เมืองไทยของเราเป็นหนึ่งในประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่อง Street Food เพราะมีร้านขายอาหารรถเข็น ข้างทางเปิดขายกันแทบจะทุกพื้นที่ และมีเปิดขายสลับกันแทบจะทุกเวลา เรียกว่า หิวเมื่อไร เดินออกมาจากบ้าน ต้องมีสักร้านข้างทางให้หาอะไรทานกันแน่นอน วันนี้เราไปทำธุระกันแถวเอสพานาดรัชดา จึงไม่พลาดที่จะแวะหาอะไรทานกันที่ตลาดนัดรถไฟรัชดา สำหรับที่จอดรถ อันนี้เลือกกันได้ตามอัธยาศัยเลยครับ ใครไม่อยากเดินไกล ก็จอดที่อาคารจอดรถของเอสพานาดก็ได้ แต่ราคาค่าจอดรถถ้าไม่มีตราประทับ ก็นับว่าแพงเอาการ ที่เหลือก็ตามห้างสรรพสินค้าแถวๆเส้นรัชดาล่ะครับ แล้วเดินเอา ซึ่งตามข้างทางก็มีของวางขายให้เดินเล่นดูเพลินๆ
ร้าน เชฟตุ๋ย เรนเจอร์ ได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน 50 ร้านที่ควรกินก่อนตาย ส่วนที่ว่าใครเป็นผู้เลือกรายชื่อร้านอาหาร อันนี้ต้องขออภัยด้วยนะครับที่กระผมเองก็ไม่ทราบ แต่ร้านนี้ก็เคยมาลองทานกันแล้วหลายครั้ง มากันหลายช่วงเวลา ขอแนะนำให้มาช่วงที่ร้านเปิดแล้วสักพักครับ ประมาณ 1-2 ทุ่มจนยาวไปถึงดึกๆ จะกำลังดีเลย สำหรับเหตุผล ว่าทำไมถึงเลือกเวลาดังกล่าว ถ้าอยากทราบ คงต้องรบกวนถามกันหลังไมค์นะครับ พิกัดของร้านจะตั้งอยู่ด้านในสุดของล็อคแรกที่ทำการขายอาหารนะครับ เดินเข้าไปตรงๆยาวๆ วันที่เราไปก็ต้องฝ่าฟันกับฝูงชนพอสมควร ด้วยเป็นคืนวันเสาร์ ทำให้มีนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและทัวร์ของชาวจีน ค่อนข้างหนาตาครับ
กำลังย่างกันอย่างต่อเนื่อง |
มาถึงทางร้านก็เหมือนเคยครับ แจ้งจำนวนไว้ แล้วรอโต๊ะสักพักครับ ระหว่างรอ สามารถแจ้งรายการเมนูอาหารกับน้องพนักงานกันก่อนได้เลยครับ ระหว่างรอ กระผมและแฟนจึงถือโอกาสไปหาเครื่องดื่มเย็นๆ มาทานคู่กับซี่โครงหมู หลังจากกลับมารอโต๊ะอีกรอบ ใช้เวลาประมาณ 5 นาทีครับ ก็ได้ที่นั่งเป็นที่เรียบร้อย
ถุงมือ จาน มีด ส้อม พร้อมทาน |
หลังจากได้โต๊ะนั่งกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว รายการอาหารที่เราสั่งก็นำออกมาเสริฟ์ให้แบบทันใจครับ ด้วยความที่นานๆจะมาทานที่นี่กันสักที ก็ต้องสั่งแบบสะใจครับ ซี่โครงหมูย่าง 1 เมตร ซึ่งปกติแล้ว ลูกค้าส่วนมาก ถ้ามาทานกัน 3-4 คน ก็จะสั่งเมนูครึ่งเมตร แล้วแบ่งกันทานครับ แต่ด้วยความสองคนเห็นพ้องต้องกันครับ ว่าครึ่งเมตร ไม่น่าจะพอทาน ส่วนจะทานกันหมดไหม เดี๋ยวมาดูกันครับ
