มาเที่ยวจังหวัดจันทบุรี สถานที่ศักดิ์สิทธ์ที่เป็นที่นับถือของสาธุชนชาวพุทธก็คือศาลสมเด็จพระเจ้าตากสิน และศาลหลักเมือง สำหรับชาวคริสต์ก็ต้องเป็นโบสถ์พระแม่ปฏิสนธินิรมล ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับชุมชนริมน้ำจันทบูร หลังจากเราสักการะศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินและศาลหลักเมือง เป็นที่เรียบร้อย เราก็ไม่พลาดที่จะไปชมความงามของโบสถ์พระแม่ปฏิสนธินิรมล ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณโรงเรียนสตรีมารดาพิทักษ์ โบสถ์แห่งนี้ขึ้นชื่อว่าเป็นโบสถ์วัดคาทอลิกที่เก่าและงดงามที่สุดในประเทศไทย
หลังจากเดินชมความงามของโบสถ์ และถ่ายรูปเป็นที่เรียบร้อย เราก็มุ่งหน้าต่อไปยังชุมชนริมน้ำจันทบูร เมื่อปีที่แล้วหลังจากขึ้นเขาคิชฌกูฏพวกเราก็ได้มาที่นี่ แต่ด้วยเป็นวันจันทร์ ทำให้ภายในชุมชนมีร้านค้าเปิดจำหน่ายของกันค่อนข้างน้อย ปีนี้เรามากันในวันอาทิตย์ ทำให้ได้สัมผัสร้านค้าเปิดขายของเยอะขึ้น มีสินค้าของฝาก ของที่ระลึกมากมายให้เลือกซื้อกันครับ
และร้านค้าแห่งแรกที่ได้เงินจากพวกเราก็เป็นร้านขนมไข่ป้าไต๊ ภายในร้านทำการอบขนมกันใหม่ๆ ร้อนๆ เป็นที่นิยมของลูกค้าค่อนข้างมากนะครับ ในราคาถุงละ 20 บาท ตอนพวกเราไปถึง ต้องสั่งไว้ก่อน ประมาณ 30 นาที ถึงจะกลับมารับได้ ส่วนรสชาติ กรอบนอก นุ่มใน อร่อยสุดๆครับ ขอแนะนำว่า มาถึงที่นี่ไม่ควรพลาดที่จะชิม
หลังจากสั่งจองขนมกันแล้ว พวกเราก็มุ่งหน้าเดินเล่นต่อไปตามทางครับ ตั้งใจว่าจะไปทานก๋วยจั๊บป้าไหม ที่อยู่อีกฝั่งของชุมชนกันเลย
หลังจากใช้เวลาเดินกันพักใหญ่ ด้วยมีการแวะดูของฝากกันตามทาง ร้านค้าต่อมาที่พวกเราแวะซื้อเป็นของฝากก็คือ โรงเจสมาคมผู้ปฏิบัติธรรมครับ หน้าโรงเจเป็นร้านค้าจำหน่ายอาหารเจหลากหลาย และที่แนะนำคือ ฟองเต้าหู้กรอบครับ รสชาติกรุบกรอบอร่อย เก็บไว้ทานได้นาน โดยจะมีจำหน่ายทั้งหมด 3 รสนะครับ รสดั้งเดิมไม่ปรุงแต่งอะไร รสใบมะกรูด และแบบปรุงสามรส
ผ่านจากโรงเจ ก็เดินกันต่อไปตามทางอีกสักพัก เราก็มาถึงร้านก๋วยจั๊บป้าไหม ในตอนเช้าหน้าร้านจะมีขายขนมไทยและผัดเส้นจันทร์กุ้งใส่กล่องไว้จำหน่ายด้วยนะครับ ส่วนรสชาติก๋วยจั๊บ ต้องขอบอกว่า ไม่ควรพลาดครับ น้ำซุปหอมอร่อย ส่วนเส้นก๋วยจั๊บอันนี้ส่วนตัวไม่ค่อยปลื้มครับ เพราะไม่ค่อยเหนียวหนึบ แต่ก็สามารถเปลี่ยนใส่เส้นชนิดอื่นแทนได้นะครับ
หลังจากกินก๋วยจั๊บกันเป็นที่เรียบร้อย พวกเราก็มีความเห็นตรงกันว่า อยากได้กาแฟอร่อยๆ และขนมเค้กรสชาติดีๆ กันสักหน่อย เพื่อนร่วมทริปทำการเปิดเสิร์ชหาข้อมูลทันทีครับ แล้วเราก็ได้พิกัดร้าน C.A.P (Cafe And People) ซึ่งอยู่ในระแวกชุมชุนริมน้ำจันทบูรพอดี ไม่รอช้าครับ มุ่งหน้าไปหากาแฟทานกัน แต่พวกเราก็หาร้านไม่เจอครับ ต้องโทรไปถามทางร้าน จึงทราบว่า ร้านอยูุ่ตรงข้ามกับร้านอาหาร ตน ละ ยำ
