วันจันทร์ที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2561

ร้าน เพราะดี

              หลังจากเดือนพฤศจิกายน ปีที่แล้ว ที่มาทานร้านเพราะดี เราก็ห่างหายไปสักพักใหญ่ๆ เนื่องด้วยข้อกำหนดของทางร้านที่ต้องจองล่วงหน้า ซึ่งไม่ใช่ทางของครอบครัวเรา ที่นึกอยากจะทานร้านอาหารอะไร ก็จะมุ่งตรงไปทันที และด้วยเวลาที่ต้องแน่นอน ทำให้ค่อนข้างลำบากในการไปทาน

                แต่มาในวันนี้ ด้วยท่านแม่ดูรายการทีวีในเช้าวันอาทิตย์ โฆษณาร้านอาหารบุฟเฟ่ต์แนวซีฟู้ด ทำให้นึกถึงร้าน เพราะดี เราจึงทำการโทรจองร้านกันในวันอาทิตย์ เพื่อที่จะทานในรอบ 16.00 น. ขั้นตอนการจองก็ยังคงเป็นแบบเดิมนะครับ ทางร้านจะทำการแจ้งรายละเอียดมาให้ และเลขบัญชีให้ลูกค้าโอนเงินมัดจำไปก่อน โดยมัดจำท่านละ 500 บาท







             ด้วยความไม่รอบคอบ และไม่ได้ตรวจอ่านรายละเอียดที่ทางร้านส่งมาให้ เราจึงไม่ทราบว่า ทางร้านมีการปรับราคาจาก 888+ มาเป็นราคา 1,088+  และตอนนี้ผู้สูงอายุเกิน 60 ปี ก็เป็นราคาปกติที่ 1,088+  เพราะเรามัวแต่กังวลที่จะระบุที่นั่งด้านล่าง และขอเป็นเก้าอี้โซฟา ด้วยท่านแม่จะได้นั่งสบายและไม่ต้องเดินขึ้นไปชั้นบน แบบคราวที่แล้ว ซึ่งเรามาทราบราคาก็ตอนที่ชำระเงินครับ

               หลังจากทำการโอนเงินมัดจำเรียบร้อยแล้ว ก็ส่งภาพการโอนเงินไปยืนยันกับทางร้าน ก็จะเป็นอันที่เรียบร้อย เสร็จขั้นตอนการจองแบบเสร็จสมบูรณ์ครับ เมื่อถึงเวลาไปทาน เราก็เดินทางไปถึงที่ร้านในเวลาประมาณ บ่ายสามห้าสิบนาทีครับ สำหรับที่จอดรถ ก็เช่นเดิมนะครับ หาจอดเอาได้ที่บริเวณหน้าร้าน และตามข้างทางใกล้เคียง แต่ก็ระวังอย่าไปบังร้านอาหารร้านอื่นนะครับ

              เมื่อเข้ามาภายในร้าน ทางร้านก็จะถามชื่อผู้จอง แล้วนำเราไปยังโต๊ะทานอาหารครับ บนโต๊ะในตอนแรกจะมีวางแก้วไวน์ไว้บริการ เมื่อเราแจ้งว่าไม่ทานไวน์ (ไม่รวมอยู่ในราคาบุฟเฟ่ต์นะครับ) ทางน้องพนักงานก็จะขอนำแก้วกลับเข้าไปเก็บครับ ทางร้านม่ีเครื่องดื่มให้เลือกเป็น น้ำเปล่า น้ำอัดลมกระป๋อง และชาลิปตััน ซึ่งทั้งหมดสามารถเปลี่ยนน้ำได้ แต่ไม่เปลี่ยนแก้วครับ และน้องพนักงานจะมาถามครับว่า จะเริ่มสั่งอาหารทานกันเลยไหม จะได้เริ่มจับเวลาครับ ถ้าเข้าร้านก่อน บ่าย 4 โมงเย็น ก็จะนับเวลาไปจนครบ 2 ชั่วโมงครับ และจะสามารถสั่งอาหารทานได้ถึงภายใน 1 ชั่วโมงครึ่ง และสามารถนั่งทานได้อีก 30 นาทีที่เหลือครับ

             




           
                      จากนั้นน้องพนักงานจะนำเมนูมาให้เราทำการเลือกรายการอาหาร โดยจะสอบถามก่อนว่า สนใจรับเป็นชุดเริ่มต้นของทางร้านเลยไหม ในชุดจะมีปูม้าแกะ ปลากระพงทอดน้ำปลา และกุ้งซอสมะขาม ซึ่งเราก็สนใจ และบอกว่า ขอปูม้าแกะเป็นไซด์ 2XL ตามที่เคยสั่งเมื่อรอบที่แล้ว แต่น้องพนักงานแจ้งว่า ตอนนี้มีข้อกำหนดใหม่ ถ้าลูกค้ามากัน 3-4 ท่าน จะสั่งได้แค่ไซด์ L โดยถ้าเมื่อปูนำมาเสริฟ์แล้ว ถึงจะสามารถสั่งจานใหม่ได้อีกครั้งหนึ่ง สำหรับไซด์ XL ก็จะต้องมากัน 7-8 ท่าน ถึงจะทำการสั่งได้ ตรงนี้ทางเราก็ไม่ค่อยเข้าใจ นโยบายของทางร้านสักเท่าไร เพราะถ้าลูกค้าทานไม่หมด ทางร้านก็มีการแจ้งปรับราคาอาหาร และทำการแพคอาหารที่ทานไม่หมดใส่ถุงให้คุณลูกค้าแบบเดิม

                    แต่เมื่อเป็นนโยบายของทางร้าน เราเข้ามาทานแล้ว ก็ต้องทำตามล่ะครับ จึงเริ่มทำการสั่งอาหาร และเมนูปูม้าแกะ ในแต่ละจานจะต้องใช้เวลาในการรอประมาณ 20-25 นาทีนะครับ ระหว่างรออาหารนำมาเสริฟ์ เราก็เดินไปดูที่เมนูไลน์อาหารที่สามารถตักได้เลย เมนูก็ยังเป็นแบบเดิมครับ มีขนมจีนน้ำยาปู มีน้ำพริกไข่ปู กุ้งสะดุ้ง และหอยนางรมสด ไม่รอช้าครับ ไปตักหอยนางรมสดกันดีกว่า เมื่อเราเดินไปถึงเวลาประมาณ บ่าย 4 โมงเย็น เจอแต่ถาดน้ำแข็งว่างเปล่า สอบถามน้องพนักงาน แจ้งว่าเดี๋ยวนำมาเติมครับ เพราะกำลังแกะหอยกันอยู่ ผ่านไปสัก 5 นาที น้องพนักงานก็เดินมาแจ้งว่า นำมาเสริฟ์แล้วครับ
เมื่อเราเดินไปถึง ก็เห็นหอยนางรมวางอยู่ประมาณ 7-8 ตัว ก็ไม่กล้าตักเยอะครับ เดี๋ยวลูกค้าท่านอื่นไม่ได้ เรารอตักอีกทีรอบต่อไปที่มาเติมล่ะกัน






                หอยนางรมตัวใหญ่ ความสดก็นับว่าโอเคดีเลยนะครับ ส่วนเครื่องเคียงก็สามารถหยิบได้ตรงด้านหลังเคาน์เตอร์หอยนางรมเลยครับ มีวางไว้พร้อม ทั้งหอมเจียว และน้ำพริกเผา หลังจากนั้นอาหารที่ทำการสั่งก็เริ่มทะยอยนำออกมาเสิรฟ์ครับ ซึ่งระหว่างนั้น เราก็ทำการสั่งเพิ่มกันไปเรื่อยๆ


หอยหวาน

ส้มตำปูม้า

ยำปูม้า

ปูม้านึ่งแกะไซด์ L

ปลาหมีึกทอดน้ำปลา

กุ้งซอสมะขาม

ยำกุ้งฟู

ยำกุ้งฟูจานที่ 2

กระเพราปู

ปลาหมึกทอดกระเทียม

ต้มยำกุ้งน้ำข้น

ปูม้านึ่งแกะไซด์ L

แฮกึ้นทอด

หอยเชลส์อบเนย

ปูม้านึ่งแกะไซด์ L

ทะเลผัดฉ่า

ปูผัดผงกะหรี่

ปูนิ่มทอดกระเทียม

หอยเชลส์อบเนยกระเทียม

ยำปูม้าจานที่ 2

ต้มข่าทะเล

ปูม้านึ่งแกะไซด์ S

ปูผัดผงกะหรี่

ปูผัดพริก

หอยเป๋าฮื้ดผัดน้ำมันหอย

ปลากระพงทอดน้ำปลา

กุ้งสะดุ้ง

ข้าวผัดปู

หอยแมงภู่อบ


                  โดยรอบนี้ทางร้านมีเมนูใหม่ ที่ยังไม่ได้ใส่ลงไปในเล่มเมนู คือแฮกึ่น ซึ่งหน้าตาคล้ายกับห่อยจ้อครับ รสชาติออกมาเนื้อแน่น ผสมกุ้ง ปู มาโดดเด่น แต่ส่วนตัวเป็นคนไม่ชอบทานของทอด เลยไม่ค่อยโดนสักเท่าไรครับ อีกรายการที่เราเพิ่งลองสั่งเพิ่มมาทานกัน ปูนิ่มทอดกระเทียม รสชาติโอเคครับ ปูนิ่มตัวไม่ใหญ่มาก แต่ก็ไม่ถึงกับไม่มีเนื้อ

                ขอสรุปรสชาติอาหารตามความเห็นส่วนตัวนะครับ ปูม้านึ่ง ตัวเล็กลงกว่าเดิมครับ แต่ความสด รสชาติก็ยังคงเดิม ปลากระพงทอดน้ำปลา ก็รสชาติเดิม ทานได้ ปูผัดผงกะหรี่ก็ยังคงรสชาติโอเคดี ทานอร่อยครับ ส่วนส้มตำ อันนี้ไม่ค่อยอร่อยเท่าไรครับ พวกเมนูยำ รสชาติดีครับ น้ำจิ้มซีฟู้ดที่นำมาราดคลุกน้ำยำ รสชาติจัดจ้าน ตามสไตล์ร้านอาหารซีฟู้ด ยำกุ้งฟู ทำออกมาได้ดีครับ ทอดกุ้งมากรอบกำลังดี คลุกกับน้ำยำ แล้วอร่อยดีครับ

                 หอยหวาน ก็ตัวใหญ่ ความสดโอเคดีครับ หอยเชลส์ ฝานึงจะมีวางหอยตัวเล็กๆมาสักประมาณ 2-3 ตัว ถ้าตัวใหญ่หน่อยก็วางตัวเดียว รสชาติปกติครับ ความสด ก็ธรรมดา ไม่ได้สดอะไรมากมาย ส่วนหอยนางรม ยกให้เป็นพระเอกของวันนี้เลยครับ หอยมาตัวใหญ่มาก ความสดโอเคดีเลย แต่ออกมาค่อนข้างช้า ออกแล้วก็หายทิ้งช่วงค่อนข้างนานมากๆ มาวางแป๊บเดียวไม่ถึง 1 นาทีครับ หายเกลี้ยง ออกมาครั้งละ 6-7 ตัวเองครับ

                เมนูต้มๆ ต้มยำน้ำข้น รสชาติน้ำพริกเผาค่อนข้างนำ ความมันมาเต็ม ต้มข่าทะเล ก็รสชาติธรรมดาครับ พอทานได้ ที่เหลือเราก็สั่งวนกันไปครับ มาถึงของหวานครับ เมนูที่ต้องสั่งกับทางน้องพนักงานจะเป็นข้าวเหนียวมะม่วง ส่วนที่เหลือสามารถตักได้ที่ไลน์อาหารชั้น 1 ครับ








                        ข้าวเหนียวมะม่วงรอบนี้ ไม่เหมือนรอบที่แล้วที่เคยทานครับ เนื้อข้าวเหนียวแอบแข็ง ส่วนวุ้นกะทิ กับลอดช่อง ยังคงความอร่อยเหมือนเดิม ส่วนผลไม้จะมีเป็นแคนตาลูปให้ตักทานได้เรื่อยๆครับ


                        สำหรับความคุ้มค่านะครับ เนื้อปูม้านึ่งแกะไซด์ L จานนึง น่าจะประมาณปูม้านึ่ง 2 กิโล เพราะเป็นปูม้าตัวไม่ใหญ่มาก น่าจะประมาณ 6-7 ตัวต่อกิโล แต่ด้วยทางร้านมีข้อจำกัด ห้ามสั่งไซด์ 2XL  ถ้าลูกค้ามาใช้บริการไม่ถึงจำนวนที่กำหนด ทำให้เราต้องสั่งจานไซด์ L ทีละจานๆ ทำให้การทานรู้สึกว่าขาดตอนครับ มีหลายรอบที่ต้องนั่งรออาหาร และเมนูปูม้านึ่ง จะต้องใช้เวลาในการรออาหารแล้วด้วย และรสชาติน้ำยาปู น้ำพริกไข่ปู ก็เปลี่ยนไปจากเดิม ด้วยความรู้สึกกับราคาต่อท่านที่ 1,196.80 บาท ทำให้ความคุ้มค่าลดลงไปเป็นอย่างมาก ครั้งนี้คงเป็นครั้งสุดท้ายกับร้านเพราะดีแล้วครับ แต่ก็ขอชื่นชมการบริการของน้องพนักงานนะครับ ยังคงให้บริการใส่ใจเป็นอย่างดีเหมือนเดิม



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม