วันจันทร์ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2566

Darq

 

Cover

                  ดังคำโบราณที่กล่าวไว้ "กินคาว ไม่กินหวาน สันดานไพร่" ถึงแม้เราจะอิ่มกับร้านอาหารมาแล้วถึง 2 ร้าน ก็ต้องแวะร้าน Darq ปิดท้ายกันสักนิดครับ พิกัดร้าน Darq จริงๆจะอยู่ระหว่างร้านเฮียบิ๊กห้าหม้อ และร้านปากหม้อปารีสครับ สังเกตได้ว่าหน้าร้านจะมีวินพี่มอเตอร์ไซด์จอดอยู่ค่อนข้างเยอะ ร้านเป็นตึกแถวห้องเดียว ตกแต่งร้านโทนสีขาวสว่าง


ด้านหน้าร้าน

                         เมื่อเดินเข้าไปภายในร้าน ด้านขวามือจะเป็นเคาน์เตอร์สำหรับสั่งอาหารและปรุงเครื่องดื่ม ตรงนี้ทางร้านมีเมนูแนะนำอยู่หลายรายการ แต่ด้วยเราติดตามรอยมาจากรายการ Youtube จึงเลือกสั่งตามคนที่นำทางมา และเพิ่มเติมอีกสักเมนูมาลองทานกันครับ หลังจากสั่งและชำระเงินเป็นที่เรียบร้อยก็มานั่งรอที่โต๊ะได้เลย (สั่ง 2 Set เป็นเงิน - 640 บาท)


มีชอคโกแลตจำหน่ายในตู้เย็น

เมนู

ชอคโกแลตเบียร์คราฟ ทำโดยคนไทย

เคาน์เตอร์จัดเตรียมเครื่องดื่ม

มุมด้านในร้าน

              ภายในร้านจัดเรียงโต๊ะแก้วอี้เป็นแนวยาวเส้นตรง ทำให้สามารถวางโต๊ะตัวเล็กได้หลายตัวอยู่ครับ แต่ก็ไม่ค่อยเหมาะกับการนั่งทานกันหลายๆคน ใช้เวลาประมาณ 10 นาที ขนมและเครื่องดื่มของเราก็นำออกมาเสริฟ์ครับ


ชอคโกแลตเย็นและขนม





                 พวกเราสั่งเครื่องดื่มมาแบบความเข้มข้น 82% และ 90% และในแก้วจะมีน้ำแข็งแบบกลมเพียงแก้วละ 1 ก้อน เพื่อไม่ทำให้เสียรสชาติความเข้มของตัวชอคโกแลต สำหรับแฟนผู้ที่ชื่นชอบชอคโกแลตแบบเข้มๆ ได้กล่าวไว้ว่า อร่อยเข้ม กลมกล่อมครับ หวานน้อยมากๆ แต่สำหรับเราผู้ที่ไม่ค่อยสันทัดในเรื่องนี้ ต้องขอสารภาพตามตรงว่า แยกรสชาติไม่ค่อยออก รู้แต่ว่า เข้มข้นอยู่ และมีความอมเปรี้ยวน้อยๆ หอมกลิ่นผลไม้นิดๆ

                   สำหรับขนมก็ชอบแบบที่มีเลมอนมากกว่า เพราะมีความอมเปรี้ยวสดชื่น ตัดกับรสชาติความเข้มข้นของชอคโกแลตได้เป็นอย่างดี แต่ที่ชอบมากที่สุด กลับกลายเป็นแผ่นขนมที่เคลือบชอคโกแลตปักอยู่ด้านบนของตัวขนม ที่มีการปักไว้ชิ้นละ 3 แผ่น ตัวขนมนี้มีความกรุบกรอบคล้ายวาฟเฟิล ให้สัมผัสที่รู้สึกว่าอร่อยดีครับ

                 โดยส่วนตัวแอบรู้สึกว่า ร้านนี้เป็นร้านสำหรับผู้ที่ชื่นชอบชอคโกแลตเป็นการส่วนตัวจริงๆ เหมือนเกิดมาเพื่อเฉพาะทาง  ท่านใดเป็นสาวกชอคโกแลตไม่ควรพลาดครับ สำหรับส่วนตัวเราแล้ว รู้สึกว่าไม่ใช่ทางสักเท่าไรครับ

ร้านก๋วยเตี๋ยวหมูต้มยำ เฮียบิ๊กห้าหม้อ

 

