Steve Cafe & Cuisine

               ในวันนี้เรามีนัดทานข้าวกับเพื่อนๆสมัยมหาลัย โดยมีโจทย์ที่ว่า เพื่อนที่มาจากต่างจังหวัดมาทำธุระแถวห้างตั้งฮั่วเส็ง ธนบุรี ทำให้ต้องควานหาร้านอาหารนั่งสบายๆ สามารถนั่งคุยกันได้เรื่อยๆ โดยจะต้องเดินทางไม่ไกลจากห้างตั้งฮั่วเส็งด้วย และเพื่อนผู้ทำหน้าที่ในการหาข้อมูลร้านอาหารเป็นอย่างดี ก็ได้เลือกร้าน Steve Cafe & Cuisine ร้านอาหารสไตล์โฮมเมด เป็นร้านที่ใช้บ้านริมน้ำ มาดัดแปลงเป็นร้านอาหาร โดยพิกัดอยู่ค่อนข้างลึกลับ สำหรับคนที่นำรถยนต์มา และต้องการมาทานอาหารร้านนี้ แนะนำให้จอดรถที่ วัดเทวราชกุญชร เพราะฉะนั้นสามารถตั้งเป้าหมายใน google map เป็นที่วัดได้เลยครับ

                 เมื่อขับเข้ามาภายในตัววัด ให้ขับเข้าไปตามทาง หลังจากเลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวา ก็จะพบกับลานจอดรถของทางวัด ซึ่งมีพอให้บริการ ยกเว้นทางวัดมีงาน อันนี้จะมีพี่เจ้าหน้าที่ภายในวัด ขี่มอเตอร์ไซด์มาคอยจัดหาที่จอดรถให้ครับ ค่าบริการ คันละ 40 บาท หลังจากจอดรถเสร็จเป็นที่เรียบร้อย ก็สามารถเดินไปยังร้านได้เลย หลังจากเดินไปตามทาง จนมาเกือบถึงท่าน้ำ ก็จะมองเห็นทางเข้าร้านครับ โดยก่อนเข้าไปยังส่วนของตัวร้านอาหาร จะต้องทำการถอดรองเท้าวางไว้ที่ชั้นถอดด้านหน้า

                  วันนี้เราทำการจองโต๊ะไว้แล้ว ในส่วนของด้านนอกริมน้ำ นับว่าเป็นโชคดีที่ฝนตกเกือบทั้งวัน ทำให้อากาศเย็นสบายๆ นั่งชมวิวริมแม่น้ำ เห็นสะพานพระราม 8 อย่างชัดเจน

สะพานพระราม 8

              หลังจากนั่งประจำโต๊ะแล้ว ทางน้องพนักงานจะนำเมนูมาให้เราทำการเลือกรายการอาหารนะครับ โดยเมนูจะมีรายการอาหารค่อนข้างจะหลากหลาย ส่วนใหญ่จะเป็นอาหารไทย โดยจะมีระบุบอกไว้ในเมนูว่า ที่นี่ไม่ใช้ผงชูรส และน้ำซุปในการประกอบอาหารจะใช้เป็นซุปผัก ไม่ใช่เป็นซุปกระดูกหมู ไก่ หรือวัว แต่อย่างใด ถ่ายเมนูแนะนำมาให้ดูเป็นบางรายการนะครับ เพราะค่อนข้างจะมีหลายหน้าเลย

                      หลังจากเปิดเมนูดูกันสักพัก พวกเราก็ทำการสั่งอาหารกันคนละอย่างสองอย่างครับ ตามด้วยข้าวเปล่า 1 โถ ทางร้านมีเมนูเครื่องดื่มค่อนข้างเยอะนะครับ โดยเฉพาะแบบมีแอลกอฮอล์ มีให้เลือกหลากหลายแบบเลยทีเดียว แต่ด้วยพวกเราขับรถมากันคนละคัน เลยสั่งน้ำเปล่าทานกัน ทางร้านมีน้ำผลไม้สด แต่ไม่มีน้ำปั่นนะครับ ถึงทางร้านจะออกตัวในเมนูแล้วว่า ที่นี่ทำอาหารกันแบบจานต่อจาน ทำให้อาหารอาจจะออกมาช้า แต่สำหรับพวกผมในวันนี้ ต้องบอกว่า อาหารออกมาไวมาก หลังจากทำการสั่งไม่ถึง 10 นาที อาหารก็ทะยอยออกมาเรื่อยๆ

