วันอังคารที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

ร้าน S&P สาขาบิ๊กซีรัชดา

          "S&P ชื่อนี้มีแต่ของอร่อย" สโลแกนที่เราเคยได้ยินผ่านหูมาหลายครั้ง ปกติร้าน S&P เราจะมาใช้บริการเฉพาะซื้อเค้กหรือขนมกลับไปทานที่บ้าน สำหรับวันนี้ เรามาซื้อของใช้ที่ห้างบิ๊กซี สาขารัชดากันตามปกติ รู้สึกหิวข้าว จะลงไปทานที่ฟาสต์ฟู้ดก็ไม่ค่อยสะดวกเพราะแม่นั่งรถเข็นมาด้วย เหลือให้เลือกอยู่ 3 ร้าน คือ บาบีคิวพลาซ่า ซูกิชิ และ S&P 

           เมื่อเพิ่งทานชาบูกันมาวันก่อน เราจึงตัดสินใจไม่ยากที่จะเข้าไปใช้บริการในร้าน S&P แทน โดยแฟนก็ยังคงเชียร์เมนูสุดโปรด ข้าวผัดพริกกุ้งสด ว่าที่นี่อร่อยมากนะ ไม่ว่าใครก็ชอบกัน สั่งทานกันคนละจาน ใช้เวลาไม่นาน ไม่แพงมาก แล้วจะได้ไปซื้อของใช้ต่อได้เลย

            












                ช่วงนี้มีโปรโมชั่นอาหารแบบเซ็ทเมนูด้วย แต่เราอยากทานกันง่ายๆ คนละจาน เลยเลือกสั่ง ข้าวผัดพริกกุ้งสด เต้าหู้ทอดผัดไทย เกี๊ยวกุ้งน้ำ และขนมจีบกุ้ง สำหรับเครื่องดื่ม ที่นี่มีให้เลือกค่อนข้างเยอะ เพราะมีในส่วนของ Blue cup coffee by S&P ให้บริการด้วย แม่เลยสั่งชาร้อน แครนเบอรี่แอปเปิ้ลมาทาน ตามที่น้องพนักงานแนะนำ และน้ำเปล่า 1 ขวด น้ำแข็ง 2 แก้ว

                    ระหว่างรออาหาร เราจึงเดินออกไปที่ส่วนของเบเกอรี่ด้านหน้า สายตามองไปเห็นไส้กรอกหมูรมควัน ที่เคยทานประจำ จึงหยิบไป 1 กล่องให้ทางพนักงานนำมาใส่จานให้ทานที่โต๊ะอาหาร จากนั้นเวลาไม่นานอาหารก็เริ่มทะยอยนำมาเสริฟ์ที่โต๊ะ




















                             สรุปรสชาติอาหารนะครับ ข้าวผักพริกกุ้งสด รสชาติสำหรับแฟนบอกว่าอร่อยมาก แต่สำหรับส่วนตัวเราเอง รู้สึกว่าเฉยๆครับ ชอบไส้กรอกหมูรมควันมากกว่า ขนมจีบกุ้งที่นี่ก็รสชาติปกติครับ ไส้กุ้งมาแน่นตามเดิมเหมือนที่เคยทาน เต้าหู้ทอดผัดไทย รสชาติทำออกมาได้ดีครับ ตัวเต้าหู้กรอบนอกนุ่มใน และไม่มีกลิ่นเหม็น เต้าหู้ไม่เปรี้ยว กลมกล่อม อร่อยครับ เกี๊ยวกุ้งน้ำ รสชาติมาแบบอ่อนๆ จางๆ หรือจะเรียกว่าจืดก็ได้ครับ ตัวข้างในเกี๊ยวเป็นกุ้งสับผสมหมูครับ รสชาติทานได้ปกติ

                             เครื่องดื่มชาร้อน แครนเบอรี่แอปเปิ้ล กลิ่นหอมมากครับ แต่ควรจะทิ้งไว้สักพักใหญ่ๆ ให้น้ำสีเข้มขึ้นก่อนถึงค่อยทานนะครับ ไม่อย่างนั้นเราจะได้สัมผัสแค่ความหอม แต่ไม่ได้ความอร่อยอมเปรี้ยวของตัวน้ำชาครับ 

