วันพุธที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2561

ร้านโกปี๊ สาขาคิวคูตอน

                    มาถึงเมืองนครศรีธรรมราชมีคำกล่าวไว้ว่า เช้าต้องกินโกปี๊ ตอนแรกก็มีความตั้งใจว่าจะไปกินสาขาที่อยู่ใกล้โรบินสันโอเชี่ยนในตัวเมือง แต่พอดีมีน้องพนักงานที่เช่ารถแนะนำว่า น่าจะไปทานสาขาที่นครโบราณ คิวคูตอน บรรยากาศน่านั่ง และนั่งสบายกว่าสาขาในตัวเมือง ที่สำคัญจะตั้งอยู่ในระหว่างที่เราขับรถเข้าไปยังตัวเมืองด้วย ยังไงก็ขับผ่านอยู่แล้ว ก็เลยตัดสินใจเปลี่ยนมาทานที่สาขานี้แทนครับ นครโบราณคิวคูตอนจะตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ด้านขวามือของเรา สำหรับเวลาขับรถเข้าไปในตัวเมือง ทำให้ต้องทำการกลับรถนะครับ เมื่อเลี้ยวเข้ามาจะเห็นหอนาฬิกาตั้งอยู่ด้านหน้า







             ในส่วนของนครโบราณคิวคูตอน ก็จะมีร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านขนม รวมกันอยู่หลายร้านนะครับ เป้าหมายของเราจะอยู่ทางด้านหน้าซ้าย สังเกตุได้ชัดเจนครับ สำหรับที่จอดรถ ก็ตามแต่สะดวกหากันได้นะครับ พื้นที่มีที่จอดรถให้บริการอยู่ค่อนข้างมาก










              พวกเรามาถึงที่ร้านเวลาประมาณ 8 โมงเกือบจะครึ่งครับ แต่ภายในร้านก็มีลูกค้าอยู่ค่อนข้างหนาแน่นมาก เรียกว่าต้องรอโต๊ะว่างกันเลยครับ ใช้เวลาประมาณ 5 นาที เราก็ได้โต๊ะอยู่ในส่วนของห้องปรับอากาศด้านในครับ






              บรรยากาศภายในร้านตกแต่งแนวจีนโบราณ มีประดับด้วยปิ่นโต นาฬิกาแขวนผนัง และภาพเขียนต่างๆ จานชามบนโต๊ะ เป็นของลูกค้าชุดก่อนหน้าที่ลุกไปนะครับ อย่างที่บอกว่า ลูกค้าหนาแน่่นจริงๆ ทำให้พนักงานทำงานกันแทบจะไม่ทันครับ อยากกินของอร่อยชื่อดัง ต้องใจเย็นๆนะครับ ใช้เวลาประมาณ 5-8 นาที น้องพนักงานก็มาทำการเก็บโต๊ะครับ แต่ยังไม่เช็ดโต๊ะนะ ต้องรออีกสักพัก ถึงจะมาทำการเช็ดโต๊ะ พร้อมกับส่งเมนูให้เราเลือกดูรายการอาหาร ระหว่างที่น้องทำการเก็บโต๊ะ เราก็สอบถามว่าที่ร้านนี้เปิดกี่โมงหรอ น้องพนักงานแจ้งว่าเปิดบริการตั้งแต่ 6 โมงเช้า แปลว่า น่าจะหนาแน่นแบบต่อเนื่องกันยาวๆเลยครับ

           






                  บนโต๊ะจะมีกาน้ำชาร้อนวางไว้บริการนะครับ สักพักน้องพนักงานจะนำแก้วน้ำชามาวางไว้ให้ พร้อมกับมารอจดรับรายการอาหาร เมื่อเลือกกันพร้อมแล้วก็ทำการสั่งกันได้เลยครับ มิสเตอร์ทีของเรามาสะดุดตากับเมนู ลูกเป๋าฮื้อ ราคา 50 บาท เมื่อสอบถามกับทางน้องพนักงาน ได้ความว่า คือเมนูที่เอาไว้ทอปปิ้ง สั่งเพิ่มใส่ลงไปในบะกุ๊ดเต๋ครับ โดยในราคา 50 บาท จะได้เหมือนมาเป็นถ้วยชอตนึงแล้ว มีใส่มาหลายอันอยู่ เพราะเป็นอันเล็กๆ และเราก็ถามถึงเมนูติ่มซำกันต่อ เพราะดูจากในใบเมนู เห็นมีแค่ขนมจีบอย่างเดียวเอง เคยเปิดดูในเว็ป เห็นมีหลากหลายมาก น้องพนักงานก็แจ้งว่า ไลน์เมนูติ่มซำเหลือแค่นี้มาสักพักแล้ว ก็เป็นความผิดหวังกันไปครับ เพราะคาดฝันว่าจะได้สั่งหลากหลายเมนูเข่งติ่มซำ มาทานกันให้หนำใจ หลังจากสั่งอาหารกันเป็นที่เรียบร้อย ใช้เวลารออีกประมาณ 10 นาที อาหารก็เริ่มทะยอยนำมาเสริฟ์ครับ


ชาจีนร้อน

ไข่ลวก

ไข่ลวก

ไข่ลวกทานคู่กับแมกกี้และพริกไทย

โกปี๊ชิโน่เย็น

ชาร้อน

อิ่วจาโก้ย

สังขยา

เนื้ออิ่วจาโก้ย

ขาหมู

ขนมจีบกุ้ง

ขนมจีบหมู

บะหมี่เปล่า

ข้าวกระดูกหมูนุ่ม

เนื้อกระดูกหมูนุ่ม

ข้าวคั่วหมูป่า

บะกุ๊ดเต๋ สำหรับ 1 ท่าน

บะกุ๊ดเต๋ สำหรับ 2 ท่าน

ข้าวเปล่า

ลูกเป๋าฮื้อ

ลูกเป๋าฮื้อในบะกุ๊ดเต๋

                  ขอสรุปรสชาติอาหารตามความรู้สึกส่วนตัวของพวกเรากันเองนะครับ เริ่มจากปัญหาที่พบเจอกันก่อนเลย อาจจะเป็นเพราะว่าลูกค้าค่อนข้างเยอะ ทำให้ต้องเร่งรีบทำอาหารออกมาเสริฟ์กัน ทำให้บะหมี่เปล่าจานที่เราสั่งกันมา เจอบะหมี่เป็นก้อนติดกันเหนียว ทานแล้วก็รู้สึกสะดุด ความอร่อยหายไปเลยครับ

บะหมี่ติดเป็นก้อนเหนียว

            กลับมาที่เมนูที่ประทับใจสุดๆ ขอยกให้ไข่ลวกครับ ไข่ลวกที่นี่ใส่แก้วละ 2 ฟองนะครับ ลวกมาได้กำลังดีเลย อร่อยมากๆครับ ต่อด้วยอิ่วจาโก้ย เมนูขึ้นชื่อของที่ร้านโกปี๊ ทุกคนลงความเห็นกันว่า อร่อยครับ สัมผัสความกรอบนิดๆด้านนอก และเหนียวหนึบด้านใน ไม่ได้กลวงเหมือนปาท่องโก๋ที่เราทานกันทั่วไป แต่สังขยานี่ รสชาติแปลกๆครับ อาจจะเป็นสูตรเฉพาะของทางร้าน ไม่ค่อยถูกใจพวกเราเท่าไร

         ขาหมู ค่อนข้างธรรมดาปกติครับ ไม่ได้พิเศษอะไร เมนูคั่วหมูป่ามารสชาติ เผ็ดร้อนสะใจ สมกับมาทานที่ร้านอาหารทางภาคใต้ เรียกว่าถ้าไม่เทพกินเผ็ดจริงๆ อาจจะมีการแสบท้องเกิดขึ้นกันได้ เมนูข้าวกระดูกหมูนุ่ม ก็อร่อยครับ เนื้อกระดูกหมูมาได้นุ่มละลายในปาก รสชาติน้ำก็กลมกล่อม ทานคู่กับข้าวเปล่าได้แบบเพลินเพลินเลย แต่ก็แอบแปลกใจนิดหน่อยครับ ว่าจานที่เสริฟ์พร้อมข้าวคั่วหมูป่า ทำไมวางกับแตงกวา ไม่มีผักให้ทานแกล้มลดความเผ็ดเลย แต่ข้าวกระดูกหมูนุ่มกลับวางเสริฟ์พร้อมผักสดให้ทาน อาจจะเป็นสไตล์ของทางร้านที่นี่

         บะกุ๊ดเต๋ เมนูน้ำซุปร้อนที่อยู่คู่กับติมซำ รสชาติก็ทานได้ครับ ไม่ได้มีอะไรประทับใจเป็นพิเศษ และลูกเป๋าฮื้อ ก็มาได้เล็กน่ารัก แต่แอบเหนียวนิิดหน่อย แต่ก็เสริฟ์มาแบบร้อนๆครับ ซดน้ำซุปแล้วคล่องคออยู่ จะเห็นว่าเราสั่งมา 2 ชาม แต่ต่่างขนาดกันนะครับ ในภาพอาจจะดูไม่ค่อยแตกต่าง แต่ของจริงก็แตกต่างกันนิดนึง ส่วนขนมจีบทั้งกุ้งและหมู อันนี้ธรรมดามากครับ พอทานได้

         เครื่องดื่มชาจีนร้อนฟรี ก็ร้อนดีครับ ถ้าอยากได้น้ำเปล่า ด้านหน้ามีให้บริการฟรีนะครับ สามารถเดินไปกดน้ำใส่แก้วได้เลย โกปี๊ชิโน่ รสชาติออกมาเข้มข้นครับ และชาร้อนก็อร่อยสมกับเป็นเมนูประจำร้าน หลังจากทานเสร็จก็ทำการเรียกพนักงานคิดเงินครับ ด้วยความที่เราสั่งอิ่วจาโก้ยกัน 4 อัน แต่ร้านเอามาเสริฟ์ 5 อัน มิสเตอร์ทีจึงแจ้งน้องพนักงานให้ไปแก้ไขบิลมาใหม่ครับ เดี๋ยวทางร้านจะขาดทุน

           สรุปนะครับ สำหรับคำกล่าวว่า มาเมืองนครศรีธรรมราช เช้าต้องโกปี๊ อันนี้อาจจะไม่เหมาะกับครอบครัวเราครับ เพราะยังไม่มีอะไรที่โดนใจให้อยากกลับมาซ้ำอีกรอบ แต่ท่านใดที่ผ่านมาแถวสนามบินนครศรีธรรมราช ก็ลองมาทานกันนะครับ คุณภาพอาหารและราคาก็ไม่ได้แพงเกินไปอยู่ในเกณฑ์รับได้ครับ ที่นี่มีมุมสวยๆให้ถ่ายรูปค่อนข้างเยอะอยู่ โอกาสหน้าถ้าได้มาที่นครโบราณคิวคูตอนอีกรอบ ว่าจะไปลองทานร้านอื่นดูบ้างครับ


บิลรอบแรก

บิลรอบสอง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม