วันพฤหัสบดีที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2567

ร้านเคส์ เอสเปรสโซ่ บาร์ Kays Espresso Bar จันทบุรี


                         

            วันรุ่งขึ้นหลังจากไปสักการะรอยพระพุทธบาทที่เขาคิชฌกุฏ จ.จันทบุรี พวกเราเลือกที่จะพักโรงแรมในตัวเมือง ช่วงเวลาสิบโมงเช้าก่อนจะเดินทางไปพักผ่อนที่โฮมสเตย์เพื่อกินปู เราจึงแวะหาร้านกาแฟเพื่อเติมความสดชื่น และแฟนก็ได้แนะนำให้ไปที่ร้าน Kays Espresso Bar ซึ่งเป็นร้านที่แฟนเคยมาใช้บริการเมื่อหลายปีก่อน ทางร้านมีให้บริการลานจอดรถทั้งด้านข้างและด้านหลังของร้าน

                เมื่อเรามาถึงร้าน ก็พบกับร้านกาแฟพื้นที่ขนาดใหญ่ ที่ตกแต่งบรรยากาศร้านได้ร่มรื่นมากครับ ด้านข้างร้านมีทั้งโซนสวน มีน้ำพุด้านหน้า และยังมีให้บริการห้องแบบส่วนตัว ด้านหลังมีลานสำหรับจัด Event หรือจัดงานหมั้น-งานแต่งงาน ที่มีการตกแต่งไว้อย่างสวยงาม ไม่ว่าจะเป็นชุดชิงช้า เก้าอี้โซฟา ที่ออกแบบมาได้แบบหรูหรา


ป้ายหน้าร้าน

น้ำพุด้านหน้า

โซนนั่งด้านหน้าร้าน

ทางเข้าไปยังด้านหลัง โซนสวน

โซนสวน

ที่นั่งในโซนสวน

ห้องบริการส่วนตัว

ชิงช้าหรูหรา

โซนห้องส่วนตัว

ตกแต่งอย่างหรูหรา สวยงาม

                    หลังจากเดินชมบรรยากาศในร้าน พร้อมกับเลือกที่นั่ง ด้วยแสงแดดที่เริ่มจะสาดส่องลงมา พวกเราจึงตัดสินใจไปนั่งกันที่โต๊ะด้านในร้าน บริเวณใกล้เคาน์เตอร์ภายในร้านดีกว่า


โปรโมชั่นของทางร้าน

เคาน์เตอร์สำหรับสั่งขนมและเครื่องดื่ม

ตู้ขนม

เค้กหลากหลาย

ครัวซอง เบเกอรี่ก็มีพร้อม

ขนมหลากหลาย

โซนเครื่องดื่ม

บาริสต้า

โซฟาเก้าอี้ด้านใน ตกแต่งสวยเก๋

                       หลังจากเราทำการสั่งขนมเค้ก เครื่องดื่ม และทำการชำระเงินเป็นที่เรียบร้อย ก็ไปนั่งรอที่โต๊ะได้เลยครับ ใช้เวลาประมาณ 5-10 นาที ขนมเค้กจะถูกนำจัดลงจาน และนำมาเสิรฟ์พร้อมเครื่องดื่มที่ทำการสั่งครับ เมนูที่เป็นสมูทตี้ จะใช้เวลาในการทำนานกว่าเมนูอื่น


โอรีโอ้ชีสเค้ก

สตอเบอรี่ชอตเค้ก

ด้านในสอดแทรกด้วยแยมสตอเบอร์รี่

ชอคโกแลตปั่นหวานน้อย

อเมริกาโน่เย็นไม่หวาน

ชาเขียวโฮจิฉะ-หวานน้อย และมิกซ์เบอรี่สมูทตี้-หวานน้อยมาก

คุกกี้เทลมิกซ์

คุกกี้แผ่นใหญ่

บิลค่าเสียหาย

                       สำหรับรสชาติขนมเค้กนะครับ ในตอนแรกที่เห็นว่าเป็นร้านกาแฟขนาดใหญ่ที่มีการจัดตกแต่งสถานที่มาแบบหรูหรา สวยงาม ก็ทำใจเผื่อไว้แล้วครับว่า รสชาติขนมเค้กน่าจะธรรมดาๆ พอทานได้ล่ะ แต่เมื่อได้ชิม ก็ต้องบอกว่า อร่อยมากๆครับ รสชาติอร่อยสมกับความดูดีของหน้าตาเลย

                      เริ่มจากโอรีโอ้ชีสเค้ก เมนูที่หน้าตาอาจจะดูธรรมดาเหมือนร้านทั่วไป แต่รสสัมผัสของชีสมาได้แบบสมบูรณ์ มีความหอมชีสหนึบๆ ตัวโอรีโอ้ก็ยังคงความอร่อยไว้ รสชาติไม่หวานมาก เรียกว่าแปบเดียวก็หมดชิ้นกันแล้วครับ ต่อด้วยสตอเบอรี่ชอตเค้ก ตัวครีมมีความนุ่มละมุน ไม่หวานมาก ตัวแป้งด้านใน นุ่มนิ่ม บางเบา ใส่ปากก็แทบจะละลาย ยิ่งด้านในสอดไส้แยมสตอเบอรี่ที่มีความหวานอมเปรี้ยว ยิ่งเพิ่มความอร่อยลงตัวได้เป็นอย่างดี

                        ต่อด้วยเมนูเครื่องดื่ม กาแฟอเมริกาโน่ อร่อยเข้ม หอมนุ่ม ได้กาแฟดีๆแล้วรู้สึกว่าสดชื่นมากๆครับ ชอคโกแลตปั่นก็มีความเข้มข้นของตัวชอคโกแลต รสชาติกลมกล่อมกำลังดี ตัวเมนูชาเขียวโฮจิฉะ ก็หอมรสนมอ่อนๆ มีความเข้มสัมผัสของชาเขียวครบ ปิดท้ายด้วยเมนูสมูทตี้ สดชื่นครับ เปรี้ยวอมหวานน้อยๆ

                        ในส่วนของขนมคุกกี้ แฟนอยากลองชิม Cookie Trail Mix ส่วนตัวอันนี้ไม่ค่อยชอบครับ เพราะรู้สึกว่ามันหนึบๆ ชอบแบบคุกกี้ร่วนๆมากกว่า แต่ก็ดีที่ไม่ค่อยหวานมาก แต่แฟนและผู้ร่วมทริปชอบกันมากครับ แปบเดียวก็หมดกระปุกกันแล้ว


บิลค่าเสียหาย

                        ครั้งนี้นำบิลค่าเสียหายขึ้นมาก่อนสรุป เป็นเพราะว่ามีการคิดเงินผิดพลาดครับ และมารู้เมื่อตอนกลับมาถึงกรุงเทพฯ ขณะกำลังจะทำรีวิวว่า ทางร้านลืมคิดราคาโอรีโอ้ชีสเค้กครับ เราจึงติดต่อไปหาทางร้านเพื่อจะขอทำการชำระเงิน โดยติดต่อผ่านทางไลน์แอด แต่แอดมินของทางร้านก็ขอบคุณที่เราทำการแจ้งข้อมูลเพื่อจะขอชำระเงิน และขอไม่คิดเงินทางเรา ที่ตั้งใจมาใช้บริการร้านพร้อมๆกับกำลังจะทำรีวิว จึงขอขอบคุณทางร้านเช่นกันครับ 

                        ก่อนที่เราจะออกจากร้าน ก็แวะไปเข้าห้องน้ำกันก่อนนะครับ โดยห้องน้ำของทางร้านเรียกว่าเป็น Art Gallery กันเลยทีเดียว มีการจัดแสดงผลงานศิลปะของน้องๆนักศึกษามหาวิทยาลัย ที่มีความสวยงาม และโดดเด่นในแต่ละแบบ และห้องน้ำก็มีความกว้าง มีให้บริการหลายห้อง สามารถรองรับแขกลูกค้าได้อย่างพอเพียง


ห้องน้ำ

Art Gallery

                  สรุปความคุ้มค่านะครับ เมื่อเทียบราคาขนมเค้กและเครื่องดื่มในแต่ละเมนู กับคุณภาพวัตถุดิบ ปริมาณและความอร่อยที่ได้รับแล้ว พวกเราทุกคนลงความเห็นว่า คุ้มค่าครับ โดยเฉพาะช่วงนี้มีโปรโมชั่นเครื่องดื่มสำหรับผู้ที่มาขึ้นเขาคิชฌกุฏกันด้วยนะครับ เพียงแสดงภาพถ่ายพร้อมวันที่และเวลาของการไปสักการะเขาคิชฌกุฏ ก็สามารถซื้อเครื่องดื่ม 3 แก้ว แถม 1 แก้ว  จากวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2567 ถึงวันที่ 9 เมษายน 2567 นะครับ

                          ร้านเคส์ เป็นร้านกาแฟที่ตกแต่ง ได้สวยงาม มีมุมให้ถ่ายรูปเยอะมาก โซฟา โต๊ะ เก้าอี้ ก็มีหลากหลายแบบ หลายสไตล์ เลือกใช้บริการได้ตามใจชอบ รวมถึงมีทั้งโซนเครื่องปรับอากาศ โซนสวน โซนน้ำพุ รวมถึงมีทั้งมุมแสดงผลงานศิลปะ

                        จะมานั่งพักผ่อนพร้อมกินขนม จิบเครื่องดื่ม ชื่นชมบรรยากาศ แบบชิลๆสบายๆ หรือจะมาแบบกลุ่ม หมู่คณะ มาสังสรรค์ หรือจะมากับแฟน คู่รัก ก็มีมุมให้ถ่ายภาพคู่ได้แบบจุใจ เรียกว่าครบจบในที่เดียว ถ้ามีโอกาสได้มาจันทบุรีอีก เราจะไม่พลาดที่จะมาร้านนี้อย่างแน่นอนครับ เพราะยังมีเมนูเค้กอีกหลายเมนู รวมถึงครัวซองที่ยังไม่ได้ลองทานกันเลยครับ

วันพุธที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2567

เจ๊เพ็ญเยนตาโฟปูกั้ง วัดไผ่ล้อม

                          


             เมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา พวกเราได้เดินทางไปขึ้นเขาคิชฌกุฏกันที่จังหวัดจันทบุรี โดยเราไม่ได้เลือกโรงแรมพร้อมอาหารเช้า เพราะตั้งใจจะไปชิมก๋วยเตี๋ยวกันที่ร้านเจ๊เพ็ญเยนตาโฟปูกั้ง โดยเลือกไปที่สาขาวัดไผ่ล้อม ที่เปิดให้บริการแต่เช้า สำหรับที่จอดรถ สามารถจอดได้ที่วัดฝั่งตรงข้ามร้าน 

               ด้วยพวกเราไปใช้บริการกันในเวลาประมาณ 7.50 น. ทำให้ภายในร้านยังไม่มีลูกค้ามาใช้บริการครับ จึงเลือกที่นั่งได้กันได้ตามอัธยาศัยครับ


ฝั่งตรงข้ามร้าน

ด้านหน้าร้าน

โซนของทอด

โซนก๋วยเตี๋ยว


โต๊ะที่นั่งด้านข้างร้าน

โต๊ะด้านข้างร้าน
ตู้ไอศครีม


โต๊ะที่นั่งภายในร้าน

โต๊ะที่นั่งภายในห้องด้านหลัง


                          บนโต๊ะจะมีเมนูวางไว้ให้เลือกสั่งอาหารครับ และก็จะยังมีขนมถ้วย ข้าวตัง กล่องใส่ตะเกียบ ช้อน และเครื่องปรุงต่างๆวางไว้ให้บริการ


ขนมถ้วย

ข้าวตัง

เมนู

เมนู

ขนาดกั้งตามราคาครับ

  
                       เมื่อมาถึงทางร้านแล้วก็ต้องลองชิม เมนูขึ้นชื่อของทางร้าน เยนตาโฟปูกั้ง ห่อยจ้อรวมแฮกึ้นทอด ใช้เวลาประมาณ 5-7 นาที อาหารก็เริ่มทะยอยออกมาจนครบครับ

เส้นเล็กเย็นตาโฟปูกั้งแบบปกติ-200 บาท

เส้นใหญ่เยนตาโฟปูกั้งแบบเผ็ดน้อยและไม่ใส่ผัก - 200 บาท

ห่อยจ้อและแฮกึ้นทอด

ขนมถ้วย

ใบเตยด้านในหอม หวานไม่มาก

ลอดช่อง

ลอดช่องเนื้อหนึบๆ

บะหมี่แห้งหมู-60 บาท

น้ำซุปสำหรับบะหมี่แห้ง


                         สำหรับรสชาติอาหารตามความเห็นส่วนตัวของพวกเราทั้ง 4 คนนะครับ น้ำซอสเยนตาโฟกลมกล่อม รสชาติเผ็ดน้อยๆ กำลังอร่อยเลย ส่วนเครื่องทะเล กั้งและปู มีความสดดีครับ โดยเฉพาะการลวกเส้น ทางร้านทำออกมาได้ดีหมดเลย เส้นมีความนุ่ม ละมุน
                         
                        รสชาติโดยรวมถือว่าอร่อยเลยครับ สำหรับเมนูบะหมี่หมูธรรมดา ก็ให้เครื่องมาค่อนข้างเยอะ น้ำซุปใส มีความเชงๆ หอมๆ อร่อยครับ เมนูของทอดก็อยู่ในเกณฑ์ปกติ ส่วนของขนมและของหวาน ข้าวตังมีความกรุบกรอบอร่อย ทานกันเพลินๆ แปบเดียวหมดถุง ขนมถ้วยก็กะทิมีความหอมมากๆ รสชาติเค็มน้อยๆ ตัดกับด้านล่างใบเตยที่มีความหวานกำลังดี อร่อยครับ สุดท้ายด้วยลอดช่อง ตัวลอดช่องมีความหนุบหนับ หนึบกำลังดี น้ำกะทิที่ราดก็หวานไม่มากครับ

                             สรุปความคุ้มค่าของอาหารมื้อนี้ เมื่อเทียบราคากับปริมาณอาหาร คุณภาพอาหารและความอร่อยที่ได้รับ ก็ถือว่าคุ้มค่าอยู่ครับ สำหรับราคา 200 บาท/ชาม ถ้าไม่อิ่มก็สามารถสั่งราคาปกติทานกันต่อได้ครับ ถ้ามีโอกาสมาจันทบุรีครั้งหน้า ก็จะกลับมาทานแบบต้มยำน้ำใสบ้างครับ 

บทความที่ได้รับความนิยม