Cover

                      ร้านที่ 2 ต่อเนื่องจากทริปกินย่านพระโขนง หลังจากที่เราออกจากร้านปากหม้อปารีส ก็เดินย้อนลงมาทางเส้นถนนปรีดีพนมยงค์ แล้วก็จะพบกับร้านก๋วยเตี๋ยวหมูต้มยำ เฮียบิ๊กห้าหม้อ ร้านจะเปิดในเวลาประมาณ 10.30 แต่ในเฟซบุ๊คจะเขียนไว้ว่า 11.00 นะครับ


หน้าร้าน

                พวกเรามาถึงในเวลา 10.33 ภายในร้านก็มีลูกค้านั่งทานอาหารกันอยู่จำนวนหนึ่งแล้ว แต่ก็ยังพอมีโต๊ะว่างอยู่ ด้านหน้าร้านก็เหมือนกับร้านปากหม้อปารีส มีพนักงานส่งอาหารยืนรอกันอยู่ พนักงานด้านหน้ากำลังง่วนกับการลวกเส้น จัดของใส่ถุง

                 หลังจากได้โต๊ะนั่งแล้ว เมนูอาหารก็แปะอยู่ที่กำแพงของทางร้านอีกเช่นกัน บนโต๊ะมีอุปกรณ์การทานอาหาร วางไว้พร้อม ด้านหลังมีถังน้ำแข็งให้บริการตักน้ำแข็งได้ฟรีครับ ส่วนเครื่องดื่มก็อยู่ในตู้เย็น สามารถหยิบได้เลย

     

ตู้เย็น

โต๊ะพร้อมอุปกรณ์ในการทาน

ป้ายแจ้งรายละเอียดการจอดรถ

เมนูอาหาร

               หลังจากเขียนรายการอาหารส่งไปให้น้องพนักงาน ใช้เวลาไม่ถึง 5 นาที อาหารของเราก็ยกมาเสริฟ์กันแบบครบในรอบเดียวครับ


น้ำใบเตยและน้ำเก๊กฮวย

เกี๊ยวทอด

กากหมู

กากหมูอันเล็กๆ

เกาเหลาต้มยำเผ็ดน้อย

เกาเหลาต้มยำเผ็ดกลาง

เกาเหลาแห้งต้มยำ เผ็ดกลาง


เกี๊ยวหมู ด้านในอัดแน่นไปด้วยเนื้อหมู

              สำหรับรสชาติอาหารตามความเห็นส่วนตัวของเราสามคนนะครับ เริ่มจากเครื่องดื่ม น้ำใบเตย รสชาติค่อนข้างหวานกว่าน้ำเก๊กฮวยพอสมควร เหมาะสมที่จะใส่กับน้ำแข็งเยอะๆ แล้วก็รอให้น้ำแข็งละลายสักหน่อย แต่สำหรับคนที่ชอบทานหวาน น่าจะรู้สึกสดชื่นดีครับ

              เมนูก๋วยเตี๋ยวทางร้าน ปรุงรสชาติต้มยำ ออกมาได้แบบกลมกล่อมมากๆครับ ไม่ต้องปรุงอะไรเพิ่มเติมแล้ว มีให้เลือกระดับความเผ็ดได้อีกด้วย ดีงามมากๆครับ ที่ชอบมากๆคือเนื้อตับครับ ทางร้านลวกออกมาได้สุก แต่ไม่มีความแข็งเลย ดีงามเหมือนที่ Youtuber ท่านนั้นได้กล่าวไว้แบบแท้จริง เนื้อหมูนุ่มก็มาแบบนุ่มละมุน เป็นหมูนุ่มที่ถูกต้องและดีงาม เหมือนหมูนุ่มในราดหน้าอย่างใดอย่างนั้น หมูสับก็ให้มาแบบไม่มีกั๊ก ถั่วงอกยังอร่อยครับ เรียกว่าประทับใจมากๆ สำหรับตัวเกี๊ยวหมูทอด ก็ทำออกมาได้ดีครับ ทอดแผ่นเกี๊ยวออกมาได้กรุบกรอบ ด้านในเนื้อหมูปรุงรส อัดมาให้แบบแน่นๆ

              และที่เด็ดที่สุด ก็คือกากหมูครับ นี่เป็นกากหมูที่ถูกต้องสำหรับพวกเรา ตัวกากหมูชิ้นไม่ใหญ่มาก พอดีคำ และไม่มีชิ้นไหนที่แข็งกระด้างเลย ทุกชิ้นมีความกรุบกรอบ ไม่มีกลิ่นหืน ทานคู่กับน้ำซุปต้มยำ เป็นอะไรที่อร่อยอย่างหาอะไรมาเปรียบได้ยาก ติดอยู่อย่างเดียวคือ น้ำซุปไม่มีความร้อนเลยครับ สำหรับคนที่ไม่ชอบทานของร้อนแบบเรา ก็ไม่ได้รู้สึกอะไรมาก แต่สำหรับคนที่ชอบซดน้ำก๋วยเตี๋ยวร้อนๆแบบแฟนแล้ว มันทำให้รสชาติความอร่อยของอาหารลดลงไปเป็นอย่างมาก ทุกอย่างดีงามหมดแล้วครับ ถ้าได้น้ำซุปที่ร้อนกว่านี้ จะเป็นอะไรที่สมบูรณ์มาก

            โดยส่วนตัวถ้าเทียบร้านก๋วยเตี๋ยวในแนวนี้ ระหว่างร้านที่ตรอกโรงหมูและร้านก๋วยเตี๋ยวหมูเทวดาที่ลาซาล ต้องขอตอบว่า ประทับใจร้านเฮียบิ๊กห้าหม้อมากกว่าครับ เพราะมีความลงตัวของรสชาติ และวัตถุดิบแทบทุกอย่าง เสียดายที่เราไม่ได้มาทานที่ร้านนี้เป็นร้านแรก ไม่อย่างนั้นจะขอสั่งลองเมนูเส้นดูบ้าง 

             สรุปความคุ้มค่า เมื่อเทียบคุณภาพอาหาร ปริมาณอาหารและความอร่อยที่ได้รับกับราคาค่าอาหารแล้ว (มื้อนี้ 350 บาท) เราสามคนลงความเห็นตรงกันว่า คุ้มค่าเป็นอย่างมาก มีโอกาสหน้าจะต้องกลับมาทานซ้ำอีกครั้งอย่างแน่นอนครับ

ร้านปากหม้อปารีส สาขาพระโขนง

                     

Cover


                         ทริปวันนี้เกิดขึ้นเนื่องจากคืนวันเสาร์ เรากับแฟนและพี่สาวของแฟนได้เปิดดูรายการ youtube ช่องนึงที่จัดทำ One Day Eat Trip ที่เส้นถนนพระโขนง ทำให้เกิดการตามรอยรายการกันขึ้น โดยเราเริ่มต้นที่ร้านปากหม้อปารีส ซึ่งร้านนี้เป็นร้านที่เราเคยสนใจจะไปทานที่สกลนคร แต่ยังไม่มีโอกาสสักที มาวันนี้จึงมาลองทานกันที่สาขากรุงเทพฯกันก่อนครับ ร้านเปิดทำการในเวลา 9.30 น. สำหรับที่จอดรถสามารถจอดได้ที่ Max Value โดยจอดฟรี 2 ชั่วโมง และสามารถเดินกลับมายังร้านได้ในระยะไม่ถึง 100 เมตร


หน้าร้าน

ทางเข้าร้าน

                     ถึงแม้ว่าเราสามคนจะมาถึงร้านในเวลาประมาณ 9.33 น. แต่ภายในร้านก็มีลูกค้านั่งทานอาหารกันอยู่บ้างแล้ว ทางร้านมีโต๊ะให้บริการไม่มากนักนะครับ ประมาณ 5-6 โต๊ะ และด้านหน้าร้านก็เต็มไปด้วยพนักงานส่งอาหารรออาหารกันอยู่ ในส่วนของเมนูมีแปะไว้ที่กำแพงด้านข้างของโต๊ะแทบทุกโต๊ะครับ เลือกสั่งกันได้เลย

ด้านหน้าเตา

รายการเมนู

เมนู

เมนูเครื่องดื่ม

บรรยากาศหน้าร้าน

อุปกรณ์ทานบนโต๊ะ

ช้อนส้อมในกระป๋อง

น้ำเปล่า

                   เมื่อเราได้โต๊ะนั่งแล้วก็ทำการเขียนรายการอาหาร พร้อมเบอร์โต๊ะ ส่งไปให้น้องพนักงานครับ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะพวกเรามาใช้บริการในเวลาร้านเพิ่งเปิดไม่นาน มีรายการอาหารที่ยังต้องทำที่มีการสั่งออนไลน์ผ่าน Application เป็นจำนวนมาก หรือว่าน้องพนักงานยังไม่พร้อมขายแบบเต็มตัว

                       เราสามคนใช้เวลาในการรออาหารค่อนข้างนานครับ กว่าอาหารแต่ละจานจะนำออกมาเสริฟ์ ทั้งๆที่น้องพนักงานหน้าเตาปากหม้อ ก็ทำงานแบบไม่ได้หยุดเลย เทแป้งแล้วก็ห่อๆ อาหารพวกเรากว่าจะได้ครบก็ใช้เวลาไปประมาณเกิน 30 นาที

หมูยอพริกไทยดำ

หมูยอหนัง

ข้าวเกรียบไข่

ข้าวเกรียบไข่

น้ำจิ้ม

ด้านในข้าวเกรียบไข่

ข้าวเกรียบไข่พร้อมน้ำจิ้ม

น้ำซุป

ปากหม้อทูโทน

ปากหม้อทูโทน

น้ำมะนาวและพริกน้ำส้ม

ก๋วยจั๊บญวน

                  สำหรับรสชาติอาหารตามความเห็นส่วนตัวของเราสามคนนะครับ เริ่มจากหมูยอ ด้วยส่วนตัวเป็นคนที่ชอบทานหมูหยอที่มีหนังหมูเป็นอย่างมาก เมื่อเห็นว่าร้านนี้มีจำหน่าย จึงไม่รอช้าที่จะสั่งมาลองทาน แต่ในความรู้สึกส่วนตัว รู้สึกว่ารสชาติธรรมดา แต่จะแปลกไปตรงที่มีความเหนียวเหนอะที่ชิ้นของหมูยอค่อนข้างมาก ทำให้ไม่ค่อยปลื้มเลยครับ สำหรับหมูยอพริกไทยดำ ก็รสชาติปกติดี ทานได้ ยังไม่มีความโดดเด่นอะไรมาก

                      ข้าวเกรียบไข่เมนูนี้รสชาติอร่อยโอเคเลยครับ ด้านในอัดแน่นมาด้วยหอมเจียว ที่ทำมาสดใหม่ ไม่มีกลิ่นเหม็นหืน หมูสับและหมูยอให้มาค่อนข้างเยอะ เพียงพอดีกับตัวแป้ง ตัวแป้งถึงจะแม้มีการใส่ไข่ แต่ก็ยังมีความกรุบกรอบอยู่ ทานคู่กับน้ำจิ้มปรุงรสด้วยน้ำมะนาวและน้ำส้มแล้ว เข้ากันเป็นอย่างดีครับ

                     ปากหม้อทูโทน รสชาติปกติครับ เหมือนปากหม้อทั่วไป เครื่องด้านในรสชาติเหมือนที่วางโรยอยู่ในข้าวเกรียบไข่ ตัวแป้งปกติ แป้งบางดีครับ ไส้ด้านในก็ให้มาเยอะดี

                     ปิดท้ายด้วยเมนูก๋วยจั๊บญวน รสชาติน้ำซุปกลมกล่อม มาแบบร้อนๆ ซดน้ำซุปคล่องคอ มีหอยเจียวแยกมาให้โรยเพิ่มเอง ส่วนเส้นก๋วยจั๊บญวนมาแบบเส้นเล็ก มีความเหนียวหนึบๆ กัดแล้วไม่ขาดเลยในทีเดียว เหมาะสำหรับคนที่ชอบเส้นเหนียวหนึบๆครับ ถ้าใครจัดฟันมา หรือฟันไม่สบกัน อาจจะเคี้ยวกัดลำบากเล็กน้อย โดยรวมรสชาติทานได้ครับ

                       สรุปเมื่อเทียบราคาอาหารกับคุณภาพอาหาร ปริมาณอาหารและความอร่อยที่ได้รับแล้ว ก็นับว่าคุ้มค่านะครับ แต่ถ้าถามว่าอร่อยขนาดที่จะต้องอยากกลับมาทานอีกไหม ต้องขอตอบว่า ไม่ดีกว่าครับ ด้วยการรอที่ค่อนข้างนาน และส่วนตัวยังไม่มีอะไรโดดเด่นที่ทำให้รู้สึกว่าอยากกลับมาทานซ้ำครับ


บิลค่าเสียหาย


บทความที่ได้รับความนิยม