วันจันทร์ที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2562

ร้านครัวต้นไทร วังน้ำเขียว โคราช

                  หลังจากเที่ยวชมความสวยงามของดอกไม้ ใน Flora Park แล้วเราก็เดินทางมายังที่พัก แถวถนนไทยสามัคคี และที่พักไม่มีให้บริการอาหารเย็นครับ เราจึงต้องเดินทางออกมาหาอะไรทานกันก่อนที่จะเข้าไปนอนพักผ่อนครับ โดยน้องพนักงานที่พักแนะนำว่า ให้ไปทานที่ร้านครัวต้นไทร อาหารอร่อย เรากับแฟนก็ไม่ได้คาดหวังอะไรมากมายครับ เพราะเริ่มเหนื่อยและหิวกันแล้ว บนถนนสามัคคีในเวลาประมาณ 6 โมงเย็น ก็มืดสนิท นานๆจะมีรถผ่านสวนมากันสักคัน รอบข้างก็มืด และแล้วเราก็มองเห็นแสงไฟครับ 


ป้ายหน้าร้าน

                  เมื่อมองเข้ามาภายในร้าน ก็จะพบกับลูกค้าจำนวนมากครับ และรถที่จอดในลานจอดรถอีกจำนวนหนึ่ง ทำให้ค่อนข้างใจชื้นครับ ว่าร้านนี้จะต้องโอเคแน่ๆเลย และเมื่อเดินเข้ามาภายในร้าน ก็จะพบกับโซนขายขนม ของฝาก ด้านขวามือ ด้านซ้ายมือ จะเป็นโซนขายน้ำองุ่นครับ

ข้าวเกรียวเห็ดหอม

น้ำองุ่นมธุรส

                   เมื่อเราก้าวเข้ามาภายในร้าน จะมีน้องพนักงานมาต้อนรับครับ น้องพนักงานแจ้งว่ามีโต๊ะว่างให้บริการ แต่ ณ ตอนนี้ ถ้าสั่งอาหารแล้ว จะใช้เวลาในการรออาหารประมาณ 30-40 นาที ซึ่งพวกเราก็ไม่ได้เร่งรีบอะไรอยู่แล้ว และบรรยากาศภายในร้านก็ดูโอเคดี นั่งฟังดนตรีสด ไปเรื่อยๆ ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร

                     เมื่อได้ที่นั่งแล้ว น้องพนักงานก็นำเมนูมาให้เราเลือกสั่งอาหารครับ ทางร้านก็มีเมนูให้เลือกค่อนข้างหลากหลายครับ แต่ขอถ่ายรูปมาเฉพาะเมนูแนะนำล่ะกันนะครับ และน้องพนักงานก็แนะนำว่า ทางร้านเน้นผลิตภัณฑ์จากเห็ด


เมนูแนะนำ

                      ระหว่างที่เรากำลังรออาหาร ทางร้านก็มีนำน้ำองุ่นมาให้เราชิมกันครับ โดยบอกว่าไม่มีน้ำตาลผสมครับ หลังจากได้ชิมแล้ว ยอมรับครับ ว่าติดใจ เราเลยเดินไปซื้อมาทานเพิ่มครับ ขวดเล็กราคาขวดละ 35 บาท เมื่อซื้อ 3 ขวด ราคา 100 บาทครับ ส่วนในขวดแก้วใบใหญ่ จะราคาขวดละ 100 บาท โดยถ้าต้องการทานเลย มีแบบแช่เย็นๆไว้พร้อมให้บริการด้วยครับ

                           เมื่อมีเครื่องดื่มแล้ว แฟนก็เริ่มออกไปหาอะไรมาทานเล่นครับ และเป็นดังที่คาดไว้ แฟนไปเหมาข้าวเกรียวเห็ดหอมมาจ้า รสชาติอร่อยกำลังดีเลย ข้าวเกรียบเนื้อบาง มีกลิ่นและรสชาติของเห็ดหอมครับ ในราคาถุงละ 35 บาท 3 ถุงราคา 100 บาทเช่นกันครับ เราก็นั่งทานข้าวเกรียบแกล้มกับน้ำองุ่นกันไปเรื่อยๆ สักพักข้าวเกรียบก็หมดครับ จากนั้นจึงเริ่มจากแหนมเห็ดกันต่อ รสชาติแหนมเห็ดที่นี่อร่อยดีครับ ไม่เหมือนแบบที่เคยทานที่อัมพวา อันนั้นจะโดดกลิ่นกระเทียมมากๆ แต่แหนมเห็ดที่นี่ มีความอร่อย ไม่มีกลิ่นของเห็ดหรือกระเทียมแรงแต่อย่างใด รสชาติกลมกล่อมอร่อยครับ ทานไปเพลินๆ ก็หมดอีกเช่นเดิม

