วันพุธที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2567

ร้านอาหารอินโดจีน จ.อุบลราชธานี

 



                    เมื่อได้มีโอกาสมาที่จังหวัดอุบลราชธานี เราก็ค้นหาร้านอาหารพื้นเมืองกันครับ หลังจากได้ดูรีวิวจากหลายท่าน เราก็ลงความเห็นกันว่า จะไปลองทานกันที่ร้านอาหารอินโดจีน ซึ่งเป็นร้านอาหารเวียดนามเก่าแก่ ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นอาหารญวนแบบดั้งเดิม และได้รับรางวัล Michelin guide อีกด้วย สำหรับที่จอดรถ ก็ต้องหาจอดเอาตามริมถนนหน้าร้านนะครับ


บรรยากาศหน้าร้าน

บรรยากาศหน้าร้าน

ตู้ของฝากหน้าร้าน

บรรยากาศภายในร้าน

บรรยากาศภายในร้าน

โต๊ะอาหาร

เมนูแนะนำ

                 ภายในร้านอินโดจีน จะมีให้บริการโต๊ะทั้งฝั่งมีเครื่องปรับอากาศและไม่มีนะครับ ด้วยพวกเรามาถึงในเวลาช่วงเที่ยง จึงเลือกที่จะนั่งในฝั่งเครื่องปรับอากาศครับ หลังจากเลือกโต๊ะตามอัธยาศัยได้แล้ว น้องพนักงานก็จะนำเมนูมาให้เราเลือกสั่งกันครับ (ต้องขออภัยด้วยนะครับ ไม่ได้ถ่ายเล่มเมนูมาให้ เนื่องจากหาที่จอดรถอยู่ จึงมาไม่ทันได้สั่งอาหารครับ) หลังจากที่แฟนทำการสั่งอาหารไปเป็นที่เรียบร้อย ใช้เวลาประมาณ 5-10 นาที รายการอาหารที่สั่งก็ทะยอย นำออกมาเสริฟ์จนครบครับ

น้ำจิ้มแหนมเนือง และน้ำจิ้มเวียดนาม

ชุดผักสด

ขนมเบื้อง

แหนมเนือง

ชุดแผ่นแป้งแหนมเนืองและผักเครื่องเคียง

เนื้อย่างใบชะพลู

ก๋วยเตี๋ยวหลอดเวียดนาม

น้ำชา

กุ้งพันอ้อย

กุ้งพันอ้อย

เครื่องเคียงผักแหนมเนือง

เห็ดโคนผัดไข่

ยำหมูยอ

ยำหมูยอ

มุมของฝาก

กาละแม

กาละแมห่อใบตอง

เนื้อกาละแมด้านใน

ปลาหมึกทอดตะไคร้

ปลาหมึกทอดตะไคร้

                         สำหรับรสชาติอาหารตามความเห็นส่วนตัวของพวกเรา 4 คนนะครับ เริ่มจากรสชาติน้ำจิ้มแบบเวียดนาม ออกหวานนำเล็กน้อย น้ำจิ้มแหนมเนืองก็กลมกล่อมดีครับ ตัวน้ำจิ้มไม่ได้ข้นมาก รสของตับและถั่วก็ไม่ได้ชัดเจนเหมือนกับแหนมเนืองชื่อดังของทางอุดรธานีและหนองคายครับ สำหรับเนื้อหมูแหนมเนืองและแป้งเวียดนาม ก็เป็นสูตรของทางร้านที่ทำเอง เนื้อหมูมีความละม้ายคล้ายหมูปิ้ง คือจะไม่ได้เนียนแบบที่เคยทาน แต่ก็มีความอร่อยเป็นแบบฉบับของตัวเองครับ แต่ที่เด่น่จะเป็นแผ่นแป้งเวียดนาม ที่ให้สัมผัสว่าอร่อยกว่าที่อื่น เมื่อทานรวมคู่กับผักสดแล้ว ยิ่งเพิ่มความอร่อยครับ แปบเดียวต้องสั่งมากันเพิ่มอีกชุด

                          ขนมเบื้องรสชาติปกติดีครับ ทอดมาได้กรุบกรอบ สำหรับส่วนตัวรู้สึกว่ากรอบไปสักหน่อย แต่คนอื่นๆชอบครับ จะราดน้ำจิ้มหรือไม่ราด ก็อร่อยไม่ค่อยแตกต่างกันสักเท่าไร ต่อด้วยเนื้อย่างใบชะพลู เมนูนี้ไม่ได้ทานเองครับ  เพราะเรากับแฟนไม่ทานเนื้อ แต่ผู้ร่วมทริป บอกว่า รสชาติใช้ได้ครับ แต่ยังไม่ค่อยถูกใจสักเท่าไร

                            ก๋วยเตี๋ยวหลอดเวียดนาม เมนูนี้รู้สึกชอบเป็นการส่วนตัวครับ ไส้ด้านในอร่อยกลมกล่อม ตัวแป้งก็ไม่ได้หนาจนเกินไป ตัวเมนูยอนึ่งด้านบน อร่อยมากๆครับ สมกับเป็นหมูยอเมืองอุบลราชธานีจริงๆ ผักดองเครื่องเคียงและหอมเจียวก็รสชาติดีครับ ราดน้ำจิ้มแล้วทานคู่กัน เป็นอะไรที่ดีงามมากๆครับ

                             กุ้งพันอ้อยของทางร้าน เนื้อกุ้งทอดมีกลิ่นหอมอ่อนๆของอ้อย รสชาติอร่อยดีครับ มีเส้นหมี่ลวกและผักสดให้มาทานคู่กัน เข้ากันได้เป็นอย่างดี ต่อด้วยเห็ดโคนผัดไข่ เมนูนี้เพิ่งเคยทานครับ ก็อร่อยปกติดีครับ 
 
                           ยำหมูยอ รสชาติจัดจ้าน แต่ไม่ได้เผ็ดมาก เนื้อหมูยอก็ดีงามตามปกติ ปิดท้ายเมนูของคาวด้วย ปลาหมึกทอดตะไคร้ รสชาติแปลกๆดีครับ แต่ไม่ชอบตะไคร้ที่ทอดออกมาค่อนข้างแข็ง แอบรู้สึกว่าทานยากเป็นการส่วนตัวครับ 

                           ส่วนกาละแมที่วางจำหน่ายเป็นของฝาก เราก็ได้หยิบมาลองชิมครับ กาละแมหวานกำลังดีครับ เนื้อหนึบๆ ทานแล้วก็อร่อยปกติดี 

                         สรุปความคุ้มค่าของอาหารมื้อนี้ เมื่อเทียบปริมาณอาหาร คุณภาพอาหารและความอร่อยที่ได้รับกับราคาอาหารแล้ว เราก็ลงความเห็นกันว่า คุ้มค่าอยู่ครับ ด้วยอาหารเวียดนามส่วนใหญ่ ราคาก็จะประมาณนี้ ไม่ถึงกับแพงจนรู้สึกว่ารับไม่ได้ และถึงจะมีหลายเมนู ที่พวกเรารู้สึกว่าปกติธรรมดา แต่เมนูที่อร่อยจนประทับใจ และหาทานที่อื่นไม่ได้ ก็มีครับ และถ้าถามว่าจะกลับมาทานอีกไหม ถ้ามีโอกาสมาที่อุบลราชธานีอีก เราก็จะยังกลับมาทานกันอีกครั้งครับ แต่อาจจะมีบางเมนูที่จะไม่สั่งมาทานกันครับ เพราะพวกเราอาจจะติดในรสชาติที่มีการปรับเปลี่ยนกันมาตามแต่ละสถานที่ จึงไม่คุ้นชินกับรสชาติอาหารดั้งเดิม


บิลค่าอาหาร


วันอังคารที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2567

ร้าน สะบันงา โดยนางสุดคณึง ศรีธนนันท์ จ.สกลนคร


                           

