วันพุธที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2560

เกสร ภัตตาคาร


          ช่วงเวลาทานข้าวของครอบครัวใหญ่ ที่นานๆจะเจอกันพร้อมหน้าพร้อมตา ถ้าเราเลือกร้านอาหารทั่วไป นั่งทานเสร็จก็แยกย้ายกันกลับ ด้วยความที่อยากให้มีกิจกรรมอะไรทำร่วมกัน สังสรรค์ พูดคุยและปลดปล่อยความเครียด วันนี้เราเลยเลือกร้าน เกสร ภัตตาคาร เป็นร้านอาหารจีน ที่มีบริการห้องคาราโอเกะทั้งแบบส่วนตัว และรวมด้านนอก แต่ด้านนอกจะมีการแบ่งการร้องเพลงออกตามจำนวนลูกค้าที่เข้ามาทาน และวนตามรอบ

         ร้านเกสร ภัตตาคาร ตั้งอยู่ริมถนน เจริญราษฏร์ หาร้านไม่ยากครับ แต่ที่หายากคือที่จอดรถ เนื่องจากที่จอดรถด้านข้างภัตตาคาร เป็นที่จอดรถที่ต้องใช้ร่วมกันกับร้านอาหารอีก 2 ร้าน ทำให้ที่จอดรถมีไม่พอเพียง ต้องหาที่จอดริมถนนกันตามยถากรรมจ้า

        ถ้าเป็นวันธรรมดา จ-ศ ทางร้านจะเปิดบริการเป็น 2 ช่วงเวลา 11-14.00 และ 17.00-24.00 แต่ถ้าเป็นวันเสาร์และอาทิตย์ จะเปิดบริการยาว ตั้งแต่ 11.00-24.00 น. สำหรับห้องคาราโอเกะ และห้องส่วนตัวธรรมดา ควรจะโทรจองล่วงหน้านะครับ เพราะร้านนี้เป็นที่นิยมของผู้สูงอายุหลายท่าน นัดรวมตัวทั้งทานแชร์ สังสรรค์หมู่คณะ


ป้ายร้านเด่นชัด


ทางเข้าร้านอาหาร

บรรยากาศภายในร้าน

ที่สำหรับร้องคาราโอเกะ ด้านนอก

วันนี้เราได้ของห้องเกสร 4


                         ห้องเกสร 4 ที่เราได้ทำการจอง เป็นห้องที่ค่อนข้างใหญ่ โต๊ะอาหารแบบกลม มีถาดหมุนตรงกลาง สามารถนั่งได้ประมาณ 14 คน แบบค่อนข้างแน่น แต่มีโต๊ะกลมเล็กอีกตัวตั้งด้านหน้า บนโต๊ะมีที่วางของคีย์บอร์ด และเม้าท์ สำหรับใช้เลือกเพลงคาราโอเกะ ด้านขวามีวางโซฟาหนัง ขนาดนั่งได้ 3-4 คน วางไว้บริการ มีพื้นที่ด้านหน้าว่างพอสมควร สามารถยืนเต้นได้ 

                        เมื่อเข้ามาในห้อง เลือกสั่งเครื่องดื่มกันก่อนครับ หลังจากนั้น น้องพนักงานจะนำเมนูโต๊ะจีนมาให้เลือก เราสามารถเลือแบบเป็นเซ็ทโต๊ะจีน หรือจะแยกสั่งก็ได้ ตามแต่ความพอใจ


เก๊กฮวย/ชาจีน/น้ำเปล่า


เมนูโต๊ะจีน


เมนูโต๊ะจีน


                       หลังจากดูเมนูรายการอาหารโต๊ะจีนแล้ว เราตัดสินใจจะสั่งแบบแยกรายการดีกว่า เพื่อจะได้อาหารที่ถูกใจ เมื่อสั่งอหารเสร็จ คนรับรายการอาหารจะเอารายการที่เราสั่งแขวนไว้ที่ในห้อง เพื่อให้พนักงานเสิรฟในห้องได้คอยเช็ครายการอาหาร เป็นการป้องกันอาหารเสิรฟผิดโต๊ะ 


รายการอาหารที่สั่ง


ผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเลือกรายการอาหาร สามารถร้องเพลงกันได้เลยครับ
ยำผักกูด - รสชาติจัดจ้าน ผักกูดอ่อนๆ หมูสับมาเต็ม อร่อยสุดๆ


เป็ดกีต้าร์ - เป็ดย่างเลาะกระดูกออก หนังเป็ดกรอบ เนื้อเป็ดนุ่มๆ ทานคู่กับหมั่นโถวและซีอิ๊วดำ ฟิน อร่อย


หูฉลามน้ำแดง - หูชิ้นขนาดปานกลาง มาพร้อมน้ำแดงรสชาติเข้มข้น เหล้าจีนแอบแรงนิดหน่อย


สลัดกุ้งทอด - กุ้งทอดกรอบอร่อย ทานคู่กับสลัดผลไม้ ราดด้วยน้ำสลัด เข้ากันเป็นอย่างดี


ผัดผักกูดไฟแดง - เมนูผักกูดออกมาเหนียวนิดหน่อย รสชาติออกเค็ม


กระเพาะปลาน้ำแดง - เนื้อกระเพาะปลามาชิ้นใหญ่หนา เต็มคำ รสชาติน้ำซุปกลมกล่อม เหยาะพริกไทยอีกนิด อร่อยสุดๆ


ทอดมันกุ้ง - เมนูนี้จะมาแบบพอดีกับจำนวนลูกค้า รสชาติอร่อย ด้านนอกกรอบ เนื้อกุ้งอัดแน่น เป็นความอร่อยที่ลงตัว ทานคู่กับน้ำจิ้มบ๊วย


กุ้งแช่น้ำปลา


โป๊ะแตก - สามารถขอแบบแยกพริก ถึงจะยังไม่ใส่พริก รสชาติก็อร่อยจัดจ้าน เปรี้ยวกำลังดี ซดน้ำซุปร้อนๆ ชื่นใจเป็นอย่างมาก


พริกสำหรับใส่โป๊ะแตก มีทั้งพริกแห้ง และพริกสด


ปลากระพงน้ำแดง -มาพร้อมเส้นใหญ่ทอด ทานคู่กับเนื้อปลากระพงหวานๆ ราดด้วยเครื่องเคียงหมูเส้น ขิง เห็ดหอม และมีผักบุ้งวางไว้ด้านข้าง 


เส้นใหญ่ทอดกรอบด้านบน ด้านในเส้นยังนุ่ม


ข้าวผัดปู - ผัดข้าวแห้ง มีความเกรียมหน่อยๆ แต่ข้าวยังคงนุ่มหอม หวานด้วยเนื้อปู อร่อยสุดๆครับ


ปลากระพงสมุนไพร - ปลากระพงทอดกรอบๆ ราดด้วยน้ำยำสมุนไพร มาครบทั้งตะไคร้ มะนาว มะม่วงหิมพานาต์ หอมแดง โรยด้วยโหระพา แถมด้วยมีใบชะพลูไว้สำหรับห่อทานได้อีก รสชาติอร่อย จัดจ้าน


เส้นใหญ่ราดหน้าทะเล - เส้นใหญ่นุ่มๆ มาพร้อมผักคะน้า และเครื่องทะเล รสชาติเข้มข้น ออกไปทางเค็มนิดนึง


ราคาค่าเสียหายครับ

           ความเห็นส่วนตัวนะครับ ร้านอาหาร เกสร ภัตตาคาร เป็นร้านอาหารจีน ที่ยังคงสไตล์ อาหารจานใหญ่ สามารถทานกันได้อย่างทั่วถึง วันนี้เรามากัน 14 คน ก็ยังทานไม่หมดครับ ต้องห่อกลับบ้านกันหลายรายการ  เมนูที่ทานที่ไหนก็รู้สึกว่าสู้ที่นี่ไม่ได้ ก็คือ ทอดมันกุ้ง/เป็ดกีต้าร์/โป๊ะแตก สามเมนูนี้ คืออะไรที่อร่อยมากๆครับ 

           ห้องคาราโอเกะ ค่าห้องอยู่ที่ 1,000 บาท สามารถร้องไปได้เรื่อยๆ ตั้งแต่เข้าร้านยันร้านปิด ไม่มีเวลากำหนด มีพนักงานเสิรฟประจำห้อง คอยบริการช่วยเปลี่ยนถ่ายอาหารจากจานใหญ่ไปใส่จานเล็ก เพื่อเคลียร์พื้นที่โต๊ะให้สำหรับอาหารจานใหม่ คอยบริการเปลี่ยนจานใบใหม่ให้กับลูกค้า และเสิรฟน้ำให้ตลอดเวลา 

       สรุป ค่าเสียหายวันนี้ 9,240 บาท หาร 14 คน ตกคนละประมาณ 660 บาท บางท่านอาจจะบอกว่า ไปทานบุฟเฟ่ต์ที่โรงแรมได้เลยนะ แต่สำหรับวันนี้ เราอยู่ในร้านตั้งแต่ 11 โมง - 14.45 เราว่าที่นี่ไม่แพง เพราะเราได้มีเวลาใช้ร่วมกันในครอบครัว ได้ร้องเพลงร่วมกัน หัวเราะ ผ่อนคลาย ได้พูดคุยกัน เวลา 3 ชม.กว่า ที่มีค่ามากกว่าการมานั่งกินๆ แล้วแยกย้ายกันไป เรียกได้ว่า อิ่มอร่อยและมีความสุขกันทุกคนจ้า     

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม