สวนผักโอ้กะจู๋เป็นร้านอาหารที่เราเคยมาทานกับครอบครัว เมื่อนานมาแล้ว น่าจะประมาณ 5-6 ปีที่แล้ว ในตอนนั้นยังคงเป็นร้านอาหารขนาดไม่ใหญ่มาก มีโต๊ะให้บริการประมาณเกือบๆสิบโต๊ะ แต่มาในวันนี้ เมื่อปลายปี 2563 ที่ผ่านมา เราได้มีโอกาสเดินทางไปยังจังหวัดเชียงใหม่อีกครั้ง จึงไม่พลาดที่จะพาแฟนไปทานกันในมื้อเย็น และแฟนเองก็ยังไม่เคยมีโอกาสไปทานร้านโอ้กะจู๋ในกรุงเทพฯเลย จึงเป็นโอกาสดี ที่จะได้ลองทานสาขาต้นตำรับในครั้งแรก
เราไปถึงร้านอาหารในเวลาประมาณ 1 ทุ่มนิดหน่อย ภายในร้านมีให้บริการลานจอดรถกว้างขวาง จอดสบายครับ มียามรักษาความปลอดภัยคอยให้บริการ โบกจอดรถให้เป็นอย่างดี หลังจากเดินแจ้งน้องพนักงานถึงจำนวนลูกค้าที่ใช้บริการแล้ว น้องพนักงานพาเราสองคนไปยังด้านในของร้านครับ
|
บรรยากาศภายในร้าน |
ระหว่างทางเดินไปยังโต๊ะอาหาร จะผ่านซุ้มสวนผักในกระถางน้อยๆ ประดับประดาด้วยแสงไฟ สมกับเป็นช่วงเทศกาลคริสมาสต์และเฉลิมฉลองสิ้นปีกันครับ เมื่อได้โต๊ะนั่งเป็นที่เรียบร้อย น้องพนักงานส่งเมนูมาให้พร้อมกับให้คำแนะนำถึงรายละเอียดของเมนูต่างๆครับ
|
เมนู |
|
เครื่องดื่มหลากหลาย |
|
อุปกรณ์การทานอาหาร |
|
นั่งเลือกเมนูกันอย่างตั้งใจ |
เช่นเดิมครับ มีหลากหลายเมนูที่อยากทานกันมากเลย แต่เราก็มากันเพียงสองคน ทางน้องพนักงานก็เตือนแล้วว่า ที่นี่อาหารจานค่อนข้างใหญ่นะคะ ใจจริงอยากลองทานแบบเลือกผัก เลือกน้ำสลัดกันเอง แต่ก็หักห้ามใจไว้ เพราะเราสั่งอาหารกันแล้วหลายเมนู ซึ่งในแต่ละเมนู จะมีผักสลัดมาให้ปริมาณนึงอยู่แล้ว เมนูที่ตั้งใจมาทานเลย คือซี่โครงหมู เพราะเคยทานแล้วเมื่อหลายปีก่อน
|
สเต็กซี่โครงสะพานโค้ง |
|
ชาร้อนคาโมมายด์ |
|
มีแก้วชามาให้ 2 ที่ |
|
สลัดแฮม |
|
สเต็กปลาหิมะย่าง เสริฟ์คู่กับหอมใหญ่ทอด |
|
Mix Berry ปั่น |
|
เต็มโต๊ะจ้า |
สำหรับรสชาติอาหารตามความเห็นส่วนตัวของเราสองคนนะครับ ขอเริ่มจากเครื่องดื่ม ชาร้อนสดชื่นดีครับ สามารถช่วยตัดเลี่ยน และเพิ่มความอยากอาหารได้เป็นอย่างดี ส่วนน้ำปั่น Mix berry ของแฟนก็รสชาติดีครับ หวานน้อย อมเปรี้ยวนิดๆ ถือว่าทานเพื่อสุขภาพ
มาถึงจานแรกสเต็กซี่โครงสะพานโค้ง ตรงนี้น้องพนักงานมีสอบถามก่อนแล้วว่า อยากได้มาแบบเนื้อติดกระดูกตามภาพของเรา หรืออยากให้ทางร้านแล่เนื้อมาให้เลย แบบพร้อมทาน ด้วยอยากถ่ายรูปให้สวยงามครับ เราสองคนจึงเลือกแบบมาทั้งกระดูก ก็เลยแอบรู้สึกว่า ทานยากไปนิดนึง และรู้สึกกันเองว่า เนื้อไม่ค่อยชุ่มฉ่ำสักเท่าไร แอบแห้งไปในหลายๆส่วนครับ
ต่อด้วยสลัดแฮม เนื้อแฮมมาแบบเป็นก้อนหนาๆ สะใจดีครับ ทานแล้วเต็มปากเต็มคำ น้ำสลัดอร่อย กลมกล่อม จนต้องสั่งมาเพิ่มอีกถ้วย และเมนูพระเอกของวันนี้ ขอยกให้กับเมนูสเต็กปลาหิมะย่างครับ ขอบอกว่า เนื้อปลาสด หวาน อร่อยมากๆ โดยเฉพาะด้านบน ทอปปิ้งโรยมาด้วยขิงทอดกรอบครับ พอทานคู่กับเนื้อปลา ยิ่งเข้ากันแบบสุดยอดอร่อย ทานกันเพลินๆ แปบเดียวหมดจานจ้า
ต้องบอกว่า ถ้าของอร่อย ต่อให้ปริมาณมาก และยิ่งเป็นผักสด กรุบกรอบ น้ำสลัดดีงาม ก็จะเพลินกับการจิ้มทานกันไปเรื่อยๆ แปบเดียวก็หมดเกลี้ยงกันทุกจานครับ สรุปความคุ้มค่านะครับ เมื่อเทียบปริมาณอาหาร คุณภาพอาหารและความอร่อยที่ได้รับ ต้องขอบอกว่า ไม่แพงเลยครับ รู้สึกเหมือนกันทั้งสองคนว่า คุ้มค่าเป็นที่สุด จนแทบอยากจะมาทานซ้ำกันอีกมื้อก่อนกลับกรุงเทพฯกันเลยทีเดียว ช่วงนี้ทางร้านเข้าร่วมโครงการเราเที่ยวด้วยกันด้วยนะครับ ทำให้สามารถใช้ส่วนลดจากทางรัฐบาลได้อีกด้วย
ที่สำคัญการบริการของน้องพนักงานทุกคนดีมากๆครับ ขอชื่นชมจากใจเราสองคน น้องพนักงานทุกคนจริงๆ ไม่ใช่เป็นเพียงแค่บางคน เรียกว่าทางร้านมีการใส่ใจลูกค้าเป็นอย่างมาก ไม่แปลกใจเลยที่มีการพัฒนาจากร้านเล็กๆ จนมาเป็นสวนอาหารขนาดใหญ่ และมีสาขากระจายอยู่หลายแห่งในประเทศไทยครับ ต้องหาโอกาสไปลองทานสาขาในกรุงเทพฯบ้างแล้ว ว่ารสชาติและคุณภาพอาหารจะสู้สาขาต้นตำรับได้หรือเปล่า
|
บิลค่าเสียหาย |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น