วันอังคารที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2562

ฮั่วเซ่งฮง สาขาสุขุมวิท 101

                      ภัตตาคารอาหารจีนที่มีมากมายหลายสาขา ทั้งตามห้างสรรพสินค้าและตามพลาซ่า โดยที่แต่ละสาขารสชาติของอาหารก็ไม่เหมือนกันครับ ตรงนี้ต้องขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละบุคคล ว่าชอบอาหารรสชาติไปทางไหน ส่วนของครอบครัวเรา ชื่นชอบที่จะใช้บริการที่สาขาสุขุมวิท 101 ครับ สาขานี้มีที่จอดรถไว้ให้บริการพร้อม ด้านหน้าจะเป็นร้านกาแฟและเบเกอรี่ ภายในร้านค่อนข้างกว้าง มีให้บริการทั้งแบบโต๊ะกลม และห้องส่วนตัว มีห้องลูกบอลให้เด็กเข้าไปเล่น อยู่ตรงกลางภายในร้าน

                   หลังจากจอดรถและเลือกโต๊ะนั่งที่ถูกใจแล้ว เราก็เริ่มทำการสั่งอาหารครับ เครื่องดื่มพวกเราเลือกเป็นชาจีนร้อน ระหว่างรออาหารก็เดินไปที่ร้านเบเกอรี่ด้านหน้า เพื่อทำการเลือกขนมที่ชอบไว้ก่อน เพราะเมนูภายในร้านอาหารจะมีรายการขนมไม่ครบครับ สำหรับการสั่งขนมเบเกอรี่เพื่อทานภายในร้านอาหาร เราสามารถบอกเมนูขนมที่ต้องการกับพนักงานร้านอาหารฮั่วเซ่งฮงได้เลยครับ 


อุปกรณ์ในการทาน

ชาจีนร้อน

น้ำบ๊วย - พริกน้ำปลา

น้ำจิ้มสุกี้ - น้ำจิ้มซีฟู้ด


                     ถึงวันนี้จะเป็นวันอาทิตย์ ด้วยเป็นเวลาประมาณ 4โมงครึ่ง ทำให้ภายในร้านมีลูกค้าประมาณ 50% ของพื้นที่ จึงทำให้อาหารที่เราทำการสั่งใช้เวลาไม่นาน ก็เริ่มทะยอยนำออกมาเสริฟ์ครับ


ถั่วงอกและผักชี สำหรับหูฉลาม

กระเพาะปลาน้ำแดง

ข้าวผัดปูจานกลาง

แตงกวา-มะเขือเทศ-มะนาว เครื่องเคียงข้าวผัด

หูฉลามน้ำแดง

หูฉลาม

ปอเปี๊ยะพระจันทร์

เป็ดปักกิ่ง

แป้งเป็ดปักกิ่ง

วางแผ่นแป้ง-หนังเป็ด-ผักเครื่องเคียง

น้ำจิ้มเป็ดปักกิ่ง

ราดน้ำจิ้ม ก่อนทำการห่อ

ฟองเต้าหู้กุ้งทอด จาน 1

ฟองเต้าหู้กุ้งทอด จาน 2

ไส้ด้านในของฟองเต้าหู้

กั้งทอดกระเทียม

ยำผักกาดดองเครื่องเคียงกั้งทอดกระเทียม

หม้อไฟจีน - เครื่อง

หม้อไฟจีน - น้ำซุป

เนื้อเป็ดปักกิ่งทำลาบ

สาคูแคนตาลูป

สาคูแคนตาลูป

อัลมอนด์ชอคโกแลตโรล

เอแคลร์

ครีมวนิลาไส้ด้านในเอแคลร์


                    สรุปรสชาติอาหารตามความรู้สึกส่วนตัวของครอบครัวเรานะครับ เริ่มจากกระเพาะปลาเนื้อปูน้ำแดง ในราคาหม้อละ 400 บาท รสชาติน้ำซุปเข้มข้นดีครับ มีเนื้อปูใส่มาให้เห็นเป็นช่วงกรรเชียงยาวๆ ไม่ได้มาเป็นแบบก้อนๆ ส่วนกระเพาะปลาก็เป็นแบบเรียวยาว โดยส่วนตัวไม่ค่อยชอบกระเพาะปลาแบบนี้ ชอบแบบที่เป็นก้อนๆกลมๆมากกว่า ต่อด้วยหูฉลามน้ำแดง เราสั่งกันแบบหม้อเล็ก ในราคา 450 บาท มีหูฉลามแผ่นมาให้พอสมควร น้ำซุปรสชาติเดียวกันกับกระเพาะปลา ทั้งความเข้มข้นและความหนืดของน้ำซุปครับ น่าจะทำมาพร้อมๆกัน เพราะในหม้อกระเพาะปลา มีหูฉลามปนมาด้วย 1 หูครับ รสชาติปกติทั้ง 2 หม้อนะครับ

               ต่อด้วยข้าวผัดปูจานกลาง เมนูนี้เทียบกับร้านอาหารจีนร้านอื่น เป็นจานกลางที่มีปริมาณค่อนข้างน้อยครับ ข้าวผัดมาไม่ค่อยร่วนเท่าไร มีเนื้อปูมาให้พบเห็นเป็นระยะในการตักข้าว รสชาติโดยรวมโอเคดีครับ แต่ในความรู้สึก ภัตตาคารเกสรข้าวผัดปูอร่อยกว่าครับ

                ปอเปี๊ยะพระจันทร์ เป็นเมนูที่ทานที่ไหนก็ไม่รู้สึกว่าอร่อยเท่าที่ร้านนี้สักครั้งครับ เป็นเมนูประจำครอบครัว ที่มากี่ครั้งก็ต้องสั่งทาน ด้วยความกรุบกรอบเบาๆด้านนอก และด้านในที่อัดแน่นไปด้วยกุ้ง ทานเปล่าๆ หรือจะจิ้มน้ำบ๊วย

               เป็ดปักกิ่ง เป็นเมนูที่คาดหวังเอาไว้ค่อนข้างมากครับ เพราะโดยส่วนตัว ครอบครัวไม่เคยทานเป็ดปักกิ่งที่นี่กันเลย ทานแต่เป็ดย่าง และพอได้ทานก็ค่อนข้างผิดหวังครับ ตัวแผ่นแป้ง ความหนาบางกำลังดี รสชาติโอเค แต่ด้วยหนังเป็ดไม่ค่อยกรอบ และน้ำจิ้มราด รสชาติคล้ายกับน้ำราดเป็ดย่าง ทำให้รู้สึกแปลกๆครับ อาจจะเพราะเคยชินกับการทานกับซีอิ๊วดำหวานมากกว่า ร้านเอี่ยวไถ่ ยังคงชนะในเมนูเป็ดปักกิ่งครับ ทั้งราคาและรสชาติ ส่วนเนื้อเป็ด เอาไปทำเป็นลาบ รสชาติออกมาจัดจ้าน เผ็ดถึงใจ ด้วยมีการซอยพริกขี้หนูสดลงไปในตัวลาบด้วย เมนูนี้ถูกใจแฟนและท่านแม่เป็นอย่างมากครับ

              โกยซีหมี่ไก่ เป็นเมนูที่ถ่ายไม่ทันครับ ด้วยวางไม่ทันไร ก็ตักกันเกือบหมดจานแล้ว เป็นอีกเมนูประจำของครอบครัว รสชาติเข้มข้นอร่อยครับ เส้นบะหมี่ทอดออกมากำลังดี ทานคู่กับน้ำราด หน่อไม้ และกุ๊ยช่ายขาว อร่อยทานกันเพลินๆครับ แปบเดียวหมดจาน

              ฟองเต้าหู้ทอด รสชาติอร่อยปกติดีครับ ทอดมาได้กรอบ ด้านในอ้ัดแน่นด้วยไส้กุ้ง เป็นเมนูโปรดของท่านแม่และแฟนอีกเช่นกัน มากี่ครั้งก็สั่งทานกันตลอด เช่นเดียวกับหม้อไฟจีน เป็นที่โปรดปรานของคนชอบทานของร้อนๆ แบบท่านแม่ ด้วยมีเครื่องที่ถูกใจอย่าง กระเพาะหมู เกี๊ยวกุ้ง ลูกชิ้นปลา ลูกชิ้นกุ้งและน้ำซุปเครื่องยาจีน ทานร้อนๆในหม้อไฟ ซดน้ำซุปคล่องคอ ท่านแม่บอกว่าทานแล้วสดชื่น

            กั้งทอดกระเทียม เป็นอาหารที่มิสเตอร์ทีขอรีเควสสั่งทันที่เห็นรายการอาหารในเมนู และเมื่อนำมาเสริฟ์ที่โต๊ะ ก็เรียกความสนใจของพวกเราได้ทุกคน แต่เมื่อได้ทำการชิม ก็ต้องชะงักเล็กน้อย ด้วยความเค็มติดลิ้นของเนื้อกั๊งทอดครับ ตรงนี้ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะกั้งมีการแช่น้ำเกลือมาก่อน หรือเป็นเพราะการปรุง กระเทียมทอดออกมาได้ดีอร่อยครับ ส่วนผักกาดดองยำ รสชาติอร่อยดีครับ มาช่วยตัดลดความเค็มในลิ้นได้พอสมควรครับ

              ส่วนของหวาน สาคูแคนตาลูป อร่อยดีครับ รสชาติไม่หวานมาก กลมกล่อมกำลังดีเลย และอัลมอนด์ชอคโรล ด้านบนอัดแน่นด้วยเนื้ออัลมอนด์ รสชาติไม่หวานมาก ด้านในเป็นเค้กชอคโกแลตรสชาติกลมกล่อม ทานแล้วเพลินดีครับ สุดท้ายเป็นเอแคลร์ ตัวแป้งนุ่มๆ ทานคู่กับเนื้อครีมอัดแน่นด้านใน อร่อยครับ รสชาติไม่หวานมาก

               สรุปสำหรับความคุ้มค่านะครับ สำหรับเมนูประจำครอบครัวเราชอบ ก็ยังคงคุ้มค่าในความรู้สึกเสมอครับ ส่วนเมนูที่สั่งมาลองใหม่ ก็คงลองแค่ครั้งนี้ครับ ครั้งหน้าคงไม่สั่งแล้ว รสชาติอร่อยของแต่ละท่านไม่เหมือนกันครับ แต่ถ้ามีโอกาสผ่านมาเส้นสุขุมวิท ไม่อยากให้พลาดที่จะมาลองทานอาหารจีนที่ร้านนี้กันสักครั้งนะครับ
                    

วันพุธที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2562

Garden View Resort จันทบุรี

                    โรงแรม Garden View Resort จันทบุรี เป็นโรงแรมที่พวกเรามาพักประจำทุกครั้งที่มาขึ้นเขาคิชฌกูฏ ถึงแม้จะอยู่ในตัวเมือง ห่างจากวัดกระทิงที่ทำการขึ้นเขาอยู่ประมาณ 30 กว่ากิโลเมตร แต่ด้วยความเงียบสงบ ห้องสะอาด มีลานจอดรถกว้าง และราคามิตรภาพ เพียงคืนละ 600 บาท ก็ทำให้เรามาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้จะไม่มีบริการอาหารเช้า

                   







                     จะมีค่ามัดจำกุญแจราคา 300 บาท ซึ่งเราสามารถมารับคืนได้ตอนคืนห้องพักนะครับ พวกเรานิยมที่จะใช้บริการในชั้นล่างฝั่งของตึกใหม่ ซึ่งสามารถนำรถไปจอดด้านหน้าห้องพักได้เลยครับ ฝั่งตรงข้ามของห้องพัก จะเป็นห้องฟิตเนส มีให้บริการเครื่องออกกำลังกาย จำพวก ลู่วิ่ง จักรยาน เวท และโต๊ะปิงปองครับ






                  ห้องพักมีให้เลือกทั้งแบบเตียงเดี่ยวและเตียงคู่ มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกพื้นฐานครบครับ ผ้าเช็ดตัว ทีวี ตู้เย็นขนาดเล็ก โทรศัพท์ภายใน ตู้เสื้อผ้า ไม้แขวนเสื้อ โต๊ะและเก้าอี้แต่งตัวรวมถึงมีเครื่องทำน้ำอุ่นไว้พร้อมครับ












                  ภายในห้องพัก มีขนาดกำลังดีเลยครับ ไม่ได้เล็กจนรู้สึกอึดอัดคับแคบ ด้านหลังมีประตูออกไปยังระเบียงด้านนอก ห้องน้ำสะอาด น้ำฝักบัวไหลแรง อาบน้ำ สระผมได้อย่างสบายใจ ถึงแม้จะไม่มีวิวอะไรให้ชมความสวยงาม แต่โรงแรมแห่งนี้ เหมาะสำหรับการมาพักผ่อน หลับได้อย่างสบายใจครับ ครั้งหน้าที่มาจังหวัดจันทบุรี พวกเราก็จะยังมาใช้บริการที่แห่งนี้ครับ

C.A.P. ณ ชุมชนริมน้ำจันทบูร

                   มาเที่ยวจังหวัดจันทบุรี สถานที่ศักดิ์สิทธ์ที่เป็นที่นับถือของสาธุชนชาวพุทธก็คือศาลสมเด็จพระเจ้าตากสิน และศาลหลักเมือง สำหรับชาวคริสต์ก็ต้องเป็นโบสถ์พระแม่ปฏิสนธินิรมล ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับชุมชนริมน้ำจันทบูร หลังจากเราสักการะศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินและศาลหลักเมือง เป็นที่เรียบร้อย เราก็ไม่พลาดที่จะไปชมความงามของโบสถ์พระแม่ปฏิสนธินิรมล ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณโรงเรียนสตรีมารดาพิทักษ์ โบสถ์แห่งนี้ขึ้นชื่อว่าเป็นโบสถ์วัดคาทอลิกที่เก่าและงดงามที่สุดในประเทศไทย




              หลังจากเดินชมความงามของโบสถ์ และถ่ายรูปเป็นที่เรียบร้อย เราก็มุ่งหน้าต่อไปยังชุมชนริมน้ำจันทบูร เมื่อปีที่แล้วหลังจากขึ้นเขาคิชฌกูฏพวกเราก็ได้มาที่นี่ แต่ด้วยเป็นวันจันทร์ ทำให้ภายในชุมชนมีร้านค้าเปิดจำหน่ายของกันค่อนข้างน้อย ปีนี้เรามากันในวันอาทิตย์ ทำให้ได้สัมผัสร้านค้าเปิดขายของเยอะขึ้น มีสินค้าของฝาก ของที่ระลึกมากมายให้เลือกซื้อกันครับ

               






           
                 และร้านค้าแห่งแรกที่ได้เงินจากพวกเราก็เป็นร้านขนมไข่ป้าไต๊ ภายในร้านทำการอบขนมกันใหม่ๆ ร้อนๆ เป็นที่นิยมของลูกค้าค่อนข้างมากนะครับ ในราคาถุงละ 20 บาท ตอนพวกเราไปถึง ต้องสั่งไว้ก่อน ประมาณ 30 นาที ถึงจะกลับมารับได้ ส่วนรสชาติ กรอบนอก นุ่มใน อร่อยสุดๆครับ ขอแนะนำว่า มาถึงที่นี่ไม่ควรพลาดที่จะชิม










                 หลังจากสั่งจองขนมกันแล้ว พวกเราก็มุ่งหน้าเดินเล่นต่อไปตามทางครับ ตั้งใจว่าจะไปทานก๋วยจั๊บป้าไหม ที่อยู่อีกฝั่งของชุมชนกันเลย
























                   หลังจากใช้เวลาเดินกันพักใหญ่ ด้วยมีการแวะดูของฝากกันตามทาง ร้านค้าต่อมาที่พวกเราแวะซื้อเป็นของฝากก็คือ โรงเจสมาคมผู้ปฏิบัติธรรมครับ หน้าโรงเจเป็นร้านค้าจำหน่ายอาหารเจหลากหลาย และที่แนะนำคือ ฟองเต้าหู้กรอบครับ รสชาติกรุบกรอบอร่อย เก็บไว้ทานได้นาน โดยจะมีจำหน่ายทั้งหมด 3 รสนะครับ รสดั้งเดิมไม่ปรุงแต่งอะไร รสใบมะกรูด และแบบปรุงสามรส 








                  ผ่านจากโรงเจ ก็เดินกันต่อไปตามทางอีกสักพัก เราก็มาถึงร้านก๋วยจั๊บป้าไหม ในตอนเช้าหน้าร้านจะมีขายขนมไทยและผัดเส้นจันทร์กุ้งใส่กล่องไว้จำหน่ายด้วยนะครับ ส่วนรสชาติก๋วยจั๊บ ต้องขอบอกว่า ไม่ควรพลาดครับ น้ำซุปหอมอร่อย ส่วนเส้นก๋วยจั๊บอันนี้ส่วนตัวไม่ค่อยปลื้มครับ เพราะไม่ค่อยเหนียวหนึบ แต่ก็สามารถเปลี่ยนใส่เส้นชนิดอื่นแทนได้นะครับ




                หลังจากกินก๋วยจั๊บกันเป็นที่เรียบร้อย พวกเราก็มีความเห็นตรงกันว่า อยากได้กาแฟอร่อยๆ และขนมเค้กรสชาติดีๆ กันสักหน่อย เพื่อนร่วมทริปทำการเปิดเสิร์ชหาข้อมูลทันทีครับ แล้วเราก็ได้พิกัดร้าน C.A.P (Cafe And People) ซึ่งอยู่ในระแวกชุมชุนริมน้ำจันทบูรพอดี ไม่รอช้าครับ มุ่งหน้าไปหากาแฟทานกัน แต่พวกเราก็หาร้านไม่เจอครับ ต้องโทรไปถามทางร้าน จึงทราบว่า ร้านอยูุ่ตรงข้ามกับร้านอาหาร ตน ละ ยำ





                      ภายในร้านจะมีที่ให้นั่ง 2 ส่วนนะครับ ภายในร้านมีเครื่องปรับอากาศ และด้านภายนอกร้าน ด้วยอากาศที่ค่อนข้างร้อน พวกเราจึงเลือกที่จะนั่งภายในตัวร้านดีกว่าครับ ภายในร้านตกแต่งแนว Loft ผนังปูนเปลือย ดูสวย คลาสติกดีครับ สิ่งแรกที่เรามุ่งหน้าไปหาก็คือ ตู้ขนมเค้กครับ ด้วยเรามาถึงเวลาประมาณ บ่าย 2 โมง เค้ก Red velvet ที่ขึ้นชื่อของทางร้าน จำหน่ายหมดไปแล้วครับ
















               หลังจากเลือกเค้กที่อยากทานกันเป็นที่เรียบร้อย สิ่งต่อมาก็คือการเลือกเครื่องดื่มครับ ทางพนักงานของร้านให้คำแนะนำเป็นอย่างดีมากๆครับ อธิบายเมนูแนะนำของทางร้าน รวมถึงบอกส่วนผสมสำคัญในแต่ละแก้ว เพื่อให้พวกเราตัดสินใจได้ง่ายขึ้น เรากับแฟนก็เลยสั่งเค้กมาทานกันคนละชิ้น พร้อมเครื่องดื่มคนละแก้ว ส่วนของเพื่อนร่วมทริป ถ่ายภาพไม่ท้ันนะครับ


C.A.P. Ice coffee

น้ำมะปี๊ด อัญชัน มะนาว

ชีสเค้ก

ชีสเค้ก มะปี๊ดและน้ำผึ้ง

ชีสเค้ก ชิ้นที่ 2

บราวนี่

                      สำหรับรสชาติตามความรู้สึกส่วนตัวของเรากับแฟนนะครับ ขอเริ่มจากเครื่องดื่ม กาแฟ C.A.P. Iced Coffee ซึ่งเป็นเครื่องด่ื่ม Signature ของทางร้าน รสชาติเข้มอร่อยครับ กาแฟมีความหอม นุ่ม ทานคู่กับไอศครีมวนิลาที่ Topping มาด้านบน เข้ากันเป็นอย่างดีครับ ส่วนของแฟนผู้แพ้คาเฟอีน เลยทานเป็นเมนู น้ำมะปี๊ด(ส้มจี๊ด) มะนาว อัญชัน รสชาติที่ได้รับ เปรี้ยวๆอมหวานเล็กน้อย ทานแล้วสดชื่นดีครับ

                            ชีสเค้กของทางร้าน ในราคาชิ้นละ 120 บาท รสชาติอร่อยกว่าที่คาดหวังไว้มากครับ เนื้อสัมผัสของชีสเป็นชีสเลยครับ ไม่ได้หลอกลวงกลายเป็นเนื้อบัตเตอร์เหมือนบางร้าน เป็นชีสเค้กที่อร่อยมากๆครับ แฟนจึงไม่รอช้าสั่งเพิ่มชิ้นที่ 2 ทันที ส่วนชีสเค้กมะปี๊ด+น้ำผึ้ง เมนูนี้ก็ไม่ได้เลวร้ายแต่อย่างใดนะครับ ออกแนวฟิวชั่นหน่อยๆ ด้วยมีความอมเปรี้ยวของส้มจี๊ด และหวานของน้ำผึ้ง ด้านบนยังมีรังผึ้งวางมาให้ด้วยครับ แต่ไม่ใช่ทางของเราสักเท่าไร ยังคงติดใจในรสชาติของชีสเค้กแบบปกติมากกว่าครับ

                            ด้วยส่วนตัวเป็นคนชอบทานบราวนี่มากครับ พอเห็นในตู้มีวางจำหน่าย  จึงพลาดไม่ได้ที่จะขอลองชิมสักชิ้นนึง บราวนี่ทางร้านก่อนเสริฟ์ทำการอุ่นมาให้ก่อน ทำให้เนื้อสัมผัสด้านบนกรอบ และด้านในร่วน จึงไม่ค่อยถูกใจเราสักเท่าไร เพราะส่วนตัวเป็นคนชอบทานบราวนี่แบบเนื้อหนึบๆ แต่รสชาติโดยรวมก็ทานได้ปกติดีครับ ถ้ามารอบหน้าคงจะต้องขอลองทานแบบไม่ต้องอุ่น สรุปร้านกาแฟ C.A.P. เป็นร้านที่คู่ควรต่อการแวะมาจิบกาแฟและทานขนมเค้กเป็นอย่างมากครับ เรียกว่าถ้ามีโอกาสผ่านมาที่จันทบุรีครั้งหน้า ต้องแวะมาทานอย่างแน่นอนครับ 

                         หลังจากออกจากร้านกาแฟ พวกเราก็มุ่งหน้ากลับไปเอารถที่จอดไว้ที่โบสถ์พระแม่ปฏิสนธินิรมล และไม่ลืมแวะไปรับขนมไข่ป้าไต๊ที่ทำการสั่งไว้ ฝั่งตรงข้ามร้านขนมไข่ก็เป็นร้านขายผลไม้ดอง มะม่วงกวน รสชาติอร่อยดีครับ นานๆจะเจอมะม่วงกวนรสชาติอมเปรี้ยวนิดๆ จึงไม่พลาดที่จะติดไม้ติดมือกลับเป็นของฝากคนที่บ้านครับ


บทความที่ได้รับความนิยม