วันพฤหัสบดีที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2562

แสนยอดซีฟู้ด

                 เมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมาในช่วงเทศกาลเฉลิมฉลองช่วงสิ้นปี แฟนก็มีนัดสังสรรค์ส่งท้ายสิ้นปีกับเพื่อนๆ โดยเลือกพิกัดสถานที่กันแถวเส้นถนนพระราม 3 ก่อนวันทานอาหาร 2 วัน แฟนก็ทำการโทรติดต่อไปหลายร้าน ส่วนใหญ่ก็จะบอกว่าโต๊ะเต็ม และแล้วเราก็ได้ทำการจองโต๊ะสำหรับทานอาหารกันที่ร้าน แสนยอดซีฟู้ด โดยน้องพนักงานที่รับสายก็ทำการแจ้งว่า โต๊ะริมแม่น้ำว่าง และเหมือนการจองทั่วไป มีการให้ชื่อและเบอร์โทรไว้กับทางร้าน โดยระบุเวลารับโต๊ะคือ 19.00 น.

                      และปัญหาก็เกิดขึ้น เมื่อถึงวันนัดทานข้าวกัน เพื่อนแฟนไปถึงร้านแสนยอดซีฟู้ดในเวลา 18.30 น. แต่ว่าทางร้านแจ้งว่าไม่มีการจองโต๊ะในชื่อของแฟนเลย แต่แฟนจำชื่อพนักงานที่รับสายได้ หลังจากสอบถามกับน้องพนักงานคนดังกล่าว คำตอบที่ได้รับคือ "จำไม่ได้ค่ะ ลืมค่ะ" และภายในร้านโต๊ะริมแม่น้ำ ก็มีลูกค้านั่งเต็มเป็นที่เรียบร้อย พร้อมๆกับการที่น้องพนักงานคนดังกล่าว รีบทำการหายตัวไปอย่างรวดเร็ว

                        ด้วยเรายังอยู่ในระหว่างการเดินทาง แฟนจึงตัดสินใจต่อสายไปยังทางร้านอีกครั้ง และขอสายคุยกับผู้จัดการร้าน ใช้เวลาในการรอสายประมาณ 5 นาที หลังจากนั้นจึงอธิบายถึงปัญหาที่เกิดขึ้นกับทางผู้จัดการ้าน และได้รับการแก้ไขโดยย้ายโต๊ะกลม มาวางเสริมพิเศษด้านนอกให้กับพวกเราครับ ด้วยมีความขลุกขลักในการได้โต๊ะที่นั่ง ทำให้ไม่มีเวลาถ่ายภาพบรรยากาศภายในร้านครับ สำหรับที่จอดรถ ต้องจอดก่อนถึงหน้าร้านนะครับ โดยทางร้านจะมีรถกอลฟ์ให้บริการรับส่งไปยังรถของลูกค้าครับ

                      หลังจากนั้นพวกเราก็เริ่มทำการสั่งอาหารกันครับ ด้วยความหิวทำให้ทุกอย่างพวกเราสั่งกันแบบไม่คิดเท่าไรครับ ว่าสั่งกันกี่อย่างแล้ว อันไหนเป็นเมนูแนะนำก็ไม่พลาดที่จะสั่งครับ หลายเมนูออกมาไวดีนะครับ เว้นแต่ ยำวุ้นเส้นกับลาบทอด ที่สั่งเป็นอย่างแรก กลับได้มาเป็นอย่างสุดท้ายครับ


ปลาหมึกไข่นึ่งมะนาว

พล่ากุ้งเล็ก

กระเพาะปลาผัดแห้งเล็ก

ผัดกาดแก้วสด

เป็ดย่าง 1 ตัว

น้ำจิ้มเป็ด

เส้นใหญ่หมูฮ่องกงใหญ่

เปาะเปี๊ยะกุ้งทอดใหญ่

เปาะเปี๊ยะกุ้งทอด

เส้นหมี่ผัดผักกระเฉด

ปูผัดผงกะหรี่

ก้ามปู

กุ้งแชบ๊วยคั่วพริกเกลือ

กุ้งแชบ๊วยคั่วพริกเกลือ

ปวยเล้งผัดกระเทียม

หอยนางรมออส่วนใหญ่

กะหล่ำปลีทอดน้ำปลาใหญ่

ยำวุ้นเส้นทะเลใหญ่

ลาบหมูทอดใหญ่

                  หลังจากทานอาหารกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว น้องพนักงานก็มาแนะนำว่า สนใจรับเมนูขนมหวานหรือเปล่า โดยทางร้านมีรายการเค้กให้เลือกทั้งหมด 6 อย่าง พวกเราจึงตัดสินใจว่า เอามาทุกอย่าง อย่างละ 1 ชิ้นเลยดีกว่า ใช้เวลาสักพักใหญ่ๆ ประมาณ 10 กว่านาที เค้กก็มาถึงครับ


เค้ก

บลูเบอรี่ชีสพาย

บราวนี่

เค้กชอคโกแลต

เค้กม็อคค่าอัลมอนด์

เค้กมะพร้าวอ่อน

เค้กส้มซันคิส

                   โดยทันทีที่นำเค้กมาเสริฟ์ที่โต๊ะ น้องพนักงานจะยื่นบิลสำหรับค่าขนม มาให้พวกเราชำระกันก่อนนะครับ พวกเราถึงทราบว่า เค้กนำมาจากร้านแสนหวาน ซึ่งตั้งอยู่ด้านหน้าของร้านอาหาร แสนยอดซีฟู้ด น่าจะเป็นเครือเดียวกัน แต่ต้องชำระแยกบิลครับ โดยบิลค่าเสียหายของขนมจะอยู่ด้านล่างนะครับ

                   ในส่วนของรสชาติอาหารตามความรู้สึกของพวกเรานะครับ โดยขอเริ่มจากปลาหมึกไข่นึ่งมะนาว น้ำต้มยำทำออกมาได้กลมกล่อมดีครับ รสชาติจัดจ้าน มีความเผ็ดบวกกับความเค็มนิดหน่อย ปลาหมึกสดครับ ไข่ปลาหมึกก็มากันแบบชิ้นใหญ่ๆ รสชาติอร่อยดีครับ

                     พล่ากุ้งจานเล็ก กับกระเพาะปลาผัดแห้งจานเล็ก รสชาติก็ปกติครับ ทานได้ ไม่ได้มีอะไรโดดเด่น พล่ากุ้งจานเล็ก มีกุ้งตัวใหญ่อยู่ประมาณ 4 ตัวครับ ถ้ามากันหลายท่าน ควรสั่งจานใหญ่ครับ เพราะอาจจะทานกันได้ไม่ทั่วถึง

                       เป็ดย่างของทางร้าน รสชาติก็ปกติครับ เนื้อเป็ดออกแนวนิ่มๆ ไม่ถึงกับเละ หนังเป็ดก็นิ่มเช่นเดียวกันครับ ทานได้ ต่อด้วยเส้นใหญ่ราดหน้าหมู ซึ่งเป็นเมนูขึ้นชื่อของทางร้าน รสชาติก็อร่อยดีครับ น้ำราดหน้าแอบเค็มเล็กน้อย หมูในราดหน้า เป็นหมูชิ้นหมักมากำลังดี นุ่มอร่อยครับ ผักคะน้าก็มาแบบชิ้นใหญ่ๆ กรุบกรอบ ถ้าเป็นผู้สูงอายุอาจจะทานยากสักหน่อย

                         ปอเปี๊ยะกุ้งทอด จานนี้แฟนบอกว่าอร่อยดี ทอดมากรุบกรอบ กำลังดี ไม่ต้องจิ้มกับน้ำจิ้มบ๊วยก็อร่อย ตามด้วยเส้นหมี่ผัดผักกระเฉด ทานร้านทำออกมาแอบเค็มเล็กน้อย และมีความมันพอสมควร รสชาติปานกลาง  ทานได้ครับ

                        ปูผัดผงกะหรี่ มาเป็นปูทะเลตัวใหญ่ ก้ามค่อนข้างใหญ่ครับ เนื้อสดแน่นๆ หวานอร่อยกำลังดี โดยเฉพาะน้ำผงกะหรี่ที่ราดมา รสชาติกลมกล่อม อร่อยครับ ทางร้านทำออกมาได้รสชาติดีมากๆครับ

                                กุ้งแชบ๊วยคั่วพริกเกลือ วางมาบนเส้นหมี่ทอดกรอบ รสชาติก็ปกติครับ แต่เรารู้สึกว่ารสชาติคั่วพริกเกลือไม่ค่อยซึมลงไปในตัวกุ้งสักเท่าไร 

                         สำหรับผัดผัก ปวยเล้งผัดกระเทียม รสชาติก็ปกติครับ แอบเค็มมาเช่นเคย ตัวผักก็ผัดออกมาได้ดี ไม่เหนียว กำลังทาน ส่วนกะหล่ำปลีทอดน้ำปลา ก็รสชาติปกติครับ แต่หอมเจียวที่ราดทอปปิ้งลงมา มีหลายอันที่แอบเหนียวและขมครับ ส่วนผักกะหล่ำปลี ก็กรุบกรอบ รสชาติทานได้ ไม่ได้มีอะไรพิเศษ

                           หอยนางรมออส่วน ในจานก็มีหอยนางรมอยู่เยอะพอสมควร แป้งนิ่มรสชาติใช้ได้ โดยรวมแล้วทานได้ครับ 

                           ยำวุ้นเส้นทะเลจานใหญ่ รสชาติมาครบรสดีครับ ช่วยทำให้หายเลี่ยนจานอาหารช่วงแรกได้พอสมควร ทางร้านให้เนื้อปลาลวกมาชิ้นใหญ่ๆ วางเป็นแพอยู่ด้านล่างในจาน สุดท้ายที่ลาบทอด มาแบบเค็มโดดแรงครับ แต่ก็ทอดมาร้อนๆ กรุบกรอบด้านนอก นิ่มด้านใน

                          สำหรับความคุ้มค่าในส่วนของอาหารนะครับ อาหารของทางร้านส่วนใหญ่จะเน้นไปทางรสชาติเค็มครับ เหมาะสำหรับทานคู่กับข้าว หรือจะเรียกว่ารสชาติเข้มข้นแบบทางกวางตุ้งที่จะออกแนวเค็ม ซึ่งเราไม่ค่อยชอบเป็นการส่วนตัวครับ เมนูที่ประทับใจและรู้สึกว่าอร่อย ก็จะเป็นเมนูปูผัดผงกะหรี่อย่างเดียว ที่เหลือธรรมดาครับ และเมื่อเทียบปริมาณอาหาร คุณภาพอาหารและความอร่อยที่ได้รับ เทียบกับราคาค่าอาหารที่จ่ายแล้ว ก็ต้องบอกว่า คุ้มค่าเป็นบางรายการครับ เมื่อมองภาพโดยรวม รู้สึกว่าค่าอาหารแอบแรงเหมือนกันครับ

                             ต่อด้วยรสชาติของเค้กนะครับ โดยรวมเค้กทั้ง 6 ชนิด รสชาติปานกลางครับ แต่เมื่อทานหลายๆรสชาติรวมกันแล้ว เค้กมะพร้าวอ่อน จะเป็นเค้กที่รสชาติเบาบางที่สุด อาจจะเพราะว่าเค้กอย่างอื่นมีรสชาติเด่นเป็นเอกลักษณ์มากกว่า แต่ที่รู้สึกว่าอร่อยที่สุด ต้องยกให้บลูเบอรี่ชีสพาสครับ ตัวเนื้อเค้กส่วนใหญ่เป็นเนื้อแบบเบา หน้านิ่ม และเมื่อถามถึงความคุ้มค่าในส่วนของของหวาน เมื่อเทียบคุณภาพ ปริมาณและความอร่อยแล้ว รู้สึกว่าแพงครับ ลองให้รู้ครั้งเดียวพอครับ
                        
                         สรุปร้านแสนยอดซีฟู้ด มีจำนวนโต๊ะริมน้ำไม่มากครับ ส่วนใหญ่จะเป็นห้องแอร์ และมีให้บริการแบบห้องคาราโอเกะ เหมาะสำหรับจัดงานรื่นเริงแบบส่วนตัว น้องพนักงานเสริฟ์ในร้านนำเอาช้อนส้อมมาให้เพิ่มบ่อยมาก ทุกเมนูที่ยกมาเพิ่ม จะมีการนำช้อนส้อมมาเพิ่มให้ ใส่ใจในการใช้ช้อนกลางดีครับ รายการอาหารส่วนใหญ่ออกแนวกวางตุ้ง ไปทางเข้นข้นจนถึงออกเค็ม โดยส่วนตัวไม่ใช่แนวนี้ครับ โอกาสหน้าถ้าต้องเลือกหาร้านอาหารแนวเส้นพระราม 3 อีก ก็คงข้ามร้านนี้ไปครับ แต่สำหรับท่านที่ชื่นชอบแนวนี้ ลองมารับประทานอาหารกันได้นะครับ แต่ถ้ามีการโทรจองโต๊ะล่วงหน้า ถึงจะจองไว้แล้ว แต่ ณ วันที่จะเข้ามารับบริการ อย่าลืมโทรไปยืนยันกับทางร้านอีกครั้งนะครับ จะได้ไม่เสียความรู้สึกแบบพวกเราครับ


บิลค่าเสียหาย

บิลค่าเสียหาย

วันจันทร์ที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2562

เทพประทานสเต็กเฮ้าส์

               ขากลับจากวังน้ำเขียวมุ่งหน้ากลับกรุงเทพฯ ด้วยเป็นเวลาประมาณบ่าย 4 โมงกว่าแล้ว เรากับแฟนก็ตัดสินใจว่าจะหาอะไรทานกันก่อนเข้ากรุงเทพฯ น่าจะดีกว่า เพราะเกรงว่ารถน่าจะติด แล้วถ้าหิวด้วยก็จะยิ่งหงุดหงิดกันไปอีก ในตอนแรกตั้งใจจะแวะทานสเต็กกันที่ร้านโชคชัยฟาร์ม แต่เมื่อออกมาทางเส้นถนนมิตรภาพ พวกเราก็เลยร้านไปกันแล้วจ้า ทำให้ต้องเลือกร้านกันใหม่ ขณะที่กำลังคิดว่า เอาไงดี จะแวะทานที่ไหนดี อยากได้ร้านที่อยู่ริมถนนมิตรภาพเลย จะได้ไม่ต้องเสียเวลาวนไปวนมา

                และแล้วเราก็เห็นป้าย เทพประทาน ซึ่งจริงๆแล้ว หลายครั้งที่ขับมาทางเส้นถนนมิตรภาพ เราก็ขับผ่านร้านเทพประทานสเต็กเฮ้าส์กันเป็นประจำ แต่ไม่ได้สังเกตหรือสนใจสักเท่าไร มาในวันนี้ ก็ตัดสินใจกับแฟนว่า ลองสักครั้งดีกว่า ไหนๆก็มาถึงตรงนี้แล้ว



  ป้ายหน้าร้าน

                     เมื่อเลี้ยวเข้ามาตามป้ายริมถนนมิตรภาพ เราก็จะพบกับป้อมยามและมีทางแยกด้านใน ให้เลือกว่าจะไปยังที่พัก หรือมายังร้านอาหารครับ และในส่วนของร้านอาหารก็จะมีทั้งในตัวอาคาร และด้านหน้าที่นั่งแบบโอเพ่นแอร์ มีทั้งเป็นโต๊ะไม้ปกติ และเป็นศาลาเล็กๆน่ารัก ด้วยอากาศที่กำลังดี เราสองคนจึงเลือกที่จะนั่งในศาลาเล็กๆดีกว่า ได้บรรยากาศดี


ศาลาน้อยๆของเรา

                               หลังจากนั่งไม่ถึงนาที น้องพนักงานก็นำเมนูมาให้เราทำการเลือกสั่งอาหารกันครับ โดยใบเมนู มีเพียง 2 หน้ากระดาษ รายการอาหารก็มีทั้งแบบอาหารทั่วไป และสเต็ก