ซี่โครงหมูทุกขนาด จะเสริฟ์มาคู่กับ มันฝรั่งบด ผักดองและน้ำจิ้มครับ ซึ่งมันฝรั่งบดของที่นี่รสชาติดีทีเดียวครับ ทานคู่กับซี่โครงหมูแล้วจะฟินสุดๆ แล้วก็เริ่มลงมือทานกันครับ
ด้วยความจริงจังในการทาน เลเวลพูดจากันน้อยมาก ผ่านไปประมาณ 15 นาที ก็จะเหลือเพียงซากของซี่โครงหมู
สำหรับรสชาติซี่โครงหมูนะครับ นับเป็นเมนูที่ควรทานตอนย่างมาเสร็จใหม่ๆ เพราะเราจะได้สัมผัสถึงความชุ่มชื่นของเนื้อซี่โครงที่มีการทาน้ำหมัก ระหว่างการย่าง ความนุ่มของเนื้อที่หมักมาอย่างดี เพียงสะกิดเบาๆ เนื้อก็หลุดออกมาจากกระดูกซี่โครงอย่างง่ายดาย แต่ทานไปสักพัก อาจจะเลี่ยนได้ สามารถตัดเลี่ยนด้วย มันฝรั่งบด หรือผักดองที่ทางร้านเสริฟ์มาให้ครับ แต่สำหรับเราสองคน ตัดด้วยการจิบเครื่องดื่มเย็นๆ (แอลกอฮอล์เบาๆ จะเป็นเบียร์ หรือ ไซเดอร์ ก็เข้ากันสุดๆครับ)
รสชาติก็ยังคงความอร่อยแบบเดิมครับ ถึงซี่โครงหมูจะไม่ได้เสริฟ์มาแบบสะพานโค้ง แต่สำหรับความคุ้มค่าในราคา 690 บาท สำหรับขนาด 1 เมตร อันนี้ต้องยอมรับครับ ว่ายังหาร้านไหนมาทำให้เปลี่ยนใจจากที่นี่ยังไม่ได้ครับ เรามีสั่งกลับบ้านอีก 1 เมตรด้วย ซึ่งทางร้านจะห่อกระดาษฟรอย์แยกไปให้ห่อล่ะ ครึ่งเมตร ครับ สำหรับการซื้อกลับบ้าน แม้จะพยายามอุ่นด้วยหลากหลายวิธี แต่ความอร่อยก็ยังคงสู้มาทานตอนเสร็จใหม่ๆที่ร้านไม่ได้ครับ มีโอกาสอยากให้มาลองทานกันครับ
สำหรับรสชาติซี่โครงหมูนะครับ นับเป็นเมนูที่ควรทานตอนย่างมาเสร็จใหม่ๆ เพราะเราจะได้สัมผัสถึงความชุ่มชื่นของเนื้อซี่โครงที่มีการทาน้ำหมัก ระหว่างการย่าง ความนุ่มของเนื้อที่หมักมาอย่างดี เพียงสะกิดเบาๆ เนื้อก็หลุดออกมาจากกระดูกซี่โครงอย่างง่ายดาย แต่ทานไปสักพัก อาจจะเลี่ยนได้ สามารถตัดเลี่ยนด้วย มันฝรั่งบด หรือผักดองที่ทางร้านเสริฟ์มาให้ครับ แต่สำหรับเราสองคน ตัดด้วยการจิบเครื่องดื่มเย็นๆ (แอลกอฮอล์เบาๆ จะเป็นเบียร์ หรือ ไซเดอร์ ก็เข้ากันสุดๆครับ)
รสชาติก็ยังคงความอร่อยแบบเดิมครับ ถึงซี่โครงหมูจะไม่ได้เสริฟ์มาแบบสะพานโค้ง แต่สำหรับความคุ้มค่าในราคา 690 บาท สำหรับขนาด 1 เมตร อันนี้ต้องยอมรับครับ ว่ายังหาร้านไหนมาทำให้เปลี่ยนใจจากที่นี่ยังไม่ได้ครับ เรามีสั่งกลับบ้านอีก 1 เมตรด้วย ซึ่งทางร้านจะห่อกระดาษฟรอย์แยกไปให้ห่อล่ะ ครึ่งเมตร ครับ สำหรับการซื้อกลับบ้าน แม้จะพยายามอุ่นด้วยหลากหลายวิธี แต่ความอร่อยก็ยังคงสู้มาทานตอนเสร็จใหม่ๆที่ร้านไม่ได้ครับ มีโอกาสอยากให้มาลองทานกันครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น