ช่วงวันคริสมาสต์ที่ผ่านมา เรามีโอกาสได้ไปทริปแสวงบุญ โดยมื้อเย็นของวันแรกที่เดินทาง จะเป็นที่จังหวัดขอนแก่น หลังจากทำการบ้านว่า อยากทานอาหารพื้นเมืองกัน ทำให้ตัดสินใจเลือกทานกันที่ ร้านแจ่วฮ้อนสารคาม 5 สาขาขอนแก่น พิกัดอยู่บริเวณบึงแก่นนคร สามารถจอดรถได้ที่หน้าร้าน และบริเวณริมบึงครับ
ฝั่งตรงข้ามร้านอาหาร |
ป้ายหน้าร้าน |
เรามาถึงร้านอาหารในเวลาประมาณเกือบทุ่มครับ ภายในร้านยังมีลูกค้าไม่ค่อยมาก น่าจะเป็นเพราะสถานการณ์โควิด ทำให้ไม่ค่อยออกมาใช้บริการกัน ภายในร้านมีเวทีสำหรับเล่นดนตรีสดด้วย แต่ในวันที่เราไป มีแต่อุปกรณ์เครื่องดนตรีวางไว้ นักร้องไม่ได้ร้องครับ
ทางเข้าหน้าร้าน |
บรรยากาศภายในร้าน |
โดยทางร้านมีให้บริการ 2 โซนครับ ด้านนอกแบบโอเพ่นแอร์ และด้านในแบบมีให้บริการเครื่องปรับอากาศในห้องกระจก เราสองคนเลือกใช้บริการด้านนอกครับ หลังจากเลือกโต๊ะได้แล้ว น้องพนักงานก็นำเมนูมาให้ครับ
เมนู |
เมนู |
เมนู |
เมนู |
เมนู |
เมนู |
เมนู |
ภายในเมนูจะมีประวัติของทางร้าน ที่ทำการเปิดมาค่อนข้างยาวนานทีเดียว เป็นร้านที่ได้รับรางวัลจากแม่ช้อยนางรำด้วยครับ หลังจากทำการสั่งอาหาร ใช้เวลาไม่นานอาหารก็เริ่มทะยอยนำออกมาเสริฟ์ครับ
อุปกรณ์ในการทาน จาน ชาม ช้อน และตะเกียบ |
เตาแก๊สแบบดั้งเดิมเลยครับ |
น้ำแจ่วฮ้อนสูตรทางร้าน |
สันคอหมู |
ชุดแจ่วฮ้อนหมู |
น้ำจิ้ม |
ผักสดในชุดแจ่วฮ้อน |
ไส้อ่อน |
ตับหมูสด |
พร้อมทานอาหารกันครับ |
ที่มาของแก๊ส วางโต๊ะละถัง |
ส้มตำโคราช ไม่ใส่พริก |
เดือดได้ที่ก็จุ่มหมูกันได้เลยครับ |
ส้มตำปลาร้าเผ็ดจัดๆ |
กบทอด |
ข้าวเหนียว |
สองคนเต็มโต๊ะครับ |
สรุปรสชาติอาหารตามความเห็นส่วนตัวของเราสองคนนะครับ ขอเริ่มจากแจ่วฮ้อนซึ่งเป็นชื่อร้านเลย รสชาติน้ำซุปเข้มข้นมาก ครบรสครับ ส่วนตัวเป็นคนไม่ทานเผ็ดครับ ทำให้รู้สึกว่าค่อนข้างเผ็ดมาก ซดน้ำซุปไม่ไหวเลย แต่สำหรับแฟนเป็นคนชอบทานของเผ็ดอยู่แล้ว บอกว่าอร่อยสุดๆ ทานแล้วสดชื่นถึงใจ ในส่วนของของสด หมูสันคอดีครับ สด นุ่ม ลวกจุ่มๆในหม้อแจ่วฮ้อนแล้วทาน อร่อยเลย ไส้อ่อนก็ทำความสะอาดมาได้ดีครับ มีเพียง 1-2 ชิ้นที่มีความขม ตับหมูสดดีครับ ในส่วนของน้ำจิ้มแจ่วฮ้อน เรารู้สึกว่ารสชาติธรรมดานะครับ ไม่ได้เพิ่มความอร่อยให้กับอาหารสักเท่าไร
ส้มตำทำออกมาได้ดีทั้งสองจานเลยครับ กลมกล่อม หอมปลาร้า รสชาตินัว ครบรส ทานเพลินๆ แปบเดียวหมดจานครับ แต่สำหรับข้าวเหนียว ค่อนข้างแข็งเลยครับ เรียกว่ามีข้าวแห้งๆเป็นก้อนๆ แข็งอยู่ในกระติ๊บ พวกเราก็เลยไม่ทานครับ ทิ้งไว้อย่างนั้นทั้งกระติ๊บเลย
เมนูสุดท้ายขอยกให้เป็นพระเอกของมื้อนี้เลยครับ กบทอดกระเทียม รสชาติทอดออกมากำลังดีสุดๆ เนื้อสีเหลืองทอง กรอบนอก นุ่มใน จนอยากจะบอกว่าเป็นกบทอดที่ดีที่สุดที่เคยทานกันมาในชีวิตเลยครับ และเมนูนี้เอง ทำให้พวกเรากลับมาทานร้านนี้ซ้ำอีกครั้ง ในอีกสามวันให้หลัง ตอนกำลังเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ แต่ก็ต้องผิดหวังมากครับ เพราะกบทอดไม่เหมือนเดิม จานที่ได้ในรอบสอง กบทอดออกมาแห้ง เหมือนใช้ไฟแรงเกินไป ส้มตำโคราชก็ไม่เหมือนเดิมครับ ใส่แตงกวาลงมาในจานให้ด้วย และเมื่อสอบถามน้องพนักงานว่า ทางร้านมีแม่ครัวหลายคนเหรอ รสชาติไม่เหมือนมื้อเย็นเมื่อสามวันก่อนเลย จึงได้คำตอบว่า มีพ่อครัวคนใหม่กับทางเจ้าของร้านเป็นคนทำอยู่ 2 คน ก็แปลว่า แล้วแต่ดวงกันครับ ว่าจะเจอท่านไหนเป็นคนทำอาหารให้ทานครับ
สรุปความคุ้มค่าในอาหารมื้อนี้ ตามความเห็นส่วนตัวนะครับ มื้อที่ทำการถ่ายภาพมา ขอบอกว่าเมื่อเทียบราคาอาหารกับคุณภาพอาหาร ปริมาณ และรสชาติแล้ว เราสองคนเห็นตรงกันว่าคุ้มค่าครับ จนต้องกลับมาซ้ำอีกครั้งตามที่ได้กล่าวไว้ด้านบน แต่เมื่อเจอรสชาติอาหารที่เปลี่ยนไป ทำให้ครั้งหน้าถ้ามีโอกาสมาที่ขอนแก่นอีกครั้ง คงจะมาทานเฉพาะแจ่วฮ้อนครับ เพราะไม่ต้องวัดดวงว่าจะเจอพ่อครัวท่านไหนปรุงอาหารให้ทาน
บิลค่าเสียหาย |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น