้าประตูหลังร้าน จะมองเห็นมีห้องน้ำให้บริการอยู่ด้านหลังครับ

ด้านหลังร้าน

ลานจอดรถ

ประตูด้านหลังร้าน

เคาน์เตอร์หน้าร้าน

ประตูหน้าร้าน

บรรยากาศหน้าร้าน

             ภายในร้าน ไม่ได้กว้างขวางมากนะครับ ทำให้มีโต๊ะให้บริการประมาณไม่ถึง 20 โต๊ะ จึงเหมาะกับการที่เราจะโทรเข้ามาจอง ก่อนเข้ามาใช้บริการครับ หลังจากมาถึงโต๊ะอาหารแล้ว น้องพนักงานก็จะนำเมนูมาให้เราทำการเลือกสั่งอาหารกันครับ

โต๊ะทานอาหาร


เมนูอาหาร

เมนูพิเศษ

เมนูพิเศษ


                 โดยจะมีโปรโมชั่นเป็นเซ็ทให้เลือกค่อนข้างหลากหลาย และมีแบบให้สั่งแยกได้ด้วยนะครับ วันนี้พวกเราก็ตั้งใจจะสั่งชุดเมืองทิพย์มหานครกันครับ แล้วก็สั่งเนื้อสัตว์อย่างอื่นเพิ่มเข้ามา หลังจากสั่งเนื้อสัตว์กันเป็นที่เรียบร้อย น้องพนักงานก็ถามถึงน้ำซุปครับ 1 หม้อ เลือกสั่งได้ 2 น้ำครับ พวกเรามากัน 5 คน ทางน้องพนักงานให้ 2 หม้อครับ (หม้อที่ 1 น้ำซุปน้ำดำ+ซุปเต้าเจี้ยว / หม้อที่ 2 น้ำซุปหม่าล่า+น้ำใส)

             
น้ำจิ้ม (ซีฟู้ด/เต้าเจี้ยว/น้ำจิ้มสุกี้)

อุปกรณ์ในการทาน

ใบอธิบายการทาน

เตาไฟฟ้า

กระดาษทิชชู่


                 ระหว่างรอหม้อน้ำซุป ทางน้องพนักงานก็เข้ามาแจ้งว่า ชุดเซ็ทที่พวกเราทำการสั่ง จะขออนุญาติเสริฟ์มาเป็นแบบจานแยก เพราะชุดที่ตั้งจานใหญ่แบบในภาพ มีลูกค้าอีกท่านสั่งไปแล้ว ชุดชั้นที่จะวางพอดีเหลือเพียงชุดเดียว แต่จะทำการคิดราคาให้ตามเซ็ท


น้ำชาจีน

ซุปน้ำดำ / ซุปเตี้ยวเจี้ยว

ซุปหม่าล่า / ซุปใส

ชุดผัก

เนื้อปลาคัง

เนื้อปลาคัง ปลาทับทิม ปลากระพง

เนื้อปลาคัง ปลาทับทิม ปลากระพง

หมูเด้ง

ลวกเนื้อปลา

นาฬิกาทรายจับเวลา 1 นาที

เห็ดหอมสด


หมูสันคอ หมูสันนอก สามชั้น ตอกไข่

ชุดลูกชิ้น

ฟองเต้าหู้

เกี๊ยวและสาหร่ายห่อ


                           สำหรับรสชาติอาหารตามความเห็นส่วนตัวของพวกเรานะครับ เริ่มจากน้ำซุป ทั้ง 4 อย่าง ต้องบอกว่า ซุปกลมกล่อมดีครับ รสชาติทานแล้วสดชื่นทั้ง 4 อย่าง น้ำซุปหม่าล่า ไม่ได้มีความเผ็ดชาแบบเข้มข้นมากเหมือนทางร้าน CQK แต่ก็นับว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติดีครับ ในส่วนของน้ำจิ้ม รสชาติอร่อยทั้ง 3 แบบ แต่ส่วนตัวชอบน้ำจิ้มซีฟู้ดครับ รสชาติมีความเข้มข้น เผ็ดถึงใจ ทานคู่กับอาหารลวกจิ้มได้เป็นอย่างดี

                          สำหรับความสดของวัตถุดิบ อยู่ในเกณฑ์ดีครับ สด สะอาด คุณภาพดีครับ ทั้งผักสด และเครื่องลูกชิ้น โดยเฉพาะฟองเต้าหู้ เป็นเมนูที่แฟนชื่นชอบอย่างมาก สั่งเพิ่มอย่างไว เป็นร้านอาหารที่มีความสะอาด และใส่ใจในการบริการให้กับลูกค้าเป็นอย่างดี มีทั้งนาฬิกาไว้ให้จับเวลา สำหรับการลวกเนื้อปลา รวมถึงมีกระดาษที่วางบนโต๊ะ แนะนำการใส่เนื้อปลาลงไปในหม้อน้ำซุปอีกด้วย ในส่วนของเครื่องดื่ม น้ำชาจีน รสชาติหอมละมุนครับ ไม่มีน้ำตาลผสม ชุ่มคอดี เป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพอีกเช่นกัน
                           
                            สรุปความคุ้มค่าของคุณภาพอาหาร ปริมาณอาหาร และความอร่อยที่ได้รับ เทียบกับราคาค่าอาหารที่จ่ายไป พวกเราลงความเห็นตรงกันว่า คุ้มค่าดีครับ เป็นการทานอาหารที่ได้สุขภาพดีไปด้วย ติดอยู่ข้อเดียวคือ อากาศภายในร้านครับ อาจจะเป็นเฉพาะโต๊ะที่เรานั่งทานหรือเปล่าไม่ทราบครับ แต่ค่อนข้างร้อนทีเดียว เหมือนความเย็นของเครื่องปรับอากาศจะมาไม่ค่อยถึงครับ มีโอกาสหน้า จะต้องกลับมาใช้บริการอีกครั้ง อย่างแน่นอนครับ (ปล. เพิ่งมาดูที่บิลค่าเสียหายตอนจะรีวิว ว่ามีการคิดราคาบะหมี่หยกโปร 20 บาท แต่เหมือนว่าจะไม่ได้รับรายการอาหารเมนูนี้นะครับ 555)



บิลค่าเสียหาย


ร้านอาหาร จ๊อด เย็นเจี๊ยบ

                        



                                ร้านอาหาร จ๊อด เย็นเจี๊ยบ เป็นร้านที่เราได้เห็นการรีวิวผ่าน youtuber ท่านนึงเป็นเวลานานแล้ว โดยข้อมูลก็คือ เป็นร้านอาหารสไตล์บ้านๆ มีทีเด็ดที่เนื้อปลา ถึงจะเป็นปลาแช่ขัง แต่ก็ปรุงรสเครื่องแกงที่มีความจัดจ้าน สามารถกลบความคาวของเนื้อปลาได้เป็นอย่างดี

                            โดยในวันนี้เรามีโอกาสไปทำธุระแถวอุทัยธานี ก่อนกลับเข้ากรุงเทพ จึงแวะไปที่ร้านจ๊อดกันก่อนกลับ เส้นทางค่อนข้างจะลึกจากถนนเส้นหลักพอสมควร เรียกว่า ต้องมีความมุ่งมั่นที่จะมาทาน ถึงจะมาทานที่ร้านได้ จะแบบทางผ่านพอดี ค่อนข้างยากครับ เรามาถึงร้านในเวลาประมาณ 11.30 ภายในร้านยังมีลูกค้าเพียงโต๊ะเดียว ลานจอดรถกว้างขวางมาก


ห้องปรับอากาศ

ป้ายหน้าร้าน

ป้ายหน้าร้าน

ลานจอดรถ

ลานจอดรถ

ทางเข้าร้าน

                     

ทางเข้าไปห้องปรับอากาศ

ขายขนมของฝาก

ป้ายเมนู

ป้ายเมนู

                 ด้วยอากาศในวันนี้ แดดค่อนข้างแรง ความร้อนจึงค่อนข้างมาก พวกเราจึงตัดสินใจเลือกนั่งทานกันในห้องปรับอากาศครับ หลังจากเลือกโต๊ะที่นั่งได้เป็นที่เรียบร้อย น้องพนักงานก็นำเมนูมาให้เลือกสั่งอาหารกันครับ


เมนู

เมนู

                   หลังจากสั่งอาหารกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว น้องพนักงานก็นำเครื่องดื่มมาให้บริการครับ ปกติพวกเราไม่ค่อยทานน้ำอัดลมกันเท่าไรครับ แต่ด้วยเคยดูในรีวิวมา ทางร้านเสิรฟ์มาเป็นแบบเกล็ดน้ำแข็ง ก็เลยต้องขอลองสักหน่อย แต่ปรากฏว่า ไม่ได้แบบเป็นเกล็ดน้ำแข็งครับ (แอบเสียใจ ค่อนข้างมาก)


เครื่องดื่ม

โค้กน้ำใสแจ๋ว

อุปกรณ์ในการทาน

                จากนั้นใช้เวลาไม่นาน อาหารก็จะเริ่มทะยอย นำออกมาเสิรฟ์ครับ โชคดีที่เราไปในช่วงเวลาที่ลูกค้ายังไม่ค่อยมี ทำให้อาหารออกมาในเวลาไม่นาน 


ทอดมันจานเล็ก

น้ำจิ้มทอดมัน

พริกน้ำปลา

ข้าวเปล่า

ผัดเผ็ดไก่บ้าน

ปลาค้าวทอด

น้ำจิ้มซีฟู้ด

แกงป่าปลากราย

กระเทียมโทนทอด

ซอสพริก

ผัดต้นอ่อนทานตะวันใส่กุ้ง

ฉู่ฉี่ปลาน้ำเงิน

ผัดฉ่าปลาคัง

บัวลอย

ทับทิมกรอบ

                         สำหรับรสชาติอาหารตามความเห็นส่วนตัวของครอบครัวเรานะครับ โดยจะตัดความผิดหวังที่ไม่ได้ทานโค้กเกล็ดน้ำแข็งออกไป เริ่มจากทอดมันปลา เนื้อสัมผัสค่อนข้างเด้ง นุ่มครับ แต่รสพริกแกงไม่ค่อยเข้มข้นเท่าไร รสชาติปกติครับ น้ำจิ้มทอดมันค่อนข้างแปลกตากับร้านอาหารอื่นๆ 

                       ปลาค้าวทอด เมนูนี้ให้ชนะเลิศครับ เนื้อสัมผัสดีมากๆ ด้านนอกกรอบ เนื้อปลาด้านในนุ่มละมุน แต่จะดีกว่านี้ถ้าเราแจ้งทางร้านให้แยกน้ำปลาที่ราดออกต่างหากครับ เพราะถ้าไม่ได้ทานให้หมดแต่แรก ทิ้งไว้นาน จะทำให้ความเค็มเข้าไปในเนื้อสัมผัสของปลาค่อนข้างมาก

                          ผัดเผ็ดไก่บ้านและแกงป่าปลากราย สองเมนูนี้ให้ความรู้สึกว่า ไม่น่าสั่งเลยครับ เริ่มจากไก่บ้านมาแบบหั่นเป็นท่อนๆ ซึ่งจะมีกระดูกอยู่ด้านในแทบทุกชิ้น ต้องใช้ความระมัดระวังในการทานค่อนข้างมาก ทำให้ไม่ชอบเป็นการส่วนตัวครับ และแกงป่าปลากราย เนื้อปลากรายให้ความรู้สึกคาวอยู่

                      กระเทียมโทนทอด และผัดต้นอ่อนทานตะวัน รสชาติปกติดีครับ ไม่ได้มีอะไรโดดเด่นเป็นพิเศษ ต่อด้วย ฉู่ฉี่ปลาน้ำเงิน เมนูนี้ทางร้านทำออกมาได้อร่อยดีครับ แต่รสชาติเครื่องแกง ถ้าเข้มข้นได้อีกนิด จะเป็นอะไรที่สุดยอดมากๆครับ จานนี้พวกเราสั่งเป็นเนื้อปลาสด แต่เมื่อทานแล้ว กลับรู้สึกว่า น่าจะสั่งแบบปลาทอดมากกว่า(จึงสั่งกลับบ้านกันครับ แล้วก็ได้คำตอบว่า เนื้อปลาทอดทำฉู่ฉี่อร่อยกว่ามาก)

                        ปิดท้ายอาหารกันด้วยเมนู ผัดฉ่าปลาคัง รสชาติเนื้อปลาคัง มาแบบเด้งๆ หนึบๆ เครื่องแกงจานนี้ครบรสมากครับ เผ็ดถึงใจ ทานคู่กับข้าวเปล่าร้อนๆ แล้วเพลินสุดๆ หลังจากเผ็ดร้อนกันมาแล้ว จึงต้องหาขนมหวานมาทานกันครับ ทางร้านมีให้บริการขนมหวานแบบแช่เย็น ต้องนำออกมาอุ่นกันครับ เริ่มจากบัวลอย มาแบบเนื้อแป้งค่่อนข้างนุ่ม รสชาติทานได้ปกติ ทับทิมกรอบก็รสชาติปกติครับ ทานได้

                    สรุปความคุ้มค่าอาหารมื้อนี้ เมื่อเทียบปริมาณอาหาร คุณภาพอาหาร และความอร่อยที่ได้รับ กับราคาอาหารที่จ่ายไป ต้องบอกว่า มีความคุ้มค่าอยู่ครับ ราคาอาหารค่อนข้างจะมิตรภาพมากๆ หรือจะเรียก "ถูก" ก็ยังได้ครับ หากมีโอกาสหน้า จะต้องกลับมาทานอีกครั้งอย่างแน่นอนครับ และมีเมนูในใจที่ยังอยากกลับมาทานอีกครับครับ และก็หวังว่า ครั้งหน้าที่มา จะมีโค้กเกล็ดน้ำแข็งให้เราได้ทานกันครับ และขอแนะนำสำหรับการสั่งอาหารนะครับ เป็นไปได้ ควรจะสั่งทีเดียวเลยครับ เพราะทางร้านจะทำอาหารตามโต๊ะครับ ตอนสั่งกลับบ้าน มีลูกค้าเข้ามาในร้านค่อนข้างมาก ทำให้เราต้องใช้เวลาในการรอค่อนข้างนานครับ ด้วยจะต้องทำตามคิวของลูกค้าที่มีการสั่งเข้ามาแล้ว


บิลค่าเสียหาย


บทความที่ได้รับความนิยม