                              ความคุ้มค่าอาหารเมื่อมาทานที่ร้าน S&P รู้สึกว่า ธรรมดาครับ ราคาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับปริมาณอาหารที่ได้รับ แต่รสชาติอาหารค่อนข้างคงที่ครับ ทานกี่รอบ เคยได้สัมผัสรสชาติยังไง ก็ยังคงได้รับสัมผัสรสชาติดังเดิม จึงเป็นทางเลือกแทบจะหลังๆในการตัดสินใจเลือกร้านอาหารทานครับ



ร้าน Nobu Shabu & Grill

              หลังจากเดินวนหาร้านอาหารทานที่ห้างเซ็นทรัลเวิลด์ ในช่วงเทศกาลคริสต์มาส ที่มีการแสดงแสง สี เสียง อย่างอลังการ ทำให้มีผู้คนจำนวนมากมาชมและถ่ายรูป เมื่อถึงในช่วงเวลาทานอาหารเย็น ร้านอาหารแทบทุกร้าน จึงมีผู้คนเข้าไปใช้บริการจำนวนมาก และมีอีกหลายท่านที่กำลังรอต่อคิวทานแทบจะทุกร้าน

                มาถึงเซ็นทรัลเวิลด์ทั้งที เราจึงอยากทานร้านอาหารที่ไม่เคยทาน ที่ไม่มีให้บริการในห้างสรรพสินค้าหรือพลาซ่าแถวบ้าน ด้วยความที่เป็นมื้ออาหารเย็น เราจึงอยากหาอะไรทานที่ไม่หนักท้องมากและไม่ใช่บุฟเฟ่ต์ สุดท้ายก็มาเลือกลองทานที่ร้าน Nobu Shabu&Grill ที่สาขาแห่งนี้มีให้บริการเฉพาะ Shabu นะครับ ส่วนสาขาอื่นจะมีให้บริการในส่วนของ Grill ด้วย




                    ร้าน Nobu Shau ให้บริการในรูปแบบของ Set menu คือ เราสามารถเลือกสั่งเนื้อสัตว์ที่จะมาทำการต้มในหม้อชาบูของเรา 1 ชนิด และทางร้านจะมีเสิรฟ์เป็นเซ็ทลูกชิ้นเครื่องเคียง เมนูทานเล่น ข้าว 1 ถ้วย และขนมหวานให้ในเซ็ท สำหรับผักสด จะมีิมินิบาร์ ให้ทำการตักเติมได้ไม่อั้น เพราะฉะนั้นจึงไม่จำกัดเวลาในการทานอาหารครับ

                     













                     บนโต๊ะจะมีวางอุปกรณ์ในการทาน พร้อมเครื่องปรุงน้ำจิ้มให้เราพร้อมสรรพ มีขวดน้ำจิ้มพอนสึให้เราเทเติมได้เรื่อยๆ มีทัพพีและตะแกรง ด้วยความที่เราและแฟนไม่ทานเนื้อเหมือนกัน จึงไม่มีปัญหากับการที่ทางร้านให้บริการน้ำซุป 1 หม้อสำหรับหนึ่งโต๊ะอาหาร เราสามารถเลือกน้ำซุปได้เพียงครั้งเดียวนะครับ แต่สามารถเติมน้ำซุปได้เรื่อยๆ ถ้าต้องการเปลี่ยนเป็นน้ำซุปชนิดอื่น จะต้องเสียค่าบริการเพิ่ม ในวันนี้เราเลือกที่จะทานน้ำซุปมองโกล เป็นน้ำซุปที่มีส่วนผสมของสมุนไพรจีนหลายชนิด รสชาติอ่อนๆ หอมเครื่องเทศเบาๆ และไม่เผ็ดครับ








                       ที่ร้านอาหารมีระบุให้สั่งท่านละ 1 เซ็ทเมนู เราจึงเลือกที่จะสั่งสันคอหมูและเบคอน จากนั้นมาถึงเวลาเลือกเครื่องดื่ม เราเลือกชารีฟิล ตรงนี้สามารถเลือกสลับได้ระหว่าง ชาข้าว และชาเขียว แต่ไม่สามารถสลับจากร้อนเป็นเย็นได้นะครับ ใช้เวลาประมาณ 7-8 นาที หลังจากสั่งออเดอร์อาหารไป พนักงานก็จะนำหม้อชาบูมาวางให้ พร้อมจานสำหรับตักผัก ท่านละ 1 จาน ก็จะถึงเวลาสำหรับการเลือกตักผักและเส้นข้างเคียงครับ















               ไลน์ผักจะมีให้บริการผักหลากหลายชนิด เห็ดเข็มทอง เห็ดออรินจิ และเห็ดอีกชนิด อันนี้ไม่ทราบชื่อครับ ฟักทอง ต้นหอมญี่ปุ่น เผือก ฟองเต้าหู้ ผักบุ้ง ผักกาดขาว ฯลฯ สำหรับส่วนของเส้น จะมีให้บริการเส้นบุก เส้นอุด้ง เส้นโซเมน และวุ้นเส้นครับ ตรงนี้ถ้าถาดไหนหมด ไม่ต้องเป็นกังวลนะครับ เพราะพนักงานจะนำมาเติมให้เรื่อยๆ ไม่มีคำว่าของหมดของขาดครับ สำหรับเซ็ทแรก เราก็ตักมากันประมาณนี้ครับ

                   




               สักพักน้องพนักงานก็นำน้ำมาเสริฟ์ น้ำสามารถขอรีฟิลเติมได้ตลอดเวลาครับ ทางร้านจะมีบริการเป็นรถเข็นนำมาถามให้บริการถึงทางโต๊ะ ในช่วงที่ลูกค้าไม่หนาแน่นมาก แต่ถ้าช่วงที่ลูกค้าใช้บริการจำนวนมาก อันนี้ต้องขอเพิ่มรีฟิลกันเองครับ


ชาข้าว

ชาเขียว

รถบริการเติมน้ำรีฟิล


                      เมื่อหม้อชาบูร้อนได้ที่ ก็ถึงเวลาในการใส่ผักลงไป เราใส่ทุกอย่างที่ตักมา 2 จานลงไปในหม้อทีเดียวเลย เนื่องจากเนื้อหมูยังไม่ได้มาเสริฟ์ ด้วยความหิวแล้ว จึงทานผักกันก่อนก็ได้ 


น้ำซุปมองโกล

ใส่บรรดาผักลงไปให้สะใจ

                  ผ่านไปสักพัก เมนูเนื้อสัตว์ของเราก็มาถึงพร้อมๆกับเมนูของทานเครื่องเคียง เซ็ทลูกชิ้น และข้าวเปล่าครับ เนื้อสัตว์ในเซ็ทก็ได้คนละ 1 จานนะครับ ถ้าต้องการเพิ่มสามารถสั่งเพิ่มแยกได้ ราคาตามเมนูเลยครับ


สันคอหมู

เบคอน

ข้าวสวย

เซ็ทลูกชิ้น

เมนูทานเล่น





                      หลังจากจุ่มลวกเบคอน สันคอหมู บรรดาเส้นต่างๆ และผักจำนวนมาก เราก็เริ่มรู้สึกอิ่มกัน เมื่อบอกพนักงานให้ทำการคิดเงินค่าอาหาร ทางร้านก็จะนำขนมหวานนำออกมาเสริฟ์ให้เราได้ทานกัน ขนมหวานหน้าตาคล้ายน้ำแข็งกับผลไม้ลอยแก้ว แต่จริงๆแล้วส่วนสีขาวจะเป็นเนื้อแป้งคล้ายๆระหว่างแป้งโมจิกับแป้งไดฟุกุ ส่วนสีส้มจะเป็นแอปริคอท








                
                          สรุปรสชาติอาหารโดยรวม ตามความเห็นส่วนตัวนะครับ รสชาติและสัมผัสของเนื้อหมูสันคอและเบคอน เป็นเนื้อหมูอย่างดี หั่นมาได้บางเหมาะสมกับการทานชาบู จุ่มลงน้ำเพียงไม่กี่วินาทีก็พร้อมทานคู่กับน้ำจิ้มพอนสึ อร่อยครับ น้ำซุปมองโกล รสชาติอ่อนๆ ทานแล้วรู้สึกว่าสบายท้องดีครับ ไม่เค็มเมื่อเราทานไปนานๆ อาจจะเพราะมีปริมาณของเนื้อสัตว์ลงไปน้อยมาก เมื่อเทียบกับปริมาณผักที่ใส่ลงไป

                           ข้าวเปล่า ก็เป็นข้าวญี่ปุ่นเหนียวนุ่มกำลังดี สำหรับเมนูเครื่องเคียงอันนี้ ไม่ค่อยประทับใจครับ เบคอนพันเห็ดเข็มทอง ก็รสชาติปกติเฉยๆ ผักสดราดน้ำมันงา สำหรับน้ำราด ออกแนวแอบเค็มไปมากอยู่ครับ และสำหรับอย่างสุดท้าย รสชาติคลุมเครือครับ จะบอกว่าอร่อย ก็ไม่เต็มปาก จะบอกว่าทานไม่ได้ มันก็ปะแล่มๆ ด้านข้างนอกเหมือนคล้ายแป้งขนม ห่อด้วยไส้ข้างใน แต่สำหรับส่วนตัวกระผมต้องขอบอกว่า ดีแล้วที่ได้มาแค่ 2 ชิ้น ถ้ามากกว่านี้ก็ทานไม่ไหวเหมือนกันครับ

                           ในส่วนของผัก ผักสดทุกรายการครับ และสำหรับเมนูเส้น ที่ชอบมากที่สุดคงจะเป็นเส้นบุก กรุบๆทานแล้วอร่อย สำหรับเส้นอื่นๆ อุด้งออกแนวแป้งหนามาก ลวกยังไงก็ไม่นุ่มเหมือนในร้านพี่บาบีกอน วุ้นเส้นก็อร่อยปกติครับ สำหรับขนมหวานอันนี้เพิ่งเคยทานเป็นครั้งแรกครับกับเมนูนี้ น้ำคล้ายน้ำบ๊วย ทานคู่กับแป้งและแอปริคอท ก็อร่อยแปลกๆดีครับ แต่สงสัยจะไม่ใช่ทางของผม

                           ความคุ้มค่าสำหรับร้านนี้ ถ้าเป็นสายทานเรื่อยๆ เน้นผัก เนื้อสัตว์นิดหน่อย นั่งพูดคุยกันไปสบายๆ ไม่จำกัดเวลา ก็นับว่าคุ้มค่าทีเดียวที่จะมาทานกันครับ แต่สำหรับส่วนตัวเราและแฟน รู้สึกว่าราคาร้านนี้แอบแรงไปสักหน่อย และในราคาประมาณนี้หรือเพิ่มอีกเพียงนิดหน่อย สามารถทานเนื้อหมูคุณภาพระดับนี้ได้ในปริมาณแบบไม่จำกัดเลยครับ




วันอาทิตย์ที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

ร้าน เพราะดี

                 ร้านอาหารบุฟเฟ่ต์ซีฟู้ดและห้องอาหารบุฟเฟ่ต์นานาชาติตามโรงแรม ม่ีอยู่มากมายหลายที่ และหลายช่วงราคาตั้งแต่ 399 บาท จนไปถึง 1500 บาท แต่คงไม่มีที่ไหนเหมือนร้านนี้ "ร้านเพราะดี" เนื่องด้วยร้านนี้มีจานเด่นที่เป็นที่กล่าวขานกันว่า เป็นร้านบุฟเฟ่ต์ร้านแรกในกรุงเทพฯ ที่มีปูม้านึ่งให้บริการทานไม่อั้น โดยที่ทำการแกะเนื้อปูให้เรียบร้อย เรียกว่า เราแค่หยิบใส่ปากอย่างเดียว จุดเด่นตรงนี้ทำให้เราต้องเดินทางมาทานกัน

