วันอังคารที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2565

ข้าวมันไก่สามพี่น้อง สาขา The street รัชดา

                     



           ในช่วงเย็นของวันทำงาน บางครั้งเราก็อยากหาอะไรง่ายๆทานกันก่อนกลับบ้าน วันนี้เราจึงตัดสินใจไปหาร้านอาหารจานเดียวทานกันครับ เป้าหมายอยู่ที่ The Street รัชดา วางแผนไว้ว่าจะลองไปทานร้านอาหารที่อยู่ชั้นใต้ดินสไตล์ Food Court กันดูบ้าง แล้วสายตาก็ไปสะดุดกับป้ายร้าน ข้าวมันไก่สามพี่น้อง ซึ่งมีขายพวกยำด้วย จึงตัดสินใจลองทานกันครับ


ภายในร้าน

                      ภายในร้านจะมีเมนูให้เลือกสั่ง รายการอาหารอาจจะมีไม่ค่อยมาก แล้วก็มีเมนูติ่มซำของร้าน Little Hong Kong ให้เลือกสั่งได้ครับ แต่ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ด้วยวันนี้พวกเราต้องการความรวดเร็ว จึงไม่ได้สั่งมาทานกันครับ หลังจากสั่งอาหารเสร็จเรียบร้อย น้องพนักงานจะนำบิลมาให้ชำระเงินกันก่อนเลยจ้า


บิลค่าเสียหาย

                     หลังจากชำระเงินเป็นที่เรียบร้อย ใช้เวลารออาหารไม่เกิน 5 นาที ก็เริ่มนำออกมาเสริฟ์ครับ จะมีช้าสุดที่เมนู คะน้าฮ่องกงน้ำมันหอย ที่ใช้เวลาประมาณเกือบ 10 นาที


คะน้าฮ่องกงน้ำมันหอย

น้ำเก๊กฮวยเม็ดแมงลัก

ยำสามก๊ก

ข้าวกล้อง

น้ำซุป

น้ำจิ้มไก่

ข้าวมันไก่สองสหาย

                        หลังจากเห็นปริมาณของเนื้อไก่แล้ว จึงเลือกสั่งเพิ่มอีกจานครับ เช่นเดิมครับ หลังจากสั่งอาหารเรียบร้อย ก็ชำระเงินกันก่อน


บิลค่าเสียหาย 2

ไก่ทอด



                        สำหรับรสชาติอาหารตามความเห็นส่วนตัวของเรากับแฟนนะครับ ขอเริ่มจากเนื้อไก่ ไก่ต้มและไก่ทอด รสชาติปกติตามมาตราฐานทั่วไปครับ ต่างตรงที่เนื้อแป้งที่ชุบไก่ทอด จะมาแบบไม่กรอบ และปริมาณแป้งทอดไม่ได้มาก เนื้อสัมผัสด้านในยังคงนุ่มฉ่ำอยู่

                         สำหรับน้ำจิ้มไก่ รสชาติดีครับ น้ำจิ้มไก่ทอดมาตราฐานทั่วไป น้ำจิ้มไก่ต้มรสชาติอร่อยเลย มีความเผ็ดกำลังดี โดยเฉพาะน้ำจิ้มขิงซอย อันนี้อร่อยมากๆ ทานคู่กับไก่ทอดหรือไก่ต้มก็เข้ากัน ทางร้านมีข้าวให้เราสามารถเลือกได้ว่าจะรับเป็นข้าวหอมมะลิ หรือว่าข้าวกล้อง ตัวข้าวกล้องที่รับมา เนื้อสัมผัสข้าวดีครับ ไม่แข็งจนเกินไป นุ่มกำลังอร่อย

                         น้ำซุปที่ได้มากับข้าวมันไก่ ก็ซดคล่องคอครับ เป็นน้ำซุปผักกาดดอง เนื้อผักกาดดองอมเปรี้ยวพอสมควร คะน้าฮ่องกง ก็ลวกมาสุกกำลังดี ไม่แข็งหรือเหนียวจนเกินไป รสชาติอยู่ในมาตราฐานปกติครับ ในส่วนของยำสามก๊ก เป็นเมนูที่ไม่ได้คาดหวังสักเท่าไร แต่รสชาติน้ำยำ ทำออกมาได้ดีมากๆครับ รสชาติครบรสเลย เปรี้ยว หวาน เค็ม กำลังลงตัว ส่วนเครื่องที่ใส่มาจะเป็นไข่แดง หมูยอ และไส้กรอก คุณภาพปกติทั่วไป ส่วนของยอดมะพร้าวอ่อน มีแอบแข็งมากๆหลายชิ้น ไม่แน่ใจว่า เป็นเพราะยอดมะพร้าวอ่อนแก่เกินไป หรือว่าลวกสุกไม่ดีครับ

                          เครื่องดื่มที่สั่งเป็นเก๊กฮวยเม็ดแมงลัก รสชาติหวานเล็กน้อย ทานคู่กับเม็ดแมงลักก็ได้สัมผัสอร่อยไปอีกแบบครับ การบริการของทางร้านใช้เวลาไม่นานครับ เหมาะสำหรับเวลาเร่งรีบ หรือต้องการใช้เวลาในการทานอาหารแบบไม่นาน

                             สรุปความคุ้มค่า เมื่อเทียบปริมาณอาหาร คุณภาพอาหาร และความอร่อยที่ได้รับ กับราคาค่าเสียหายที่จ่ายไป ถ้าถามว่าคุ้มค่าไหม ก็ตอบว่าอยู่ในเกณฑ์ที่รับได้ครับ ไม่ได้รู้สึกว่าแพงจนเกินไป แต่ถ้าถามว่าจะกลับมาทานอีกครั้งหรือเปล่า โดยส่วนตัวเราสองคนรู้สึกว่า "ยังไม่รู้สึกว่าอยากกลับมาทานอีกครับ" เพราะยังไม่มีเมนูอะไรที่รู้สึกว่า "ว้าว" สักเท่าไร

วันจันทร์ที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2565

CQK Hot Pot

                           



              ร้านสุกี้หม้อไฟหม่าล่า ที่กำลังมาแรงในขณะนี้ ร้าน CQK Spicy Hot Pot พิกัดตั้งอยู่ริมถนนเทียมร่วมมิตร ซึ่งเป็นร้านที่มีนักทานอาหารหลายท่าน มารีวิวกันอย่างล้นหลาม ทางร้านมีลานจอดรถให้บริการอยู่ 2 ลานจอดรถ แต่ก็ยังไม่พอเพียงกับปริมาณลูกค้าที่อยากเข้ามาทานอาหารกันครับ แต่ทางร้านก็มีพนักงานคอยโบกรถ หาที่จอดให้กับลูกค้าตลอดเวลา บางครั้งก็จอดกันที่ริมถนนกันเลย


บรรยากาศหน้าร้าน

ป้ายชื่อร้าน

บัตรคิวครับ

                   วันนี้เรากับแฟนไปลองทานกันก่อน 2 คนครับ ในช่วงเวลาก่อนพีคในช่วงหกโมงเย็น ก็ยังต้องรอคิวกันอยู่ครับ สังเกตุได้จากบัตรคิว มีแต่ภาษาจีนล้วนๆจ้า แต่น้องพนักงานหน้าร้านก็บอกว่า ไม่นานรอเก็บโต๊ะแล้วเข้าได้เลย 

                   และเมื่อได้ก้าวขาเข้าไปภายในร้าน บรรยากาศภายในร้าน เหมือนเราอยู่เมืองจีนเลยครับ การตกแต่งภายในร้าน รวมถึงเมนูอาหารของทางร้าน (Tablet) ก็เป็นภาษจีนทั้งหมด ขนาดราคายังเป็นหน่วยหยวนเลย ทางร้านออกแบบโต๊ะภายในไว้ได้ดีนะครับ ด้านข้างของโต๊ะจะเป็นชั้น สามารถวางถาดอาหารได้ โดยไม่เปลืองพื้นที่บนโต๊ะ จะเห็นว่าขนาดรูตรงกลางสำหรับวางหม้อไฟ ค่อนข้างใหญ่ เพราะหม้อน้ำซุปใหญ่จริงครับ




                                       ใช้เวลาไม่นาน หม้อน้ำซุปที่เราทำการเลือกไว้ ก็นำออกมาเสริฟ์ น้องพนักงานแจ้งว่า เราสามารถไปตักน้ำจิ้มได้ ตอนแรกที่ดูมาในรีวิวหลายๆท่าน เราจะสามารถเลือกปรุงน้ำจิ้มได้เองตามใจชอบ แต่ในวันที่ไป มีน้องพนักงานคอยบริการผสมน้ำจิ้มให้ครับ ตรงนี้ไม่แน่ใจว่า สามารถขอตักเองได้หรือเปล่า เพราะด้วยความสะดวกที่มีคนปรุงน้ำจิ้มให้ เราเลยให้น้องเค้าจัดการมาเลย


โซนน้ำจิ้ม

น้ำจิ้ม

หม้อน้ำซุป

ชาร้อน(มะลิ และชาหลงจิ่ง)

อุปกรณ์ในการทาน

ไส้หมูพะโล้

ฟองเต้าหู้

หมูสันคอคุโรบูตะเล็ก

หมูแดดเดียวทอด

จิ้มหมูในหม่าล่า

หม่าล่าเข้มข้น

ไส้เป็ด

ผักบุ้ง

หมูสามชั้นสไลด์จานเล็ก

                          ทางร้านมีน้ำซุปให้เลือก 4 แบบนะครับ ซึ่งเราสามารถเลือกใช้หม้อแบบ 4 ช่อง เพื่อรับน้ำซุปทั้ง 4 อย่างเลยก็ได้ โดยจะมีราคาค่าน้ำซุปเริ่มต้นที่หม้อละ 380 บาท ซึ่งครั้งนี้เราเลือก น้ำซุปฟักทอง/น้ำซุปกระดูกหมูและน้ำซุปหม่าล่า (น้ำซุปมะเขือเทศ ไม่ได้เลือกครับ) โดยความเห็นส่วนตัวของเราสองคน รู้สึกว่า น้ำซุปกระดูกหมูค่อนข้างจืดไปสักหน่อย ส่วนหม่าล่าก็มาแบบครบเครื่องยาจีน เข้มข้น เผ็ดชากำลังดีครับ ทานไปนานๆก็แอบสู้ไม่ไหวเหมือนกัน แต่ที่ชื่นชอบมากเป็นพิเศษ คือน้ำซุปฟักทองครับ

                              ในตอนแรกนึกว่า จะมาแบบเป็นซุปสีเหลืองข้นๆฟักทองเลย แต่สิ่งที่ได้คือ ความอร่อยลงตัวแบบสุดๆ มีเครื่องยาจีนทั้งเก๋ากี้ พุทราจีน หอยลาย และฟักทอง ต้มมารสชาติกลมกล่อมมากๆ ใส่ผักสดลงไป ยิ่งเพิ่มความอร่อยให้กับผักได้เป็นอย่างดี

                             วัตถุดิบของสด คุณภาพดีครับ ผักบุ้งมาแบบอ่อนๆ ผักกาดขาวก็มาแบบยอดอ่อนๆ (ไม่ทันได้ถ่ายภาพ น้องผักกาดขาวก็ลงหม้อไปอย่างรวดเร็ว) ในส่วนของเนื้อสัตว์ สันคอหมูมาแบบมันน้อยไปสักหน่อย ทำให้ลวกแล้วแอบด้านเล็กน้อย แต่สามชั้นนี่มาแบบบางกำลังดี เหมาะกับการทานหม้อไฟมาก 

                           ไส้หมูพะโล้คือความดีงาม นุ่มอร่อย ไม่แพ้ความกรุบกรอบของไส้เป็ดเลย ทั้งสองเมนู ไม่มีความคาวแต่อย่างใด ตามด้วยน้ำจิ้มของทางร้าน ที่คิดค่าบริการท่านละ 40 บาท น้ำจิ้มทางร้านรสชาติมีความผสมของหลากหลายอย่างมาก รสชาติออกมาอร่อยครับ มีความหอมน้ำมันงา หอมถั่ว จิ้มทานกับเนื้อสัตว์แล้วลงตัว อร่อยดีครับ

                      สำหรับเมนูทานเล่น หมูแดดเดียวทอด เมนูนี้อร่อยสุดๆครับ ทางร้านหมักและทอดออกมาได้อย่างลงตัว แป้งด้านนอกไม่หนาจนเกินไป หมูแดดด้านนมีความนุ่ม เคี้ยวง่าย มีความเผ็ดของผงหม่าล่าโรยมาด้านบน ถูกใจคนชอบเผ็ดแบบชาๆได้เป็นอย่างดี แต่สำหรับเราส่วนตัว ทานไม่ไหวครับ เผ็ดมาก จึงแอบเอาไปจุ่มล้างน้ำซุป แต่ก็ยังคงความอร่อยได้เหมือนเดิม

                     ส่วนของเครื่องดื่ม เราสองคนเลือกเป็นชาร้อน ชามะลิมีความหอมเป็นอย่างดี และชาหลงจิ่ง รสชาติจะออกไปทางค่อนข้างอ่อน ซึ่งแฟนบอกว่า อร่อยดี หอมน้อยๆ รสไม่เข้มข้นดี เสียอย่างเดียว ด้านบนมีใบหลงจิ่งลอยอยู่ ทำให้ทานน้ำค่อนข้างยาก (หรือว่าจริงๆแล้วเค้าให้ทานใบชาไปด้วย อันนี้เราสองคนก็ยังไม่แน่ใจครับ)

                          สรุปความคุ้มค่าตามความเห็นส่วนตัวของเราสองคนนะคับ เมื่อเทียบปริมาณอาหาร คุณภาพอาหารและความอร่อยที่ได้รับแล้ว กับราคาค่าอาหาร เราสองคนยังคงมองว่าคุ้มค่า ถึงแม้ราคาจะค่อนข้างสูง แต่วัตถุดิบและน้ำซุปของทางร้านมีความอร่อย โดยเฉพาะตอนนี้มีโปรโมชั่น สมัครบัตรสมาชิกในราคา 199 บาท สามารถนำมาเป็นส่วนลดค่าอาหารได้ 30% โดยที่บัตรไม่มีวันหมดอายุ และสามารถใช้ลดได้ทันทีอีกด้วย

                                ถ้าถามว่าจะกลับมาทานซ้ำอีกหรือไม่ ตอบกันได้แบบไม่ลังเลเลยว่า กลับมาทานอีกครั้งแน่นอนครับ ยังมีความอยากลองซุปมะเขือเทศ และยังไม่ได้ลองทานเส้นอะไรของทางร้านเลย แต่อาจจะต้องเลือกเวลามาใช้บริการสักหน่อย เพราะตอนเราเช็คบิลออกไป เห็นเลยว่า มีลูกค้าจำนวนมากนั่งรอโต๊ะกันอยู่ ไม่ต่ำกว่า 20คิวครับ


บิลค่าเสียหาย


Da Lat จ.อยุธยา

              

                   หลายๆครั้งที่เราไปทำธุระกันที่จังหวัดอยุธยา แล้วนึกไม่ออกว่าจะทานร้านอาหารอะไรกันดี ที่ใช้เวลาในการทานไม่นานมาก (บ้านอยุธยารมณ์ อาหารไทยอร่อย บรรยากาศดีติดริมน้ำ แต่ต้องใช้เวลาในการทานค่อนข้างนานครับ เหมาะกับการดื่มดำชมธรรมชาติ)  และในวันนี้ก็เช่นกันครับ เรามีภารกิจที่จะต้องไปทำกันต่อ หลังจากมิสเตอร์ทีค้นหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ทกันแล้ว ก็ลงความเห็นกันว่า ลองไปทานที่ร้าน Da Lat อาหารเวียดนามกันดีกว่า ทานหม้อไฟร้อนๆ ดีต่อสุขภาพกัน


บรรยากาศหน้าร้าน

บรรยากาศหน้าร้าน

บรรยากาศภายในร้าน

โต๊ะพวกเรา

                       สำหรับที่จอดรถ ต้องหาจอดบริเวณถนนหน้าร้านนะครับ ตรงนี้อาจจะต้องใช้ความสามารถในการหากันเองสักหน่อย ระวังอย่าไปจอดขวางประตูบ้านกันด้วยนะครับ ภายในร้านตกแต่งได้สวยงาม ให้บรรยากาศแบบไทยๆ ก่อนทานอาหาร เราก็ไปล้างมือกันก่อนครับ


อ่างล้างมือ อยู่ด้านข้างของร้าน

ทางไปห้องน้ำ

ห้องน้ำ

                              ทางร้านมีอ่างล้างมือแยกส่วนของทางห้องน้ำ ไว้ให้บริการอยู่ทางออกประตูด้านข้างของทางร้านครับ เป็นสไตล์ที่ใส่ใจในสุขภาพของลูกค้า ที่มารับประทานอาหารเวียดนาม ซึ่งจะประกอบไปด้วยผักสด ที่ต้องใช้มือในการหยิบทาน ได้เป็นอย่างดีครับ


อุปกรณ์การทานอาหารและเมนู

น้ำด่างใบเตย


                                ระหว่างการสั่งอาหาร หรือแนะนำเมนูอาหาร น้องพนักงานทุกคนจะเว้นระยะกับโต๊ะของลูกค้าประมาณ 1 เมตร ซึ่งเป็นมาตราการที่ดี สำหรับในช่วงสถานะการณ์การแพร่ระบาดของโควิดครับ หลังจากสั่งรายการอาหารแล้ว ใช้เวลาประมาณ 15 นาที อาหารก็เริ่มทะยอยนำออกมาเสริฟ์


แหนมเนืองชุดเล็ก

แหนมเนือง

ผักสด

จิ้มจุ่มดาหนังหมู(ใหญ่)

ผักสด

น้ำจิ้ม

น้ำจิ้ม

หม้อไฟ

น้ำจิ้มแยกพริก

ปากหม้อไข่

น้ำจิ้มหวาน

ไส้ด้านใน

ขนมเบื้องญวน

ไส้ด้านใน

แหนมซี่โครงหมู

                    โดยปกติเราจะคุ้นเคยกับรสชาติ อาหารเวียดนามของทางจังหวัดอุดรธานีกัน ในวันนี้มาลองเปิดใจทานกันที่อยุธยา แหนมเนืองของทางร้าน Da Lat รสชาติของตัวหมูแหนมเนือง จะรสชาติเนื้อหมูอ่อนๆ ให้ความรู้สึกของสมุนไพร และน้ำจิ้มก็ค่อนข้างจะรสอ่อนกว่าที่เคยทาน แต่ก็กลมกล่อมไปอีกแบบครับ

                    สำหรับตัวจิ้มจุ่มดานังหมู ด้วยมิสเตอร์ทีไม่ทานพริก ทางร้านจึงทำการแยกส่วนผสมพริกทั้งหมดออกจากหม้อ ให้เหลือเพียงน้ำซุปใส (เป็นความใส่ใจของทางร้านจริงๆครับ) รสชาติน้ำซุปกลมกล่อมมากๆ ซดน้ำซุปแล้วรู้สึกสดชื่น เนื้อหมูสดสะอาด คนกับไข่ไก่แล้วลวกจิ้มก็อร่อย หรือจะเทลงไปทำเป็นสุกี้หม้อใหญ่รวมกับผักสดและวุ้นเส้น ก็ยังอร่อยครับ

                       ปากหม้อไข่ เป็นเมนูแปลกใหม่ที่ไม่เคยทานครับ ปกติจะเคยทานแต่ปากหม้อญวน แต่ทางร้านใช้ส่วนผสมของไข่ลงมาในแป้ง ทำให้ตัวไข่ที่ห่อ มีความนุ่มละมุน ไส้หมูและผักด้านใน ก็ผัดออกมาอร่อยกลมกล่อมดีครับ

                        ขนมเบื้องญวน แป้งทอดออกมาได้บางกรอบกำลังดี ไม่ได้บางไปหรือหนาไปแต่อย่างใด รสชาติไส้ด้านในก็อร่อย จะทานเปล่าๆ หรือทานคู่กันกับน้ำจิ้มของทางร้านก็อร่อยลงตัว

                     เมนูสุดท้ายที่นำออกมาเสิรฟ์จะเป็นซี่โครงแหนมญวนทอดครับ ในความรู้สึกส่วนตัว ยังไม่ค่อยเปรี้ยวสักเท่าไรครับ เราได้มาในส่วนของกระดูกอ่อนค่อนข้างเยอะ ก็เลยไม่ค่อยชอบเป็นการส่วนตัวเท่าไรครับ เพราะฟันเคี้ยวกระดูกอ่อนไม่ค่อยไหวครับ ชอบแบบที่เป็นซี่โครงมากกว่า

                          ในส่วนของเครื่องดื่ม เราเลือกทานกันเป็นน้ำอัลคาไลน์(น้ำด่างใบเตย) กันครับ ไหนๆวันนี้เมนูอาหารของเราก็เพื่อสุขภาพกันแล้ว ก็ควรไปให้สุดครับ รสชาติน้ำหอมกลิ่นใบเตยดีครับ

                       สรุปความคุ้มค่าของอาหารในวันนี้ เมื่อเทียบปริมาณอาหาร คุณภาพอาหาร และความอร่อยที่ได้รับ กับราคาค่าอาหารในวันนี้ ต้องบอกว่าในความรู้สึกของครอบครัวเรา ค่อนข้างมีคุ้มค่าครับ มีโอกาสหน้า จะกลับมาทานอีกครั้งแน่นอนครับ วันนี้สั่งอาหารค่อนข้างน้อย เพราะตั้งใจจะไปต่อกันอีกหลายร้านครับ


บิลค่าเสียหาย


บทความที่ได้รับความนิยม