เมนู

เมนู

                        ในตอนแรกเราว่าจะสั่งสลัดผักมาเพิ่ม แต่น้องพนักงานก็บอกว่า ในชุดสเต็กมีสลัดผักและขนมปังให้ด้วยแล้ว เราสองคนจึงสั่งกันแต่พองาม สเต็กกันคนละจาน และสปาเก็ตตี้ผัดขี้เมาหมูสับ เผื่อไม่อิ่ม (ทางร้านปกติจำหน่ายเป็นหมูชิ้นนะครับ อันนี้เราขอพิเศษเป็นหมูสับ เพราะชอบเป็นการส่วนตัว) หลังจากสั่งอาหารเสร็จ ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที ทางร้านก็นำขนมปัง พร้อมเนย และสลัดผัก มาเสริฟ์ที่โต๊ะครับ ตามด้วยสปาเก็ตตี้และสเต็กครับ


ขนมปังและสลัด ในชุดสเต็ก

  
สปาเก็ตตี้ผัดขี้เมาหมูสับ

สเต็กไก่ซอสบาบีคิว

พอร์คชอปหมูราดน้ำเกรวี่

                             สำหรับรสชาติอาหารตามความเห็นส่วนตัวของเราสองคนนะครับ เริ่มจากขนมปังและเนย ต้องขอบอกว่า ขนมปังดีงามสุดๆ มีความนิ่มนวล หอม อร่อยมากๆ ฉีกออกมาเป็นก้อน ปาดเนยลงไป กินแล้วฟินสุดๆ จนแทบอยากจะสั่งขนมปังมาทานเพิ่ม 

                             สลัดผักก็อร่อยครับ น้ำสลัดที่ราดมารสชาติกำลังดีเลย กลมกล่อม หวานนิดๆ มันหน่อยๆ ผักในสลัดก็กรุบกรอบกำลังดี หั่นมาแบบชิ้นใหญ่ๆ สำหรับเราว่ากำลังดีครับ แต่แฟนว่า ชิ้นใหญ่ไปทานยาก ต้องเอามาหั่นอีกทีก่อนใส่ปาก

                            สปาเก็ตตี้ผัดขี้เมา รสชาติอร่อยมากๆครับ เรียกว่าจัดจ้าน เข้มข้น กลมกล่อมอร่อยสุดๆ ถูกใจแฟนเป็นอย่างมาก ส่วนสำหรับคนไม่ทานเผ็ดเช่นเรา ก็ทานได้ครับ เผ็ดแต่ก็อร่อย ตามด้วยสเต็กครับ ของเราเป็นพอร์คชอปหมูราดน้ำเกรวี่ ในส่วนของน้ำเกรวี่ ปรุงมาได้กำลังอร่อยเลยครับ มีความหอมของเครื่องเทศ และหมูก็ย่างมากำลังดี มีกลิ่นหอมย่างเหมือนใช้เตาถ่าน กลมกล่อมอร่อยครับ ในจานมีผักสดวางมาให้กับเฟรนฟรายชิ้นใหญ่ เฟรนฟรายรสชาติปกติครับ ไม่ค่อยกรอบ ออกแนวนิ่มๆหน่อย

                          ส่วนของแฟนเป็นสเต็กไก่ซอสบาบีคิว รสชาติก็อร่อยดีครับ แฟนบอกว่า เนื้อไก่หมักมาดี มีกลิ่นหอมเตาที่ใช้ในย่าง ทานแล้วเพลินมาก แปบเดียวก็หมดจานกันครับ จริงๆก็อิ่มกันแล้วครับ แต่รู้สึกอยากได้ของหวานกันสักหน่อย หลังจากดูเมนูแล้ว เราก็สั่งไอศครีมนมแพะครับ น้องพนักงานบอกว่ามีหลายรส วนิลา/นมสด/ชอคโกแลต/สตอเบอรี่ เราตัดสินใจเลือกแบบกลางๆก่อนดีกว่า เอารสนมสด ส่วนแฟนก็สั่งบัวลอยน้ำขิง เอาหวานน้อย น้องพนักงานก็ตอบรับเป็นอย่างดี