                   ร้านเพราะดี ตั้งอยู่ในโครงการ The Regent Street ตัวโครงการหาไม่ยากนะครับ สามารถหาเส้นทางโดยใช้ app google map ได้อย่างสบาย ไม่ต้องกลัวหลงทางครับ แต่พอเข้ามาในตัวโครงการแล้ว อาจจะมองหาป้ายร้านลำบากสักนิดนะครับ เพราะป้ายร้านจะมีเพียงด้านหน้าร้าน และป้ายขนาดไม่ใหญ่มาก เราเองไปในครั้งนี้ ขับเลย และวนไปมาถึง 2 รอบครับ









                         สำหรับการใช้บริการทานอาหารที่ร้าน จะมีขั้นตอนในการจองก่อนนะครับ โดยเราต้องโทรไปแจ้งจำนวนคนที่จะเข้ามาทานอาหาร แจ้งวันที่และเวลา ทางร้านจะทำการส่งเงื่อนไขพร้อมแผนที่ให้เราทราบทางไลน์หรือทางเฟซบุ๊ค และให้เราโอนเงินมัดจำ ท่านละ 500 บาท โดยทางร้านจะมีให้บริการที่ชั้นล่าง และชั้นสองนะครับ ตรงนี้เราสามารถระบุบอกได้ว่า ต้องการที่นั่งโซนไหน ต้องการแบบเป็นโซฟา หรือว่า เป็นเก้าอี้ธรรมดา สำหรับด้านบน จะให้บริการในห้องนะครับ













                     เนื่องด้วยทริปนี้ของเรามีผู้สูงอายุด้วย 1 ท่าน จึงได้ในราคา 666+ บาท อันนี้อย่าลืมนำบัตรประชาชนติดตัวไปสำหรับยืนยันการใช้สิทธ์ผู้สูงอายุนะครับ เมื่อก้าวเข้าไปภายในร้าน จะสัมผัสได้ถึงความรู้สึกสบายตา ภายในร้านตกแต่งดูดีมีสไตล์ เปิดเพลงคลอเบาๆ













                        เราตัดสินใจที่จะมาทานร้านอาหารนี้กันในช่วง 11 โมงกว่า ทำให้เราโทรไปจองทันที และได้ในรอบเวลา 16.00 น. เนื่องด้วยโทรมาจองช้า ทำให้เราได้ใช้บริการด้านบนชั้น 2 เพราะด้านล่างเต็มแล้ว ก่อนที่จะเดินขึ้นไปด้านบน เราจึงพาแม่(ผู้สูงอายุของทริป) เดินดูไลน์ตักอาหารด้านล่างก่อน เคาน์เตอร์หลักด้านหน้า จะเป็นโซนประกอบอาหาร และมีไลน์หอยนางรมสด กุ้งมะนาว ด้านข้างซ้ายมือจะเป็นน้ำพริกไข่ปู พร้อมผักสด ด้านขวามือจะเป็นขนมหวาน มีให้บริการเป็นวุ้นกะทิ ลอดช่อง และแคนตาลูป ด้านหน้าทางซ้ายมือ จะเป็นขนมจีนน้ำยาปู














                        จากนั้นจะเป็นเวลาการเดินขึ้นบันได ชั้นสองของที่นี่ ต้องเดินขึ้นบันได้ค่อนข้างสูงและชันนะครับ แบ่งเป็นการเดินทั้งหมด 3 ช่วง มีราวบันไดให้จับ ด้านบนมีห้องน้ำให้บริการพร้อม แต่มีเพียง 1 ห้องและใช้รวมกัน หญิง-ชาย ด้านล่างจะมีห้องน้ำ 2 ห้อง แยกเป็น หญิง-ชาย




               
                    ผ่านการเดินขึ้นบันได เราก็จะพบกับ ห้องอาหารที่ทำการแบ่งเป็นสัดส่วน วันนี้เราได้ทานในห้องที่เป็นโต๊ะยาว มีการจัดวางไว้สำหรับ 4 ท่าน 2 ชุด คาดว่า น่าจะมีลูกค้าอีก 4 ท่านเข้ามาใช้บริการในห้องนี้ร่วมกันกับเรา ทางด้านข้างๆจะมีให้บริการแบบโต๊ะกลมด้วยนะครับ สำหรับลูกค้า 5 ท่าน








เครื่องดื่มมีให้เลือกมากมาย


                    เมื่อนั่งที่โต๊ะเรียบร้อย พนักงานจะทำการนำเมนู มาให้เราเลือกสั่งอาหาร พร้อมกับแจ้งเงื่อนไขในการทานอาหารนะครับ ในเมนูจะมีรายการอาหารพร้อมราคา ถ้าเราทานจานไหนไม่หมด ทางร้านจะทำการห่ออาหารให้พร้อมกับเก็บเงินเราเพิ่มตามราคาที่แจ้งอยู่ในเมนูนะครับ และสำหรับเครื่องดื่ม ที่นี่มีบริการให้ทั้งน้ำชาลิปตัน เป๊บซี่ เซเว่นอัพ เป๊บซี่แม็กและน้ำเปล่า สามารถสลับเปลี่ยนน้ำเติมได้ แต่ไม่สามารถเปลี่ยนแก้วได้นะครับ
























                     ตามความตั้งใจในการมาทานอาหารที่ร้านนี้ นั่นคือการสั่งเมนูปูม้านึ่ง ขนาด 2XL อันนี้ตอนเราสั่ง ทางน้องพนักงานก็น่ารัก เตือนพวกเราว่า จานค่อนข้างใหญ่เป็นปูขนาด 10 กิโลกรัม แกะเนื้อออกมาแล้วก็จะยังคงเหลือประมาณ 7 กิโลกรัม และใช้เวลาประมาณ 20-30 นาที ในการทำอาหาร น้องบอกว่า ไม่แนะนำนะครับ แนะนำให้สั่งแบบจาน XL หรือ L ก่อน แล้วค่อยๆทะยอยสั่งเพิ่ม น่าจะดีกว่า เพราะถ้าทานไม่หมด จะโดนปรับในราคา 4,444 บาท และห่อส่วนที่เหลือให้กลับบ้าน ในตอนแรกพวกเราก็ตัดสินใจกันเลยว่า เอาขนาดนี้ล่ะ ไม่น่าจะมีปัญหา

               หลังจากนั้นก็เริ่มดูเมนูอาหารรายการอื่น แล้วก็รู้สึกว่า เมนูอื่นก็น่าทาน เลยอยากจะเปลี่ยนขนาด ระหว่างที่เราทำการขอเปลี่ยนขนาดปู เราก็เริ่มสั่งรายการอาหารอย่างอื่นไปประมาณ 5-6 รายการ แล้วก็ต้องทราบข่าวว่า ไม่สามารถเปลี่ยนขนาดปูได้ เนื่องจากทำการป้อนรายการอาหารลงในคอมเรียบร้อยแล้ว เราจึงหยุดทำการสั่งอาหาร เพื่อความปลอดภัย ที่จะไม่ต้องชำระเงินค่าปรับ จึงตัดสินใจ ทานปูให้หมดก่อน ถึึงจะสั่งอาหารอย่างอื่นมาทานเพิ่ม

                ระหว่างรอเมนูปู รายการอาหารอย่างอื่นที่สั่งก็ทะยอยนำออกมาเสริฟ์ ทำให้เรารู้ว่า อาหารเมนูอื่น ออกเสิรฟ์หลังรับออเดอร์เพียงเวลาไม่ถึง 5 นาทีก็ได้นะครับ เมื่อทานอาหารหมด เราจึงลงไปด้านล่างตักหอยนางรมสด น้ำยาปู และน้ำพริกไข่ปูมาทานรอ


ปลากระพงทอดน้ำปลา


กุ้งซอสมะขาม

น้ำจิ้มซีฟู้ด

ปลาหมึกนึ่งมะนาว

เนื้อปูผัดผงกะหรี่

หอยเชลส์อบเนย

หอยนางรมสด

ขนาดตัวหอยนางรม ค่อนข้างใหญ่ครับ

ปลากระพงนึ่งซีอิ๊ว

หอยแมงภู่อบ
ขนมจีนน้ำยาปู

                นับเวลาจากสั่งออเดอร์เมนูปู ใช้เวลาประมาณ 15 นาที เนื้อปูม้านึ่งขนาด 2XL ก็ทำการเสริฟ์วางบนโต๊ะ ทันทีที่เห็นขนาดของจานและปริมาณปูในจาน เราก็โล่งใจ ที่ขนาดไม่มากสักเท่าไร จึงเริ่มทำการสั่งอาหารเมนูจานอื่นเพิ่มกันอย่างสบายใจ ข้าวผัดปู/กุ้งอบ/ปูผัดผงกะหรี่ เพิ่มอีกอย่างละ 2 จาน
เอาเนื้อปูม้านึ่งไปใส่เพิ่มในเมนูอาหารอื่น เพื่อเพิ่มปริมาณปูให้สะใจครับ ตามด้วยหอยหวานอบ


ปูม้านึ่งขนาด 2XL


ข้าวผัดปู

เนื้อปูผัดผงกะหรี่

หอยนางรมสด


ปูผัดผงกะหรี่ เพิ่มเนื้อปูลงไป

กุ้งอบ

กุ้งอบจานที่ 2

ข้าวผัดปูจานที่ 2

ปูผัดผงกะหรี่จานที่ 3

หอยหวาน


                     ผ่านไปสักครู่ ปูม้านึ่งขนาด 2XL ก็หมดลงไปไวเกินคาด เราจึงทำการสั่งปูม้านึ่งขนาด L มาทานเพิ่มพร้อมด้วยรายการอาหารอื่นๆที่อยากลองทาน สลับกับลงไปตักขนมหวานขึ้นมาทานตัดรสชาติเลี่ยนจากปูม้านึ่ง หลังจากนั้นก็สั่งปูม้านึ่งขนาด S มาอีกจาน ดูปริมาณในจานแล้ว ขนาด S น่าจะเป็นปูม้าประมาณ 3 ตัวครับ และตามด้วยอาหารอย่างอื่น

ปูม้านึ่งขนาด 2XL หมดจานเรียบร้อย

ปลาหมึกผัดไข่เค็ม

ส้มตำปูนิ่ม

หอยแมลงภู่อบ

ปูผัดพริกเกลือ

ยำกุ้งฟู

ปูม้านึ่งขนาด L


ปลาหมึกทอดน้ำปลา

หอยเชลส์อบ

วุ้นกะทิ

ต้มยำรวมมิตรน้ำข้น

ลอดช่อง

กุ้งอบและปลาหมึกย่าง

ปูม้านึ่งขนาด S

ข้าวเหนียวมะม่วง



ปลาหมึกนึ่งมะนาว

ผัดคะน้าหอยเป๋าฮื้อ

อาหารหมดทุกรายการ เกลี้ยงครับ

ปิดท้ายด้วยข้าวเหนียวมะม่วงอีกรอบ


                      ขอสรุปโดยรวมด้วยความเห็นส่วนตัวนะครับ ขอเริ่มจากการบริการก่อนเลย น้องพนักงานที่นี่น่ารักมาก บริการดีเยี่ยมยิ่งกว่าตามห้องอาหารโรงแรม มีความกระตือรือร้นเป็นอย่างที่สุด บริการเสิรฟ์น้ำให้ตลอด รวมถึงเก็บจานเปล่า แนะนำเมนูรายการอาหาร บริการเปลี่ยนจานใหม่ให้หลายรอบ

                      สำหรับอาหารจานหลักเนื้อปูม้านึ่งที่นี่ รสชาติปูสด หวาน อร่อย ทานคู่กับน้ำจิ้มซีฟู้ดเข้ากันเป็นอย่างดีครับ ปริมาณเนื้อปูเป็นไปตามขนาดจาน ซึ่งควรกะขนาดให้พอดีกับความสามารถในการทานอาหารด้วยนะครับ เพราะไม่อย่างนั้นท่านอาจจะได้จ่ายค่าปรับแล้วนำเนื้อปูส่วนที่เหลือห่อกลับบ้าน ถึงแม้ว่าจะเหลือเนื้อปูเพียงนิดหน่อย ทางร้านก็เก็บค่าปรับตามขนาดของจานนะครับ

                      กุ้งซอสมะขาม อาหารแนะนำอีกเมนูของที่นี่ รสชาติอร่อย กุ้งแกะเปลือกออกให้แล้ว ทานง่าย ปลากระพงทอดน้ำปลา เนื้อปลาทอดมากรอบนอก นุ่มใน ทานคู่กับน้ำปลาที่ราดมารสชาติอร่อยลงตัว ปลาหมึกนึ่งมะนาว รสชาติจัดจ้านถึงเผ็ดปานกลาง เนื้อปลาหมึกสด อร่อย กุ้งอบรสชาติอร่อยครับ กุ้งสดอบมากำลังดี เนื้อไม่แห้ง

                      ปลากระพงนึ่งซีอิ๊ว เมนูนี้ ต้องขอบอกว่า ปลายังเป็นปลาครับ มีความคาวของเนื้อปลาอยู่ครบ และผัดเปาฮื้อคะน้าน้ำมันหอย เนื้อเปาฮื้อ อร่อยปกติครับ ส่วนคะน้า แอบแข็งและเหม็นเขียวค่อนข้างมาก

                      ปูผัดพริกเกลือ รสชาติเผ็ดปานกลาง คนชอบทานเผ็ดบอกว่าอร่อยครับ และยำกุ้งฟู เมนูนี้อร่อยมากครับ ถ้าไม่ราดน้ำยำที่ใส่ในถ้วยแล้ว รสชาติเหมือนทานทอดมันกุ้งเลยครับ เรียกว่าสั่งจานเดียวได้ทาน 2 เมนู

                       หอยนางรม อันนี้สดมากเป็นบางตัวนะครับ บางตัวก็ออกแนวไม่ค่อยโอเคสักเท่าไร อันนี้ตอนหยิบมาจากไลน์ ควรส่องดูกันก่อนนะครับ หอยเชลส์ ตัวไม่ใหญ่มาก รสชาติปกติ หอยหวาน มาตัวปานกลาง ความสดอร่อย หวาน โอเคอยู่ครับ ขนมจีนน้ำยาปู รสชาติอร่อย เข้มข้นด้วยเนื้อปู รสชาติกลมกล่อม น้ำพริกไข่ปู รสชาติเผ็ดจัดจ้าน ทานคู่กับผักสด อร่อยเข้ากันอย่างลงตัว

                        สำหรับขนมหวาน ตามที่แนะนำกันครับ ข้าวเหนียวมะม่วงที่นี่ค่อนข้างรสชาติโอเค ตัวข้าวเหนียวใบเตย ไม่นุ่มมาก แต่ก็รสชาติทานได้ มะม่วงสุกมาแบบกำลังอร่อย ไม่หวาน เละ จนเกินไป ทานคู่กับข้าวเหนียวแล้วเพลินสุดๆ วุ้นกะทิ รสชาติปกติ ออกแนวแอบเค็มเล็กน้อย สำหรับลอดช่อง อันนี้รสชาติดีนะครับ เส้นลอดช่องเส้นเล็กหนึบกำลังอร่อยทานคู่กับน้ำกะทิ

                       สำหรับความคุ้มค่าของการมาทานที่ร้านนี้ ในราคาปกติต่อท่านประมาณ 976 บาท กับการทานอาหารซีฟู้ด ถ้าเทียบกับการไปทานที่ร้านอาหารครัวบางตะบูน ที่เราชื่นชอบในเมนูปูม้านึ่งที่บริการแกะมาให้พร้อมทาน ที่ร้านเพราะดี คุ้มกว่าถ้าเราทานในปริมาณมากขนาดนี้ครับ รสชาติที่นี่อร่อยหลายเมนู มีรายการอาหารให้เลือกค่อนข้างมาก อาหารเสริฟ์รวดเร็ว ไม่ต้องรอนานจนเสียเวลาในการทาน 2 ชั่วโมงไปกับการรออาหาร เมื่อถึงเวลา ชั่วโมงครึ่ง น้องพนักงานจะมาทำการรับออเดอร์ครั้งสุดท้าย ซึ่งเราจะสามารถทานได้ต่ออีกครึ่ง ชั่วโมง จนครบเวลา ถ้าเป็นผู้ชื่นชอบในการทานปูม้านึ่งและอาหารซีฟู้ด ขอแนะนำให้มาลองทานที่ร้านนี้ครับ



บทความที่ได้รับความนิยม