              ช่วงเทศกาลคริสมาสต์ปี 2565 เราได้มีโอกาสไปร่วมงานแห่ดาวที่สกลนคร และบังเอิญได้เข้าไปทานร้านอาหารพื้นเมือง ที่ร้านสะบันงา แบบไม่ได้ตั้งใจ เพราะเป็นช่วงเทศกาลเฉลิมฉลองและเป็นเวลาค่ำ ทำให้ร้านอื่นๆปิดให้บริการกันเกือบหมดแล้ว และครั้งนั้นทำให้พวกเราประทับใจได้รสชาติอาหารของทางร้านเป็นอย่างมาก มาในวันนี้ เป็นความตั้งใจที่จะมุ่งหน้าไปทานที่ร้านอีกครั้ง สำหรับที่จอดรถ ทางร้านมีที่จอดรถให้บริการอยู่ด้านหลังร้านครับ


ด้านหน้าร้าน

บนโต๊ะหน้าร้านมีวางจำหน่ายแหนมสด


                      พวกเรามาถึงร้านในเวลาช่วงเที่ยง ซึ่งภายในร้านมีลูกค้าค่อนข้างแน่น ทางน้องพนักงานจึงแนะนำให้เราไปนั่งห้องด้านใน บังเอิญกับอีกโต๊ะในห้องกำลังเช็คบิล พวกเราจึงได้ใช้บริการเพียงลำพังในห้องด้านใน


ป้ายร้าน

มุมของฝาก

เมนูทางร้าน

เมนูแนะนำทางร้าน

                หลังจากได้โต๊ะเป็นที่เรียบร้อย น้องพนักงานก็นำเมนูมาให้เราเลือกสั่งกันครับ ทางร้านมีเมนูให้เลือกค่อนข้างมาก เราขอถ่ายเฉพาะเมนูแนะนำมานะครับ หลังจากสั่งอาหารกันเป็นที่เรียบร้อย ใช้เวลาไม่นานครับ ประมาณ 5-10 นาที อาหารก็เริ่มทะยอยออกมากันจนครบ


แหนมสด
ชุดอุปกรณ์ในการทาน

ข้าวเปล่า 1 โถ

ส้มไข่ปลา

ซุปหน่อไม้

แตงกวา

ปลาส้มทอด

แกงเลียงกุ้ง

ปลานึ่งจิ้มแจ่ว

เนื้อปลานึ่งมาแบบชิ้นใหญ่ๆ

ทอดมันปลากราย

ผัดผักบุ้งไฟแดง

แกงปลากราย

                      สำหรับรสชาติอาหารตามความเห็นส่วนตัวของพวกเราทั้ง 4 คนนะครับ เริ่มจากเมนูแหนมสด เป็นแหนมที่วางจำหน่ายอยู่ด้านหน้าร้าน แต่ด้วยความชอบส่วนตัวเห็นแหนมห่อใบตองเป็นไม่ได้ โดยถ้าเรากินที่ร้าน น้องพนักงานจะให้เราเลือกระหว่าง หั่นสดมาทาน กับนำไปย่างก่อนก็ได้ เราเลือกแบบสด ทางร้านจึงทำการหั่นใส่จาน พร้อมแถมเครื่องเคียงในการทานมาให้ด้วยตามภาพ แหนมอร่อยครับ เปรี้ยวน้อยๆกำลังงาม รสชาติดีมาก แต่แฟนบอกว่าถ้ามีพริกขี้หนูสวนสักหน่อย จะเป็นอะไรที่ดีงามมากๆ แต่เหมือนร้านอาหารทางอีสาน จะไม่ค่อยนิยมใช้พริกขี้หนูสวนกันครับ พวกเราอยากจะซื้อกลับบ้าน แต่เสียดายว่าเราต้องเดินทางไปอีกหลายที่ น้องแหนมไม่สามารถทนร้อนทนอยู่บนรถกับเรานานๆได้

                       ส้มไข่ปลา เป็นเมนูที่ประทับใจพวกเราตั้งแต่มากินกันครั้งแรก ไม่เคยทานรสชาติแบบนี้ที่ไหนมาก่อนครับ หน้าตาดูคล้ายไข่เจียว ไข่คน แต่รสชาติอร่อยกลมกล่อม มีความเปรี้ยวน้อยๆ ทานเปล่าๆก็เพลินๆ ทานกับข้าวก็อร่อย แปบเดียวก็แทบจะหมดจานกันแล้วครับ

                         ซุปหน่อไม้ เมนูนี้เพิ่งลองสั่งครั้งแรก รสชาติทางร้านทำมาแบบพื้นบ้านดีครับ อร่อยนัวๆ เผ็ดไม่มาก หน่อไม้อ่อนกำลังดี ไม่แข็ง ไม่มีเสี้ยน ปลาส้มทอด ก็เป็นอีกเมนูที่ประทับใจครับ ปลาส้มทางร้านอร่อยไม่แพ้ของทางเพชรบูรณ์เลย ความเปรี้ยวกำลังดี แถมทางร้านทอดมากำลังงาม เนื้อปลาด้านในยังนุ่มฉ่ำ ผิวหนังปลาด้านนอกเกรียมเล็กน้อย ทานคู่กับผักสด หรือกินกับข้าวเพลินมากๆครับ

                       แกงเลียงกุ้ง เมนูนี้สุดยอดความอร่อย รสชาติน้ำซุปแกงเลียงเข้มข้น กลมกล่อม ผักสด ต้มออกมาได้สุกกำลังดี ไม่เละ และไม่ได้แข็งจนเกินไป ต่อด้วยเมนูพระเอกเลย ปลานึ่งจิ้มแจ่ว เนื้อปลาแม่น้ำท้องถิ่นนึ่งมาได้สด หวาน ไม่มีความคาวเลย ทานคู่กับผักสด และน้ำจิ้มแจ่วสูตรของทางร้าน อร่อยมากๆ ถึงแม้จะเผ็ดไปหน่อยสำหรับเรา แต่หยุดทานไม่ได้เลย

                       ทอดมันปลากราย และผัดผักบุ้งไฟแดง รสชาติอยู่ในเกณฑ์ปกติครับ ตัวทอดมันหอมเครื่องแกง เนื้อทอดมันมีความเด้ง และผัดผักบุ้งรสชาติกลมกล่อมดี ปิดท้ายด้วยแกงปลากรายที่ออกมาช้ากว่าเพื่อน แต่รสชาติแกงก็ยังคงความอร่อย เสียดายรอบนี้ตัวมะเขือเปราะเหมือนยังไม่ค่อยซึมเนื้อน้ำแกงสักเท่าไร โดยรวมก็ยังอร่อยครับ จนอยากมีเส้นขนมจีนมาทานคู่กับแกงปลายกราย (ทางร้านไม่มีเส้นขนมจีนจำหน่ายครับ)

                    ข้าวมูน เป็นขนมของฝาก ที่ทางร้านจำหน่ายครับ วางอยู่บนหน้าเคาน์เตอร์เลย ข้าวเหนียวมูนหน้าตาคล้ายข้าวแต๋นทอดครับ เป็นขนมทานเล่น แนวของว่าง ต้องขออภัยด้วยนะครับที่ไม่มีภาพมาประกอบแบบชัดๆ พอดีทานกันหมดถุงอย่างไว และมัวแต่ตื่นเต้นกับรสชาติความอร่อยของข้าวมูน ที่พวกเราไม่เคยกิน จนเอาแต่เหมาซื้อกลับเป็นของฝาก จนลืมถ่ายส่วนที่เหลือเลยครับ

                      สรุปความคุ้มค่าตามความเห็นส่วนตัวของพวกเรานะครับ เมื่อเทียบปริมาณอาหาร คุณภาพอาหารและความอร่อยแล้ว พวกเราลงความเห็นตรงกันครับว่า คุ้มค่าเป็นอย่างที่สุด จนแอบเสียดายว่า สกลนครไกลไปสักหน่อย ไม่อย่างนั้นอยากพาผู้สูงอายุที่บ้านเดินทางมาทานด้วยกัน เพราะมีหลายเมนู ที่พวกท่านต้องชอบมากแน่ๆ อีกสิ่งหนึ่งที่ประทับใจมากๆ คือการบริการของน้องพนักงานในร้านครับ ทั้งให้คำแนะนำได้ดี และน่ารักในการบริการ ใส่ใจกับลูกค้า ถ้ามีโอกาสได้มาที่สกลนครอีก พวกเราไม่พลาดที่จะกลับมาทานอีกอย่างแน่นอนครับ


บิลค่าเสียหาย




บทความที่ได้รับความนิยม