ไอศครีมนมแพะ

เนื้อไอศครีม

บัวลอยน้ำขิง

เม็ดบัวลอย

                      ในส่วนของไอศครีมนมแพะ รสชาติก็ปกติดีครับ หวานปะแล่มๆ เป็นไอศครีมถ้วยแบบเนื้อแน่น แต่ของแฟนที่สั่งบัวลอยน้ำขิงนี่ล่ะครับคือปัญหา ทันทีที่แฟนตักบัวลอยใส่ปาก ก็แทบจะคายออกมา ด้วยสัมผัสของเนื้อแป้ง มันเหมือนแป้งที่บูดแล้ว ไม่โอเคมากๆ เราก็เลยเริ่มสงสัยว่า เป็นบัวลอยที่ทางร้านทำเอง หรือว่าซื้อแบบแช่แข็งแล้วมาอุ่น พอสอบถามกับทางน้องพนักงาน ก็ได้ความว่า เป็นบัวลอยแช่แข็งของยี่ห้อที่มีสโลแกนว่า ชื่อนี้มีแต่ความอร่อย น้องพนักงานยืนยันว่า เพิ่งซื้อมาจากแมคโครเมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมา และเสนอว่าจะไม่เก็บเงินถ้วยนี้ แต่เราสองคนมองว่า เอาเถอะ ทางร้านคงไม่มีเจตนาเอาของเก่ามาอุ่นให้กับลูกค้า จึงบอกว่าไม่เป็นไร เก็บตังมาล่ะกัน

                       จึงเป็นความเสียดาย ที่ทุกอย่างอร่อยและดูดี ไม่น่าต้องมาผิดหวังกับขนมหวานตอนสุดท้ายเลย และพนักงานที่รับรายการขนม ในตอนที่แฟนบอกว่า เอาหวานน้อยนะ ก็ยังรับคำเป็นอย่างดี น่าจะบอกแต่แรกเลยว่า เป็นแบบอุ่น ระบุความหวานไม่ได้หรอก ซึ่งตรงนี้เราก็พลาดกันเองด้วย ที่ลืมถามว่า บัวลอยน้ำขิงทางร้านทำเอง หรือว่าเป็นแบบฟรีซมาแล้วอุ่น ก็เลยโดนกันไปครับ

                           สรุปความคุ้มค่า เมื่อเทียบปริมาณอาหาร คุณภาพอาหาร ความอร่อยของอาหาร และราคาอาหาร ถ้าไม่นับของหวาน ขอบอกว่า คุ้มค่ามากๆครับ ทางร้านทำอาหารได้ไว อร่อยกลมกล่อม ครั้งหน้าถ้ามีโอกาสผ่านมาแถวนี้ จะต้องกลับมาทานอีกครั้งแน่นอน และมีอีกหลายเมนูที่อยากลองทาน โดยเฉพาะข้าวกระเพราะไข่ดาวครับ เห็นโต๊ะข้างๆสั่งมาทาน ไข่ดาวทอดออกมาได้กรอบ แถมหมูสับในจานที่ราดข้าวมา ก็ดูดีสุดๆ โอาสหน้าไม่พลาดแน่นอนครับ


บิลค่าเสียหาย

ร้านครัวต้นไทร วังน้ำเขียว โคราช

                  หลังจากเที่ยวชมความสวยงามของดอกไม้ ใน Flora Park แล้วเราก็เดินทางมายังที่พัก แถวถนนไทยสามัคคี และที่พักไม่มีให้บริการอาหารเย็นครับ เราจึงต้องเดินทางออกมาหาอะไรทานกันก่อนที่จะเข้าไปนอนพักผ่อนครับ โดยน้องพนักงานที่พักแนะนำว่า ให้ไปทานที่ร้านครัวต้นไทร อาหารอร่อย เรากับแฟนก็ไม่ได้คาดหวังอะไรมากมายครับ เพราะเริ่มเหนื่อยและหิวกันแล้ว บนถนนสามัคคีในเวลาประมาณ 6 โมงเย็น ก็มืดสนิท นานๆจะมีรถผ่านสวนมากันสักคัน รอบข้างก็มืด และแล้วเราก็มองเห็นแสงไฟครับ 