ภายในร้านจะมีที่ให้นั่ง 2 ส่วนนะครับ ภายในร้านมีเครื่องปรับอากาศ และด้านภายนอกร้าน ด้วยอากาศที่ค่อนข้างร้อน พวกเราจึงเลือกที่จะนั่งภายในตัวร้านดีกว่าครับ ภายในร้านตกแต่งแนว Loft ผนังปูนเปลือย ดูสวย คลาสติกดีครับ สิ่งแรกที่เรามุ่งหน้าไปหาก็คือ ตู้ขนมเค้กครับ ด้วยเรามาถึงเวลาประมาณ บ่าย 2 โมง เค้ก Red velvet ที่ขึ้นชื่อของทางร้าน จำหน่ายหมดไปแล้วครับ
หลังจากเลือกเค้กที่อยากทานกันเป็นที่เรียบร้อย สิ่งต่อมาก็คือการเลือกเครื่องดื่มครับ ทางพนักงานของร้านให้คำแนะนำเป็นอย่างดีมากๆครับ อธิบายเมนูแนะนำของทางร้าน รวมถึงบอกส่วนผสมสำคัญในแต่ละแก้ว เพื่อให้พวกเราตัดสินใจได้ง่ายขึ้น เรากับแฟนก็เลยสั่งเค้กมาทานกันคนละชิ้น พร้อมเครื่องดื่มคนละแก้ว ส่วนของเพื่อนร่วมทริป ถ่ายภาพไม่ท้ันนะครับ
|
C.A.P. Ice coffee |
|
น้ำมะปี๊ด อัญชัน มะนาว |
|
ชีสเค้ก |
|
ชีสเค้ก มะปี๊ดและน้ำผึ้ง |
|
ชีสเค้ก ชิ้นที่ 2 |
|
บราวนี่ |
สำหรับรสชาติตามความรู้สึกส่วนตัวของเรากับแฟนนะครับ ขอเริ่มจากเครื่องดื่ม กาแฟ C.A.P. Iced Coffee ซึ่งเป็นเครื่องด่ื่ม Signature ของทางร้าน รสชาติเข้มอร่อยครับ กาแฟมีความหอม นุ่ม ทานคู่กับไอศครีมวนิลาที่ Topping มาด้านบน เข้ากันเป็นอย่างดีครับ ส่วนของแฟนผู้แพ้คาเฟอีน เลยทานเป็นเมนู น้ำมะปี๊ด(ส้มจี๊ด) มะนาว อัญชัน รสชาติที่ได้รับ เปรี้ยวๆอมหวานเล็กน้อย ทานแล้วสดชื่นดีครับ
ชีสเค้กของทางร้าน ในราคาชิ้นละ 120 บาท รสชาติอร่อยกว่าที่คาดหวังไว้มากครับ เนื้อสัมผัสของชีสเป็นชีสเลยครับ ไม่ได้หลอกลวงกลายเป็นเนื้อบัตเตอร์เหมือนบางร้าน เป็นชีสเค้กที่อร่อยมากๆครับ แฟนจึงไม่รอช้าสั่งเพิ่มชิ้นที่ 2 ทันที ส่วนชีสเค้กมะปี๊ด+น้ำผึ้ง เมนูนี้ก็ไม่ได้เลวร้ายแต่อย่างใดนะครับ ออกแนวฟิวชั่นหน่อยๆ ด้วยมีความอมเปรี้ยวของส้มจี๊ด และหวานของน้ำผึ้ง ด้านบนยังมีรังผึ้งวางมาให้ด้วยครับ แต่ไม่ใช่ทางของเราสักเท่าไร ยังคงติดใจในรสชาติของชีสเค้กแบบปกติมากกว่าครับ
ด้วยส่วนตัวเป็นคนชอบทานบราวนี่มากครับ พอเห็นในตู้มีวางจำหน่าย จึงพลาดไม่ได้ที่จะขอลองชิมสักชิ้นนึง บราวนี่ทางร้านก่อนเสริฟ์ทำการอุ่นมาให้ก่อน ทำให้เนื้อสัมผัสด้านบนกรอบ และด้านในร่วน จึงไม่ค่อยถูกใจเราสักเท่าไร เพราะส่วนตัวเป็นคนชอบทานบราวนี่แบบเนื้อหนึบๆ แต่รสชาติโดยรวมก็ทานได้ปกติดีครับ ถ้ามารอบหน้าคงจะต้องขอลองทานแบบไม่ต้องอุ่น สรุปร้านกาแฟ C.A.P. เป็นร้านที่คู่ควรต่อการแวะมาจิบกาแฟและทานขนมเค้กเป็นอย่างมากครับ เรียกว่าถ้ามีโอกาสผ่านมาที่จันทบุรีครั้งหน้า ต้องแวะมาทานอย่างแน่นอนครับ
หลังจากออกจากร้านกาแฟ พวกเราก็มุ่งหน้ากลับไปเอารถที่จอดไว้ที่โบสถ์พระแม่ปฏิสนธินิรมล และไม่ลืมแวะไปรับขนมไข่ป้าไต๊ที่ทำการสั่งไว้ ฝั่งตรงข้ามร้านขนมไข่ก็เป็นร้านขายผลไม้ดอง มะม่วงกวน รสชาติอร่อยดีครับ นานๆจะเจอมะม่วงกวนรสชาติอมเปรี้ยวนิดๆ จึงไม่พลาดที่จะติดไม้ติดมือกลับเป็นของฝากคนที่บ้านครับ