                        ถึงเราจะรออาหารกันนาน แต่ด้วยนักร้อง ร้องเพลงเพราะครับ แถมเป็นแนวเพลงที่แฟนเราชอบมากด้วย เพลงช้าๆ ฟังสบายๆ ในยุค 80-90 บรรยากาศก็กำลังเย็นสบาย ติดอยู่ตรงที่มียุงกัดบ้างเล็กน้อย ทางร้านมีเพลงดนตรีสดให้ฟังเฉพาะคืนวันเสาร์กับวันอาทิตย์เท่านั้นะครับ และแล้ว อาหารของเราก็เริ่มออกมากันแล้วครับ


เห็ดผัดเม็ดมะม่วง

ข้าวเปล่า

ต้มยำเห็ดโคน(ถ้วย)

เห็ดโคน

ไก่ทอดสมุนไพร

ผัดผักรวมมิตร

                         สรุปรสชาติอาหารตามความเห็นส่วนตัวของเรากับแฟนนะครับ เริ่มจากเห็ดผัดเม็ดมะม่วง ตักเข้าปากกันคำแรก ขอบอกว่า โครตอร่อยครับ สัมผัสของเห็ดชุบแป้งทอดที่ผัดมาเป็นอย่างดี กลมกล่อม อร่อยสุดๆ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ก็ให้มาแบบพอสมควร และทอดมาใหม่ๆ ไม่มีกลิ่นเหม็นหืน อร่อยมากๆครับ แต่เมนูนี้ไม่ควรทานช้านะครับ เพราะถ้าปล่อยเวลาไปสักพัก แป้งจะเริ่มนิ่มครับ ทำให้ไม่อร่อยได้

                        ข้าวเปล่ามาแบบจัดเต็ม ให้กันแบบพูนๆถ้วยเลยครับ และเป็นข้าวหอมมะลิที่หุงมากำลังดี ตัวข้าวนุ่ม ทานคู่กับ กับข้าวแล้วเพลิดเพลินในรสชาติสัมผัสของความอร่อยแบบสุดๆ   ต่อด้วยต้มยำเห็ดโคนน้ำข้น ถึงจะเห็นความมันลอยเต็มชาม แต่ความกลมกล่อมอร่อยมากันแบบเต็มพิกัดครับ รสชาติจัดจ้าน เข้มข้น เห็ดโคนก็สดอร่อย ในชามจะไม่มีเนื้อสัตว์นะครับ 

                       ไก่ทอดสมุนไพร รสชาติมาแบบอร่อยอีกเช่นเดิม เนื้อไก่ทอดมาแบบแห้งแต่ไม่ชืด และไม่เหนียวนะครับ มีความกลมกล่อมอร่อย ถั่วลิสงมาแบบเม็ดใหญ่ๆ ทอดใหม่ๆ ไม่เหม็นหืนอีกเช่นเดิม เครื่องสมุนไพรก็อร่อยมากันครบครัน

                       สุดท้ายที่ผัดผักรวมมิตร เมนูที่ดูธรรมดาๆ แต่รสชาติความอร่อยไม่ธรรมดานะครับ ในจานใส่ผักมาให้แบบจัดเต็มครบ ทั้งถั่วแขกและบรอคโคลี่ 

                       สรุปความคุ้มค่า เมื่อเทียบปริมาณอาหาร คุณภาพอาหาร และรสชาติความอร่อย กับราคาอาหารแล้ว ต้องขอบอกว่า คุ้มค่าเป็นอย่างมากครับ และน้องพนักงานทุกคนของทางร้าน ให้บริการลูกค้าเป็นอย่างดี ที่ถูกใจเรากับแฟนตรงที่บอกลูกค้าตามตรงแต่แรกที่เข้าร้าน ว่าอาหารจะมาช้า มีความจริงใจกับลูกค้า และถ้าลูกค้ามากันเพียง 2 คน แบบเรา ทางร้านจะนำน้ำแข็งใส่แก้วมาให้เลยครับ ไม่คิดค่าบริการน้ำแข็งด้วย และสามารถขอเติมน้ำแข็งได้เรื่อยๆ เสียดายครับที่เราสองคนทานกันได้เท่านี้ ถ้ามากันจำนวนคนมากกว่านี้ น่าจะได้ลองสั่งอาหารเมนูอื่นๆเพิ่มเติมครับ มีโอกาสหน้าจะต้องกลับมาลองอีกครั้งแน่นอนครับ ทางร้านเปิดให้บริการในเวลา 9.00-20.00 น. ครับ ถ้าท่านใดมีโอกาสผ่านมาแถวนี้ ขอแนะนำให้มาลองทานอาหารกันครับ


บิลค่าเสียหาย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม