ร้านอาหารญี่ปุ่น Shakariki สไตล์โอซาก้า สาขาที่เราไปทานกันในวันนี้คือ สาขาชั้นใต้ดิน ที่เอสพานาด รัชดาภิเษก ถึงเราจะเดินผ่านร้านนี้มาหลายครั้ง แต่ก็ไม่เคยเข้าไปลองทานเลยสักครั้ง ด้วยบรรยากาศหน้าร้าน และภายในร้านออกแนวมืดๆสักหน่อย ดูแล้วไม่อยากลองเข้าไปเสี่ยง แต่ด้วยมิสเตอร์ทีบอกว่า เคยไปทานร้านนี้ที่สาขาทองหล่อมาแล้ว อร่อยดี พวกเราจึงตัดสินใจเข้าไปลองทานกันครับ
เราไปถึงร้านในเวลาประมาณบ่ายโมงนิดหน่อย ภายในร้านพวกเราเป็นลูกค้าโต๊ะแรก อากาศภายในร้านไม่ค่อยเย็นครับ เมื่อเทียบกับอากาศด้านนอก เรียกว่าถ้าเป็นคนชอบอากาศเย็นๆ เข้ามาทานอาจจะมีหงุดหงิด หรือไม่อร่อยได้ครับ เมื่อเลือกโต๊ะนั่งเป็นที่เรียบร้อย น้องพนักงานก็นำเมนูมาวางให้เราทำการเลือกสั่งอาหารกันครับ โดยทางร้านจะมีเมนูแบบปกติ และเมนู Lunch set ซึ่งก็จะเป็นรายการอาหารที่ราคาปกติ แต่จะมีแถมน้ำซุปมิโสะ กับแตงกวาดองมาให้ครับ
|
ชาร้อน |
|
ชาร้อน และกาน้ำชา |
|
ชาเย็น |
สำหรับเครื่องดื่มพวกเราเลือกเป็นชาเขียวร้อนและเย็นครับ มิสเตอร์ทีบอกว่า ที่สาขาทองหล่อ ชาที่เสริฟ์จะเป็นชา Pokka ครับ แต่สำหรับที่นี่ ไม่แน่ใจว่าเป็นชาอะไร แต่รสชาติคล้ายชาข้าวแต่แอบมีสัมผัสเหมือนกาแฟเล็กน้อย
ระหว่างรออาหารมาเสริฟ์ เราก็มองป้ายที่ติดตามกำแพงร้าน ซึ่งมีจำนวนค่อนข้างมากเลยครับ เท่าที่สังเกต ส่วนใหญ่จะเป็นเมนูอาหาร กับรายการราคาของที่ระลึกจากทางร้าน จะมีสะดุดตาตรงป้ายบุฟเฟ่ต์ครับ ทางร้านมีจำหน่ายบุฟเฟ่ต์ เดือนละครั้ง โดยแต่ละเดือนจะมีการแจ้งล่วงหน้าว่าเป็นวันไหน แปลว่าวันที่มีบุฟเฟ่ต์ไม่ใช่วันเดิมของทุกเดือนนะครับ
|
รายการบุฟเฟต์ |
สำหรับเดือนนี้จะมีบุฟเฟ่ต์ในวันที่ 27 สิงหาคม 2562 ครับ โดยมีแค่ 2 รอบ ในเวลารอบละ 90 นาที เริ่มเวลา 18.00 น. และรอบสองในเวลา 19.45 น. ราคาก็มีแจ้งไว้พร้อมครับ สำหรับรายการอาหารที่สั่งได้ เท่าที่ดูมีจำนวนรายการอาหารไม่ค่อยมากครับ ปลาดิบมีแค่ แซลมอนอย่างเดียวครับ
บนโต๊ะก็จะมีจาน ตะเกียบ ผ้าเช็ดมือ วางไว้บริการ พร้อมเครื่องปรุงต่างๆ โดยโชยุ ทางร้านจะเทใส่ถ้วย นำมาเสริฟ์ให้ที่โต๊ะ ตามจำนวนลูกค้าครับ ที่สะดุดตาก็จะเป็นกล่องทิชชู่หน้าโมอาย ดูน่ารักมาก หยิบทิชชู่ออกมาจากทางรูจมูก
|
อุปกรณ์นการทานอาหาร |
|
กล่องทิชชู่หน้าโมอาย |
|
โชยุ |
หลังจากรอประมาณ 10กว่านาที อาหารก็เริ่มทะยอยออกมาเสริฟ์ครับ ระหว่างที่ทำการเสริฟ์อาหารโต๊ะเรา ก็มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการอีกโต๊ะพอดีครับ
|
ครีบปลากระเบนย่าง |
|
ซูชิหน้าต่างๆ |
|
ซูชิอิกะ(ปลาหมึก)กับแซลมอนอาบูริ |
|
ซูชิโทโร่ |
|
ซูชิแซลมอนอาบูริ |
|
ข้าวหน้าไก่ใส่ไข่ |
|
แซลมอนซูชิเซ็ท |
|
แตงกวาดอง |
|
ข้าวห่อสาหร่ายแซลมอน |
|
ซุปมิโสะ |
|
ปลาหมึกย่าง |
|
น้ำจิ้มซีฟู้ด |
|
ข้าวหน้าปลาดิบรวม Kaisen Chirashi |
|
ซูชิซาบะ |
|
ยากิโตริเซ็ท 5 ไม้ |
|
ปลาซาบะย่างซีอิ๊ว |
|
ซูชิหน้าปลาหมึก |
สำหรับรสชาติอาหารตามความเห็นส่วนตัวของครอบครัวเรานะครับ เริ่มจากครีบปลากะเบนย่าง รสชาติกรุบๆอร่อยดีครับ ละม้ายคล้ายกับปลาริวกิวย่างเลย ทานแล้วเพลิน สมกับเป็นของทางเล่นอย่างมาก ทานคู่กับแอลกอฮอล์จะยิ่งเพิ่มความอร่อย
ซูชิหน้าต่างๆ ทางร้านทำออกมาไม่ได้เป็นคำใหญ่มาก ปริมาณข้าวไม่ค่อยอัดแน่นเท่าไร ส่วนรสชาติข้าว มิสเตอร์ทีบอกว่าอร่อยดี เหนียว หนึบ แต่สำหรับแฟน บอกว่าไม่ค่อยอร่อยสักเท่าไร พอทานได้ ความสดของปลาก็อยู่ในระดับปกติดีครับ ไม่ได้มีอะไรที่ทำให้รู้สึกว่าไม่สด
มีเพียงปลาหมึกที่มิสเตอร์ทีรู้สึกประทับใจมาก จนต้องทำการสั่งเพิ่มอีก 6 คำ ในตอนหลัง ส่วนแฟนสั่งจานหลักเป็นแซลมอนซูชิเซ็ท รสชาติปกติดีครับ เนื้อปลาก็ให้มาชิ้นใหญ่พอสมควร ที่ถูกใจแฟนเป็นอย่างมาก คือวาซาบิครับ ที่นี่ใช้วาซาบิอย่างดี เข้มข้น ทานแล้วมีน้ำตาซึมแบบสะใจเลยครับ
สำหรับท่านแม่ผู้ไม่ทานของดิบ ของสด จานหลักเป็นข้าวหน้าไก่ใส่ไข่ ปริมาณข้าวที่ให้มาค่อนข้างมากพอสมควร เมื่อเทียบกับปริมาณไก่ในชาม ต้องบอกว่า อาจจะน้อยไปสักหน่อย ส่วนรสชาติ น้ำราดค่อนข้างเค็มโดดเลยครับ ทานแล้วไม่ค่อยประทับใจ แตงกวาดองก็เค็มมากครับ โชคดีที่ซุปมิโสะมาแบบจืดหน่อย ไม่เค็มไปกับเค้าด้วยครับ
ต่อด้วยจานหลักของเรานั่นก็คือ ข้าวหน้าปลาดิบรวม อันนี้เรียกว่ามาแบบข้าวกำลังดีกับปริมาณปลาดิบในเบนโตะ (กล่องข้าว) รสชาติอร่อยดีครับ เนื้อปลาสด หั่นมาชิ้นไม่ได้เล็กจนเป็นเศษเนื้อปลา ถ้าเป็นคนปกติทั่วไป ทาน 1 กล่องน่าจะอิ่มพอดีครับ
ยากิโตริย่าง 5 ไม้ เป็นเมนูที่น้องพนักงานแจ้งว่า ส่วนของเนื้อไก่ที่ได้ ทางเชฟจะทำการสุ่มเลือกมาให้เอง เราไม่สามารถระบุได้ว่า ต้องการส่วนไหนของไก่ ในวันนี้เราได้เนื้อไก่ช่วงที่ค่อนข้างชืดไปหน่อย น่าจะเป็นแถวๆอก ไม่ค่อยมันเลยครับ, เป็นกึ๋นไก่ 1 ไม้ ตรงนี้ย่างออกมาพอทานได้ครับ ไม่เหนียวจนเคี้ยวปวดกราม, เป็นหัวใจไก่ 1 ไม้ ย่างออกมาได้แห้งมาก กัดไม่เข้าครับ นึกว่ากำลังทานปลาหมึกแห้งย่างอยู่ เพราะเหนียวจริงๆ, ปีกกลาง 1 ไม้ ย่างออกมาหนังด้านนอกกรอบๆนิดหน่อย แต่เนื้อด้านในก็แห้งอีกเช่นเดิม สุดท้ายคล้ายๆกับลูกชิ้นไก่ แต่คือเนื้อไก่สับใส่ต้นหอม ขิงและกระเทียม แล้วปั้นเป็นก้อน รสชาติแปลกๆดีครับ ทานได้
ปลาหมึกย่าง ย่างออกมาได้แห้งอีกเช่นเดิมครับ สำหรับคนที่ชอบแบบแห้งๆ น่าจะถูกใจครับ มีน้ำจิ้มซีฟู้ดรสชาติเข้มข้น มาให้ทานด้วยครับ หนวดหมึกกรุบกรอบเลยครับ เพราะย่างมาแบบแห้ง ส่วนปลาซาบะย่างซีอิ๊ว ก็ยังคงคอนเซปแห้งเช่นเดิม สำหรับส่วนตัวผมเป็นคนชอบทานของย่างแบบฉ่ำๆ เนื้อนุ่มๆ ทำให้ไม่ค่อยถูกใจสักเท่าไรครับ
สรุปนะครับ ความคุ้มค่าถ้าเทียบปริมาณอาหารกับคุณภาพอาหารที่ได้รับ โดยส่วนตัวรู้สึกว่าค่อนข้างแพงไปสักหน่อย น้ำชาและซุปมิโสะไม่ร้อนเลยครับ มาแบบอุ่นน้อยๆ หรือจะเรียกว่าอุณหภูมิปกติก็ว่าได้ครับ แอร์ภายในร้านไม่ค่อยเย็นครับ ที่ถูกใจมีแต่มิสเตอร์ทีคนเดียว ทางร้านมีให้สะสมแต้ม ทานครบทุก 1,000 บาท จะได้ 1 แต้ม โดย 10 แต้มใช้เป็นส่วนลดได้ 100 บาท หรือสะสมต่อ จนครบ 50 แต้ม จะได้บัตรส่วนลดของทางร้านครับ สำหรับผม แฟน และท่านแม่ ครั้งนี้ครั้งเดียวครับสำหรับร้านนี้ เพราะไม่ใช่ทางของเรา ราคาแบบทานไม่ค่อยอิ่ม หารเฉลี่ยต่อคนแล้วอยู่ที่ 639.25 บาท ไปทานบุฟเฟ่ต์ร้านอื่นคุ้มกว่ามากครับ
|
บิลค่าเสียหาย |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น