ในช่วงเทศกาลสิ้นปีที่ผ่านมา หลังจากไปเที่ยวทริปนครนายก มุ่งหน้ากลับเข้ากรุงเทพฯ ในกลุ่มการเดินทาง ใช้รถทั้งหมด 3 คัน ก็ปรึกษากันว่า อยากหาอะไรไม่ต้องหนักมาก ทานกันก่อนแยกย้ายกลับบ้าน และท่านแม่ก็เสนอว่า ข้าวต้มปลานายแป๊ะ ที่สวนมะลิเลย ท่านแม่อยากลองทานเมนู "ยำจ้าวสมุทร" มากๆ เพราะดูรายการทีวีหลายรายการเลย พาไปกินรีวิว แล้วอยากลองบ้าง
ดังนั้นพวกเราจึงมุ่งหน้าเข้าเมืองกันครับ ในช่วงสิ้นปี การจราจรก็เบาบางครับ โดยก่อนไปก็โทรไปสอบถามกับทางร้านก่อนแล้วว่า เปิดทำการหรือเปล่า เมื่อได้คำตอบว่า เปิดขายปกติ คำถามต่อมาก็คือ จอดรถที่ไหนได้บ้าง พนักงานทางร้านแจ้งว่า จอดที่ริมถนนฝั่งตรงข้ามร้านได้ หรือถ้าเต็ม ก็ให้หาที่จอดในซอยแถวร้านครับ
|
ป้ายหน้าร้าน |
|
หน้าร้าน |
|
ครัวหน้าร้าน |
เมื่อมาถึงหน้าร้าน ในเวลาประมาณเกือบทุ่มครับ ภายในร้านยังมีลูกค้าไม่มากนัก เราสามารถเดินเข้าไปเลือกที่นั่งได้ตามอัธยาศัย หลังจากนั่งเป็นที่เรียบร้อย น้องพนักงานจะนำเมนูมาให้เราทำการเลือกสั่งอาหารกันครับ
|
เมนู |
|
เมนู |
|
เมนู |
สำหรับการสั่งอาหารในเมนูปกติ จะมีการสั่งโดยการเริ่มจากเลือกแบบ ข้าวต้มน้ำ ข้าวต้มแห้ง เกาเหลา ยำ ลวกจิ้ม จากนั้นก็มาเลือกว่าจะใส่อะไรบ้าง จะมีเป็นตารางราคาให้เราทำการเลือกได้ตามใจชอบครับ อยากเพิ่มเครื่องอะไร ราคาเท่าไร มีให้เลือกครบจ้า
สำหรับเมนูปลาเก๋า จะเห็นว่า มีเก๋ามาก กับเก๋าน้อย ความแตกต่างคือ เก๋ามากจะใส่เนื้อปลาให้มากกว่า เท่านั้นครับ ส่วนเก๋าน้อย ก็จะใส่เนื้อปลาให้เล็กน้อยเป็นพิธี ตรงนี้เลือกได้ตามกำลังทรัพย์เลยจ้า
หลังจากสั่งอาหารเป็นที่เรียบร้อย ใช้เวลาไม่นานน้องพนักงานก็จะนำอาหารออกมาทะยอยเสริฟ์ ด้วยเราไปกันหลายคน ทำให้ไม่สามารถถ่ายรูปมาได้ทุกเมนู ก็จะมีแค่ไม่กี่ชามนะครับที่ทำการถ่ายรูปมา
|
ซีฟู้ดจ้าวสมุทรเล็ก - 350 บาท |
|
ข้าวต้มปลากระพง บะเต็ง+ไข่ออนเซ็น 145 บาท |
|
ข้าวต้มปลาเก๋ามาก+กุ้งแชบ๊วย+บะเต็ง 370 บาท |
|
บะเต็ง 60 บาท |
|
ยำปลาอินทรีย์ทอด ใส่มาม่า 180 บาท |
|
ข้าวต้มปลาเก๋าแดง+หอยนางรม 450 บาท |
ด้วยมีหลายเมนูที่เราไม่ได้ถ่ายรูปมา ทำให้ครั้งนี้ขอใส่ราคาค่าอาหารแต่ละชาม ไว้ที่ใต้ภาพด้านบนเลยนะครับ สำหรับรสชาติอาหาร ขอเริ่มจากเมนู ซีฟู้ดจ้าวสมุทรจานเล็ก อันนี้ไม่แน่ใจว่า ผิดพลาดจากการสื่อสาร หรือการที่ท่านแม่เข้าใจผิดกันแน่ เพราะจานที่ได้มา ไม่ใช่ยำแต่อย่างใด เป็นเหมือนผัดเส้นบุกซีอิ๊ว ราดด้วยเครื่องซีฟู้ดครับ รสชาติเหมือนประสานระหว่างผัดเส้นแบบเกาหลี และผัดซีอิ๊วแบบไทย ลงมติกันทุกคนว่า ไม่ชอบครับ เครื่องซีฟู้ดสด แต่รสชาติโดยรวมแล้วไม่ถูกใจครับ
ยำปลาอินทรีย์ทอดใส่มาม่า เมนูนี้อร่อยครับ รสชาติน้ำยำ ทำออกมาได้โอเคดีเลย แซบจี๊ดจ๊าดถึงใจ ปลาอินทรีย์ก็ทอดออกมาได้กรุบกรอบด้านนอก ด้านในเนื้อหวานๆอัดแน่นๆ อร่อยครับ
บะเต็งของทางร้านจะทำออกมาแบบค่อนข้างนิ่มครับ รสชาติหวานๆเค็มๆ โดยรวมรสชาติบะเต็งใช้ได้นะครับ แต่โดยส่วนตัวแล้ว ชอบแบบหนึบๆมากกว่า แบบว่าเคี้ยวแล้วได้สัมผัสมากกว่านี้
ข้าวต้มปลากระพงอันนี้เป็นของเราเองครับ ก็เลยได้ถ่ายรูปมา เนื้อปลากระพงสดครับ หั่นมาชิ้นใหญ่กำลังทานเลย ไข่ออนเซ็นก็มาแบบ ลาวาออนเซ็นกำลังงาม ทานข้าวต้มคู่กับบะเต็งและปลากระพงอร่อยดีครับ น้ำซุปไม่ได้เป็นแบบใส มีการใส่ข่าเพื่อดับกลิ่นคาวในน้ำด้วยครับ
ต่อด้วยของแฟน ข้าวต้มปลาเก๋ามาก ใส่กุ้งแชบ๊วย และบะเต็ง เนื้อปลาเก๋าก็ให้มาเยอะพอสมควรสมกับราคาเก๋ามาก หั่นมาแบบชิ้นหนาๆ ใหญ่ๆ เนื้อสดเด้งๆ อร่อยครับ กุ้งแชบ๊วยก็ให้มาขนาดตัวกำลังดี 3 ตัว เนื้อกุ้งเด้ง สด อร่อยครับ
ปิดท้ายด้วยของมิสเตอร์ที ข้าวต้มปลาเก๋าแดง ใส่หอยนางรม เนื้อปลาเก๋าแดง ก็สดอร่อยตามปกติครับ หอยนางรมตัวอาจจะไม่ใหญ่มาก แต่ก็มีความสดกำลังดีครับ
สรุปความคุ้มค่าในการทานอาหารที่ร้านนี้นะครับ ถ้าเทียบปริมาณอาหาร คุณภาพอาหาร และความอร่อยของอาหารกับราคาที่จ่ายไป ก็คุ้มค่าอยู่หลายเมนูครับ ความสดของอาหารทะเลมาเต็ม ทางร้านมีน้ำจิ้มเต้าเจี้ยวสูตรพิเศษ ไว้ให้บริการด้วย แต่เราไม่ค่อยชอบครับ แต่เมื่อมองภาพรวมแล้ว ก็รู้สึกว่า ราคาอาหารค่อนข้างสูงทีเดียว เมื่อเทียบกับร้านข้าวต้มปลาที่เคยทานมา
ถ้าพูดถึงบะเต็ง ยังคงชอบของร้านข้าวต้มปลากิมโป้มากกว่าครับ ส่วนของน้ำซุป และรสชาติยำ ก็ยังคงชอบของร้านเฮียหวานมากกว่า แต่มิสเตอร์ทีบอกว่า ชอบน้ำซุปที่ร้านนี้ เข้มข้นดี ไม่ได้ใสๆ เช็งๆ แบบร้านเฮียหวาน ตรงนี้ต้องเรียกว่า แล้วแต่คนชอบจริงๆครับ แต่สำหรับร้านข้าวต้มปลานายแป๊ะ เราขอติตรงน้ำแข็งที่ให้มาครับ น้ำแข็งที่ให้บริการใส่แก้วมา สำหรับเทน้ำชาลงไป น้ำแข็งมีความเค็มครับ ไม่แน่ใจว่าไปโดนเกลือกันตอนไหน แต่เค็มชัดเจนเลย ไม่อยากคิดว่า มันเค็มเพราะการเก็บรักษาน้ำแข็งแบบไหนครับ ถ้าถามว่า ร้านนี้อร่อยจนอยากจะกลับมาทานอีกไหม ต้องขอบอกว่า ได้ลองแล้ว พอแล้วครับ