วันอาทิตย์ที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

ร้าน ยำจี๊ดจ๊าด

                       ในช่วงเย็นวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เรากับแฟนอยากหาอะไรเบาๆ ที่ไม่หนักท้องจนเกินไป หลังจากปรึกษากัน จึงมาลงเอยกันที่ร้าน ยำจี๊ดจ๊าด พิกัดอยู่ในซอยประชาสงเคราะห์ 2 สำหรับที่จอดรถ ไม่มีนะครับ ทางร้านเป็นตึกแถว 1 คูหา ภายในร้านมีที่นั่งให้ทานได้ประมาณ 3-4 โต๊ะครับ แต่ก็มีเก้าอี้ให้นั่งรอสำหรับผู้ที่มาซื้อกลับบ้านวางไว้เรียบร้อย แปลว่าจะต้องขายดีถึงขนาดต้องนั่งรอคิวกันอย่างแน่นอนครับ


บรรยากาศหน้าร้าน


เคาน์เตอร์ปรุงอาหาร

                โดยร้านจะหยุดทุกวันเสาร์นะครับ ช่วงนี้ทางร้านร่วมโครงการคนละครึ่งด้วย ทำให้ลูกค้ายิ่งค่อนข้างแน่นเข้าไปอีกครับ โดยท่านสามารถโทรมาสั่งอาหารไว้ก่อน พอใกล้จะเสร็จทางร้านจะมีบริการโทรไปแจ้งให้เข้ามารับอาหารที่สั่งไว้ได้ด้วยนะครับ ไม่ต้องเสียเวลามานั่งรอ 

                   ปกติร้านจะเปิดเวลา 16.30 - 22.00 นะครับ แต่วันนี้เราไปถึงในเวลาประมาณ 16.00 ร้านก็พร้อมให้บริการเรียบร้อย และที่สำคัญ มีคิวอาหารที่โทรมาสั่งแล้วอีกด้วยครับ เมนูอาหารจะมีแปะรูปภาพพร้อมราคาไว้รอบกำแพงร้านครับ ตรงนี้ทางร้านแจ้งว่า ทุกเมนูสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามใจลูกค้าเลยนะครับ อยากจะใส่อะไร ไม่ใส่อะไร แจ้งได้เลยจ้า


น้ำแข็งบริการตัวเองได้เลยครับ

เมนูอาหาร

เมนูอาหาร


                  หลังจากทำการเขียนรายการอาหารส่งให้ทางร้านเป็นที่เรียบร้อย ก็นั่งรอกันไปครับ ใช้เวลาประมาณ 10กว่านาที อาหารก็เริ่มทะยอยนำออกมาเสริฟ์กันครับ


ผักสด - กะหล่ำปลี

ชุดจัดหนัก - ยำยอดมะพร้าวอ่อนไข่แดง กุ้งสด

ยำขนมจีนปลาทู

ยำวุ้นเส้นโบราณ

เส้นขนมจีน 10 บาท

                 สำหรับรสชาติอาหารตามความเห็นส่วนตัวของเราสองคนนะครับ ขอเริ่มจากเมนูยำวุ้นเส้นโบราณ ราคา 50 บาท ซึ่งเป็นเมนูที่ค่อนข้างจะหาทานได้ยากนะครับ โดยแฟนเป็นคนที่ชื่นชอบในรสชาติเผ็ดจัดจ้าน ตรงนี้สามารถแจ้งกับทางร้านได้เลยครับ ซึ่งทางร้านปรุงออกมาได้อย่างดีงาม ความเผ็ดมาเต็ม รสชาติอื่นๆก็ครบรส ขนาดกุ้งแห้งทางร้านใช้ตัวกำลังดีเลยครับ ไม่ได้เล็กจนเกินไป หรือใหญ่จนเคี้ยวแล้วปวดฟัน

                            ต่อด้วยชุดจัดหนัก ยำไข่แดง กุ้งสด ยอดมะพร้าวอ่อน เมนูนี้ใส่น้ำปลาร้าหรือไม่ใส่ก็ได้นะครับ แต่สำหรับเราสองคน ใส่อยู่แล้วครับ รสชาติมาแบบครบรส กลมกล่อม ปริมาณกุ้งสดและไข่แดงก็ให้มาแบบจุใจ ไม่มีกั๊ก ในราคาจานละ 150 บาท อร่อยจนแฟนอยากได้ข้าวเหนียวมาจิ้มกับน้ำปลาร้าในจาน แต่ทางร้านไม่ได้มีจำหน่ายนะครับ จึงสั่งขนมจีนมาทานแกล้มกับยำกันครับ

                          ยำขนมจีนปลาทู ราคา 50 บาท อันนี้เป็นเมนูชื่นชอบส่วนตัวของเราครับ ซึ่งเราเป็นคนไม่ทานเผ็ด จึงบอกกับทางร้านว่าขอแบบไม่เผ็ด สีสันอาจจะไม่สดใสสวยงามเหมือนจานอื่นๆ แต่รสชาติมาครบรสนะครับ กลมกล่อมอร่อย 

                           สรุปความคุ้มค่าของอาหารนะครับ เมื่อเทียบราคาค่าเสียหายที่จ่ายไป กับปริมาณอาหาร คุณภาพอาหาร และรสชาติอาหารที่ได้รับในวันนี้ ต้องขอบอกว่าคุ้มค่ามากๆครับ เจ้าของร้านก็บริการดีมากๆครับ ให้คำแนะนำในแต่ละเมนูได้เป็นอย่างดี ใส่ใจลูกค้าทุกๆท่าน และสามารถแจ้งได้นะครับ ว่าซื้อกลับบ้านไปทานวันรุ่งขึ้นหรือทานเลย ในกรณีที่ยังไม่ทาน ทางร้านจะทำการแยกน้ำยำที่ปรุงไว้ให้แล้ว เพื่อเราจะได้อุ่นทานได้อย่างอร่อยครับ ที่สำคัญสามารถใช้โครงการคนละครึ่งได้อีกต่างหาก มีโอกาสหน้าต้องกลับมาทานซ้ำอีกอย่างแน่นอนครับ

วันอาทิตย์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

ร้าน ขาหมูนายเซี้ย ห้วยขวาง

                           เช้าวันเสาร์ที่ผ่านมา ด้วยเป็นวันหยุดราชการยาวต่อเนื่อง ทำให้ร้านอาหารแถวบ้านปิดกันแทบทั้งซอย หลังจากนั่งปรึกษากันว่า จะทานอาหารเช้าอะไรกันดี แล้วเราก็นึกถึงร้าน ขาหมูนายเซี้ย ที่ปัจจุบันไม่ได้ขายข้าวขาหมูแล้ว แต่ขายก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟ และแกงเขียวหวานแทน ใช้เวลาไม่นาน เราก็มาถึงที่ร้านกันครับ สำหรับที่จอดรถ สามารถหาจอดได้ที่ริมถนนหน้าร้าน ตามอัธยาศัยนะครับ


บรรยากาศหน้าร้าน

ขนมกุ๋ยช่าย 

โซนปรุงก๋วยเตี๋ยว เกาเหลาเลือดหมู

ป้ายเมนู พร้อมราคาอาหาร

ที่นั่งภายในร้าน

แกงเขียวหวาน

ขนมจีน
ราคาชุดละ 50 บาท

บะหมี่เย็นตาโฟ แห้ง ยำ - ธรรมดา

น้ำกระเจี๊ยบ

เส้นเล็กต้มยำ พิเศษ


                          ทางร้านปรุงอาหารใช้เวลาไม่นานนะครับ หลังจากสั่งไม่เกิน 5 นาที ก็ได้เมนูอาหารที่สั่งเรียบร้อยครับ ในส่วนของรสชาติอาหารตามความเห็นส่วนตัวของเราสองคนนะครับ บะหมีแห้งโฟ ยำ รสชาติมาแบบจัดจ้าน เรียกว่าถูกใจคอคนชอบรสชาติเผ็ดแน่นอน ไม่ต้องปรุงอะไรเพิ่มเลย มาแบบครบรสแล้ว เส้นเป็นแบบเล็ก ลวกมาแบบเหนียวนุ่มกำลังดี แต่ในส่วนของเส้นเล็กต้มยำ รสชาติยังไม่ค่อยจัดจ้านสักเท่าไร แต่เส้นเล็กลวกมาดีครับ เหนียวนุ่ม หนึบหน่อยๆ 