ป้ายหน้าร้าน

                  เมื่อมองเข้ามาภายในร้าน ก็จะพบกับลูกค้าจำนวนมากครับ และรถที่จอดในลานจอดรถอีกจำนวนหนึ่ง ทำให้ค่อนข้างใจชื้นครับ ว่าร้านนี้จะต้องโอเคแน่ๆเลย และเมื่อเดินเข้ามาภายในร้าน ก็จะพบกับโซนขายขนม ของฝาก ด้านขวามือ ด้านซ้ายมือ จะเป็นโซนขายน้ำองุ่นครับ

ข้าวเกรียวเห็ดหอม

น้ำองุ่นมธุรส

                   เมื่อเราก้าวเข้ามาภายในร้าน จะมีน้องพนักงานมาต้อนรับครับ น้องพนักงานแจ้งว่ามีโต๊ะว่างให้บริการ แต่ ณ ตอนนี้ ถ้าสั่งอาหารแล้ว จะใช้เวลาในการรออาหารประมาณ 30-40 นาที ซึ่งพวกเราก็ไม่ได้เร่งรีบอะไรอยู่แล้ว และบรรยากาศภายในร้านก็ดูโอเคดี นั่งฟังดนตรีสด ไปเรื่อยๆ ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร

                     เมื่อได้ที่นั่งแล้ว น้องพนักงานก็นำเมนูมาให้เราเลือกสั่งอาหารครับ ทางร้านก็มีเมนูให้เลือกค่อนข้างหลากหลายครับ แต่ขอถ่ายรูปมาเฉพาะเมนูแนะนำล่ะกันนะครับ และน้องพนักงานก็แนะนำว่า ทางร้านเน้นผลิตภัณฑ์จากเห็ด


เมนูแนะนำ

                      ระหว่างที่เรากำลังรออาหาร ทางร้านก็มีนำน้ำองุ่นมาให้เราชิมกันครับ โดยบอกว่าไม่มีน้ำตาลผสมครับ หลังจากได้ชิมแล้ว ยอมรับครับ ว่าติดใจ เราเลยเดินไปซื้อมาทานเพิ่มครับ ขวดเล็กราคาขวดละ 35 บาท เมื่อซื้อ 3 ขวด ราคา 100 บาทครับ ส่วนในขวดแก้วใบใหญ่ จะราคาขวดละ 100 บาท โดยถ้าต้องการทานเลย มีแบบแช่เย็นๆไว้พร้อมให้บริการด้วยครับ

                           เมื่อมีเครื่องดื่มแล้ว แฟนก็เริ่มออกไปหาอะไรมาทานเล่นครับ และเป็นดังที่คาดไว้ แฟนไปเหมาข้าวเกรียวเห็ดหอมมาจ้า รสชาติอร่อยกำลังดีเลย ข้าวเกรียบเนื้อบาง มีกลิ่นและรสชาติของเห็ดหอมครับ ในราคาถุงละ 35 บาท 3 ถุงราคา 100 บาทเช่นกันครับ เราก็นั่งทานข้าวเกรียบแกล้มกับน้ำองุ่นกันไปเรื่อยๆ สักพักข้าวเกรียบก็หมดครับ จากนั้นจึงเริ่มจากแหนมเห็ดกันต่อ รสชาติแหนมเห็ดที่นี่อร่อยดีครับ ไม่เหมือนแบบที่เคยทานที่อัมพวา อันนั้นจะโดดกลิ่นกระเทียมมากๆ แต่แหนมเห็ดที่นี่ มีความอร่อย ไม่มีกลิ่นของเห็ดหรือกระเทียมแรงแต่อย่างใด รสชาติกลมกล่อมอร่อยครับ ทานไปเพลินๆ ก็หมดอีกเช่นเดิม

                        ถึงเราจะรออาหารกันนาน แต่ด้วยนักร้อง ร้องเพลงเพราะครับ แถมเป็นแนวเพลงที่แฟนเราชอบมากด้วย เพลงช้าๆ ฟังสบายๆ ในยุค 80-90 บรรยากาศก็กำลังเย็นสบาย ติดอยู่ตรงที่มียุงกัดบ้างเล็กน้อย ทางร้านมีเพลงดนตรีสดให้ฟังเฉพาะคืนวันเสาร์กับวันอาทิตย์เท่านั้นะครับ และแล้ว อาหารของเราก็เริ่มออกมากันแล้วครับ