                           เครื่องก๋วยเตี๋ยว ลูกชิ้นปลาโอเคดีครับ ไม่คาว ฮื่อก๊วยรสชาติเข้มข้นพริกไทย ทุกอย่างรสชาติดีครับ ไม่ได้มีอะไรที่เหม็นคาวแต่อย่างใด ต่อด้วยขนมจีนแกงเขียวหวานนะครับ ตอนแรกที่เห็นแกงเขียวหวาน อาจจะดูสีจางๆ น้ำไม่เข้มข้น แต่รสชาติเข้มข้นดีครับ ทางร้านปรุงออกมาอร่อยเลย เรียกว่าไม่ควรพลาดที่จะสั่งทานจริงๆครับ แต่เสียดายทางร้านใช้เส้นขนมจีนแบบเส้นใหญ่ ซึ่งเราสองคนชอบแบบเส้นเล็กเป็นการส่วนตัว ก็เลยรู้สึกว่ายังไม่สมบูรณ์สักเท่าไร ไก่ในแกงเขียวหวานมีปนมาหลายแบบ ไม่ได้มีแต่อกไก่อย่างเดียว เรียกว่าหลากหลายส่วนมากันครบ รวมถึงเลือดไก่ด้วยครับ ไม่ได้เน้นให้มะเขืออย่างเดียว

                              สำหรับเครื่องดื่ม เราเลือกสั่งน้ำกระเจี๊ยบกันครับ รสชาติออกหวานนำ ไม่ค่อยเปรี้ยวมาก แต่ก็ทานได้ครับ สรุปความคุ้มค่านะครับ เมื่อเทียบคุณภาพอาหาร ปริมาณอาหาร กับราคาที่จ่ายไปแล้ว ก็เรียกว่าคุ้มค่าอยู่ครับ วันหลังมีโอกาสผ่านมาแถวนี้อีกครั้ง จะลองทานเกาเหลาเลือดหมูดูบ้าง ว่าเครื่องในจะเป็นยังไง ท่านใดผ่านมาเส้นทางเหม่งจ๋าย ห้วยขวาง อย่าลืมแวะมาลองทานกันนะครับ ทางร้านหยุดทุกวันอาทิตย์นะครับ 

วันเสาร์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

Tenjo Sushi & Yakiniku สาขา The nine พระรามเก้า

                            วันเสาร์ที่ผ่านมา ระหว่างขับรถกำลังมุ่งหน้าจะไปศรีนครินทร์ ก็มีความรู้สึกอยากหาปิ้งย่างทานกับแฟน ในเวลาประมาณเกือบบ่าย 3 โมง ในตอนแรกตั้งใจจะไปทานกันที่ Real Ichi แต่เพื่อกันการไม่เสียเวลาเดินทางไปแล้วร้านปิดหรือว่าเต็ม พวกเราจึงโทรไปเพื่อจะทำการจองหรือสอบถามไว้ก่อน หลังจากพยายามโทรไปสองสาย ไม่มีพนักงานรับสาย เราจึงเปลี่ยนใจ หาร้านอื่นแทนกัน และแล้วก็นึกถึงร้าน Tenjo ขึ้นมาได้ เป็นร้านบุฟเฟ่ต์ปิ้งย่างที่มีอาหารญี่ปุ่นให้บริการด้วย คล้ายคลึงกับร้านแรกที่ตั้งใจไว้ สาขาที่ใกล้ที่สุด ณ เวลานั้นคือ The nine พระรามเก้า จึงเป็นที่มาของการมาทานกันที่สาขานี้ครับ

                                สิ่งที่หายากยิ่งกว่าการหาร้านอาหารทาน นั่นก็คือการหาที่จอดรถ หลังจากขับวนอยู่ใน The nine ประมาณ 10 นาที พวกเราก็ได้ที่จอดรถกันจ้า หลังจากจอดเรียบร้อย ก็มุ่งหน้าไปที่ร้านอาหารกันครับ ร้าน Tenjo ตั้งอยู่ที่ชั้น 2 สามารถเลือกที่จะเดินบันไดธรรมดา หรือบันไดเลื่อน ตามแต่ความแข็งแรงของสภาพร่างกายของแต่ละคนเลยครับ


ป้ายไฟแนะนำเมนูและราคา

ทางเข้าหน้าร้าน
บรรยากาศหน้าร้าน

       
                    เมื่อเรามาถึงหน้าร้าน จะมีน้องพนักงานต้อนรับ คอยแนะนำความแตกต่างของแต่ละราคาใน Set ที่แตกต่างกันครับ ช่วงนี้มีโปรโมชั่นของบัตรเครดิต KTC ที่จะลด 25% ก่อนที่จะ +ค่าภาษี และ+ค่า Service charge นะครับ ซึ่งเป็นอะไรที่น่าสนใจมาก พวกเราจึงตัดสินใจที่จะทานกันในราคา 899++ ครับ ในราคานี้จะมีรวมเครื่องดื่มและขนมหวานเรียบร้อยแล้วครับ มีเวลาในการสั่งอาหาร 1 ชั่วโมง 30 นาที แต่สามารถนั่งทานได้ 1 ชั่วโมง 45 นาทีครับ และถ้านั่งทานเกินเวลา 10 นาทีแรก ทางร้านไม่คิดค่าบริการเพิ่มครับ

                         มองจากป้ายหน้าทางเข้าจะเห็นมีป้าย Haagen dazs แปะอยู่ อันนี้สำหรับท่านที่ทานในราคา 1299++ เท่านั้นนะครับ สำหรับราคาอื่นๆ จะเป็นไอศครีมกล่องให้ตักทั่วไปครับ เวลาที่พวกเราไปถึงภายในร้านลูกค้าไม่ค่อยมากครับ มีโต๊ะว่างให้บริการพอสมควร แต่โต๊ะสำหรับ 2 คน ก็ค่อนข้างเล็กนิดนึงครับ พื้นที่วางจานอาหารค่อนข้างน้อย แต่ไม่สามารถไปใช้โต๊ะอื่นได้ ตามที่เห็นในภาพครับ แค่วางเมนูก็เต็มโต๊ะแล้วจ้า


โต๊ะอาหาร สำหรับ 2 ท่าน

               บนโต๊ะจะมีใบรายการให้เราทำการเลือกสั่งอาหาร โดยให้ระบุจำนวนที่ต้องการครับ สามารถดูหน้าตาจานอาหารได้จากในเมนู หรือจะอ่านจากในกระดาษก็ได้ครับ หลังเขียนเสร็จแล้วก็ส่งให้น้องพนักงานได้เลยจ้า 


เมนู
ใบรายการ


ใบรายการ

ใบรายการ

ใบรายการ

ใบรายการ
โชยุ น้ำจิ้ม และเครื่องปรุงต่างๆ


                ระหว่างรออาหาร เราก็สามารถเดินไปกดเครื่องดื่มได้เลยครับ โดยน้องพนักงานจะวางแก้วน้ำกระดาษไว้ให้ที่โต๊ะ พร้อมสำหรับใช้งานจ้า


ตู้ไอศครีม

มีชาร้อนและ เตาแพนเค้กให้ทำเองด้วยนะครับ

เครื่องดื่ม
ถังน้ำแข็งอยู่ติดกับเครื่องกดน้ำอัดลม


เยลลี่ และซอสชอคโกแลต (ไม่ได้เปิดน้ำพุ) แต่มีให้บริการดิพในถ้วยแทน
ผลไม้ เยลี่ และพานาคอตต้า


                 หลังจากได้เครื่องดื่มเป็นที่เรียบร้อย เราก็มาทำการปรุงน้ำจิ้มกันครับ ตรงนี้สามารถปรับแต่งรสชาติกันได้ตามอัธยาศัยเลย เพียงไม่นาน อาหารที่เราสั่งก็เริ่มทะยอยออกมาเสริฟ์กันครับ ด้วยโต๊ะค่อนข้างเล็กทำให้ที่วางน้อยไปด้วย เราจึงอาจจะต้องเร่งทานอาหารที่นำมาเสริฟ์กันค่อนข้างมาก เลยจำชื่ออาหารในแต่ละเมนูไม่ได้ครับ ต้องขออภัยมาในที่นี้ด้วย ที่อาจจะไม่ได้ระบุชื่อเมนูในแต่ละจานครับ


ซุปมิโสะ

ขิงดอง

ซาซิมิ Platinum






ปลาหมึก

กิมจิ

เริ่มลงมือย่างกันครับ

ยำผักรวม

ซูชิกุ้งยูซุ และแซลมอนยูซุ





สลัดปลาเงิน

Sushi

ซูชิกุ้งแม่น้ำ

สั่งเพิ่มครับ


เยลลี่ และพานาคอตต้า


ถั่วแระญี่ปุ่น


                        สำหรับรสชาติอาหารตามความเห็นส่วนตัวของเราสองคนนะครับ เริ่มจากของปิ้งย่างที่เป็นเจตนาเริ่มต้นในการหาร้านอาหารทานกันในวันนี้ รู้สึกว่ายังไม่สุดครับ อาจจะเพราะเราสองคนไม่มีความถนัดในการปิ้งย่างอาหารกันเอง ทำให้รู้สึกว่าหมูค่อนข้างเหนียวครับ รสชาติปกติทานได้ครับ แต่กลับมาชอบในอาหารที่พร้อมทานแล้วมากกว่า หลังจากปิ้งย่างเซ็ทแรกที่สั่งจนหมด เราจึงทำการแจ้งน้องพนักงานให้ทำการปิดเตา แล้วยกเตาออกเลยครับ

                        กิมจิและยำผักรวมของทางร้าน รสชาติปกติดีครับ ช่วยแก้เลี่ยนในการทานของปิ้งย่างได้ดี เครื่องเคียงขิงดองรสชาติอร่อยมากครับ วาซาบิมาแบบสีสันเหมือนจะไม่ค่อยจัดจ้าน แต่รสชาตินี่ดีงามเลยครับ แฟนชอบมาก วาซาบิคุณภาพดีครับ

                       ในส่วนของความสดของเนื้อปลาดิบ มาในคุณภาพที่ดีครับ โดยเฉพาะที่นี่มีซาซิมิกุ้งหวานด้วย ความสด หวาน ละลายในปากมาแบบเต็มๆครับ เมนูลนไฟ ก็ทำออกมาได้ดีงาม ซูชิหน้าต่างๆ ก็ไม่ได้เน้นอัดปริมาณข้าวให้ลูกค้าแต่อย่างใด มาในแบบกำลังพอดี ข้าวไม่น้อยเกิน จนทำให้เลี่ยนกับเนื้อปลา และก็ไม่ได้เยอะจนกินแล้วจุก แต่เมนูที่ต้องขอใช้คำว่า Recommend เลยว่า ถ้าไม่ได้สั่ง เรียกว่าพลาดมาก นั่นก็คือ เมนูซูชิกุ้งหวานยูซุครับ ทานแล้วรู้สึกได้เลยว่า สดชื่นมากๆ สำหรับฟัวกราส์ที่นี่ก็ให้มาเป็นชิ้นเป็นอันครับ ไม่ได้มาแบบเศษๆ ทานแล้วละลายในปากกำลังดี สำหรับฟัวกราส์ถ้ามาแบบชิ้นหนาเกินพอดี ทานไปก็จะทำให้เลี่ยนได้ไวมากเช่นกันครับ

                    สลัดปลาเงินโดยความเห็นส่วนตัวของแฟนนะครับ น้ำสลัดน้อยไปสักหน่อย อาจจะต้องขอน้องพนักงานมาเติมสักนิด ทางร้านให้ปลาเงินทอดมาแบบจุใจครับ มากันเต็มๆ เมนูของหวานยังไม่มีรายการไหนที่โดนใจเป็นพิเศษ

                         สรุปโดยรวมแล้ว ชอบในรสชาติอาหารของ Sushi&Sashimi มากกว่า Yakiniku ครับ ถ้าถามถึงความคุ้มค่า เมื่อเทียบคุณภาพอาหาร ปริมาณอาหาร และราคาค่าเสียหายที่ต้องจ่ายแล้ว ขอบอกว่าคุ้มค่าครับ มีโอกาสหน้าก็จะกลับมาทานอีกครั้งครับ และรอบหน้าคงไม่เปิดเตาครับ เพื่อจะได้เพิ่มพื้นที่ในการวางจานอาหารบนโต๊ะให้มากขึ้น 

                             แต่มีสิ่่งเดียวที่อยากให้เพิ่มเติมครับ ขอตะเกียบใหม่ได้ไหม ตะเกียบสแตนเลส ค่อนข้างคีบยากมากๆเลยครับ มันลื่น ทำให้ต้องเกร็งมือมากขึ้นในการคีบ เราก็ลืมถามน้องพนักงานว่ามีช้อนส้อมไหม ไว้รอบหน้าครับจะต้องไม่พลาดของอุปกรณ์ในการทานให้ง่ายขึ้น


บิลค่าเสียหาย


บทความที่ได้รับความนิยม