เห็ดผัดเม็ดมะม่วง

ข้าวเปล่า

ต้มยำเห็ดโคน(ถ้วย)

เห็ดโคน

ไก่ทอดสมุนไพร

ผัดผักรวมมิตร

                         สรุปรสชาติอาหารตามความเห็นส่วนตัวของเรากับแฟนนะครับ เริ่มจากเห็ดผัดเม็ดมะม่วง ตักเข้าปากกันคำแรก ขอบอกว่า โครตอร่อยครับ สัมผัสของเห็ดชุบแป้งทอดที่ผัดมาเป็นอย่างดี กลมกล่อม อร่อยสุดๆ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ก็ให้มาแบบพอสมควร และทอดมาใหม่ๆ ไม่มีกลิ่นเหม็นหืน อร่อยมากๆครับ แต่เมนูนี้ไม่ควรทานช้านะครับ เพราะถ้าปล่อยเวลาไปสักพัก แป้งจะเริ่มนิ่มครับ ทำให้ไม่อร่อยได้

                        ข้าวเปล่ามาแบบจัดเต็ม ให้กันแบบพูนๆถ้วยเลยครับ และเป็นข้าวหอมมะลิที่หุงมากำลังดี ตัวข้าวนุ่ม ทานคู่กับ กับข้าวแล้วเพลิดเพลินในรสชาติสัมผัสของความอร่อยแบบสุดๆ   ต่อด้วยต้มยำเห็ดโคนน้ำข้น ถึงจะเห็นความมันลอยเต็มชาม แต่ความกลมกล่อมอร่อยมากันแบบเต็มพิกัดครับ รสชาติจัดจ้าน เข้มข้น เห็ดโคนก็สดอร่อย ในชามจะไม่มีเนื้อสัตว์นะครับ 

                       ไก่ทอดสมุนไพร รสชาติมาแบบอร่อยอีกเช่นเดิม เนื้อไก่ทอดมาแบบแห้งแต่ไม่ชืด และไม่เหนียวนะครับ มีความกลมกล่อมอร่อย ถั่วลิสงมาแบบเม็ดใหญ่ๆ ทอดใหม่ๆ ไม่เหม็นหืนอีกเช่นเดิม เครื่องสมุนไพรก็อร่อยมากันครบครัน

                       สุดท้ายที่ผัดผักรวมมิตร เมนูที่ดูธรรมดาๆ แต่รสชาติความอร่อยไม่ธรรมดานะครับ ในจานใส่ผักมาให้แบบจัดเต็มครบ ทั้งถั่วแขกและบรอคโคลี่ 

                       สรุปความคุ้มค่า เมื่อเทียบปริมาณอาหาร คุณภาพอาหาร และรสชาติความอร่อย กับราคาอาหารแล้ว ต้องขอบอกว่า คุ้มค่าเป็นอย่างมากครับ และน้องพนักงานทุกคนของทางร้าน ให้บริการลูกค้าเป็นอย่างดี ที่ถูกใจเรากับแฟนตรงที่บอกลูกค้าตามตรงแต่แรกที่เข้าร้าน ว่าอาหารจะมาช้า มีความจริงใจกับลูกค้า และถ้าลูกค้ามากันเพียง 2 คน แบบเรา ทางร้านจะนำน้ำแข็งใส่แก้วมาให้เลยครับ ไม่คิดค่าบริการน้ำแข็งด้วย และสามารถขอเติมน้ำแข็งได้เรื่อยๆ เสียดายครับที่เราสองคนทานกันได้เท่านี้ ถ้ามากันจำนวนคนมากกว่านี้ น่าจะได้ลองสั่งอาหารเมนูอื่นๆเพิ่มเติมครับ มีโอกาสหน้าจะต้องกลับมาลองอีกครั้งแน่นอนครับ ทางร้านเปิดให้บริการในเวลา 9.00-20.00 น. ครับ ถ้าท่านใดมีโอกาสผ่านมาแถวนี้ ขอแนะนำให้มาลองทานอาหารกันครับ


บิลค่าเสียหาย

บทความที่ได้รับความนิยม