น้ำเปล่า

ปูนิ่มทอดกระเทียม

ปลาสลิดทอด

กุ้งทอดซอสมะขาม

ยำถั่วพลู

ยำตะไคร้

กุ้งผัดสะตอ

หมูผัดกะปิ

                       หลังจากทานของคาวกันเสร็จแล้ว ก็มาถึงของหวาน ทางร้านมีเมนูเน้นไปทางไอศครีมโฮมเมด Low Fat และมีโยเกิร์ตให้เลือกทานนะครับ ของหวานไทยๆก็จะเป็นพวก สละลอยแก้ว ผลไม้สด และอีกหลากหลายรายการครับ

โยเกิร์ตบลูเบอรี่

ไอศครีมชอคโกแลต

ไอศครีมชอคโกแลต รัมเรซิน

                   สำหรับรสชาติอาหารนะครับ ตามความรู้สึกส่วนตัว รสชาติอร่อยแทบทุกจาน โดยเฉพาะยำตะไคร้ รสชาติจัดจ้านทานคู่กับใบชะพลูยิ่งเพิ่มความอร่อยครับ อาหารทุกเมนูที่มีการใส่กุ้ง ทางร้านใช้กุ้งไซด์ใหญ่นะครับ ทานแล้วเต็มปากเต็มคำ เนื้อกุ้งมีความสด อร่อยเป็นอย่างมาก เมนูหมูผัดกะปิ รสชาติออกไปทางค่อนข้างหวาน ยังไม่เข้มข้น และเมนู กุ้งผัดสะตอก็เช่นกันครับ รสชาติอ่อนไปสักนิด

                      กุ้งราดซอสมะขาม ตัวกุ้งทอดมาได้กรอบกำลังดี ราดซอสเน้นออกทางเปรี้ยว ทานแล้วก็อร่อยดีครับ เมนูปูนิ่มทอดกระเทียมก็เป็นปูนิ่มตัวใหญ่ มีเนื้อให้ได้ลิ้มรสสัมผัส ยำถั่วพลู จริงๆเมนูนี้ผมอ่านมาจากรีวิวจากท่านอื่นว่าอร่อย เลยทำการสั่งตามครับ เรียกว่าเตรียมมาจากบ้านเลย แต่พอทานแล้ว กลับรู้สึกเฉยๆครับ ไม่โดนสักเท่าไร

                      ส่วนของหวาน ชอคโกแลตรัมเรซิน อร่อยมากครับ ส่วนของไอศครีมรสชาติอร่อยเข้มข้นมาก ทำให้รู้สึกว่า โยเกิร์ตอร่อยไม่เท่าไอศครีมกันเลยครับ

                       สรุปค่าเสียหายมื้อนี้ประมาณ 2,415 บาทครับ ราคาไม่ได้แพงจนเกินไป ถ้าเทียบกับร้านอาหารริมแม่น้ำเจ้าพระยาส่วนใหญ่ นับว่าเป็นร้านที่ราคาน่าคบหา บรรยากาศดี รสชาติอาหารอร่อย และนั่งสบายครับ สามารถนั่งพูดคุยกับเพื่อน ไปได้เรื่อยๆ ยุงพอมีบ้างแต่ไม่มาก แต่ติดอยู่ที่การให้ถอดรองเท้าที่ทางเข้าหน้าร้านครับ ด้วยโต๊ะที่พวกเราได้นั่งทาน ค่อนข้างจะอยู่ตรงกับชั้นถอดรองเท้า และมีการเปิดพัดลมเป่ามาทางโต๊ะ ทำให้มีกลิ่นรองเท้าลอยมาเป็นช่วงๆ สำหรับคนที่ค่อนข้างไวกับกลิ่น อาจจะทำให้มีอาการได้ครับ ถ้าทางร้านหาทางปรับให้ชั้นวางมีที่ปิดกันกลิ่น หรือเขยิบออกมาให้ห่างจากส่วนของที่นั่งทานอาหารอีกสักนิด ก็จะดีเยี่ยมเลยครับ

Real Ichi - มินิรีวิว 22/4/61

               ร้านอาหารญี่ปุ่นแบบบุฟเฟ่ต์ ที่ยังคงรักษาคุณภาพวัตถุดิบและการให้บริการอย่างดี ครองใจคนที่บ้านเราอย่างต่อเนื่อง ก็ยังคงเป็นร้าน Real Ichi ซึ่งปกติ จะไปทานปีละประมาณ 5-7 ครั้ง ตามโอกาสต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเลี้ยงวันเกิด วันรวมตัวญาติ รวมถึงวันเกิดอยากจะกินด้วยเช่นกันครับ และคนที่ติดใจร้านนี้เป็นพิเศษ กับกลายเป็นท่านแม่ ผู้ซึ่งไม่ทานของดิบ แต่เนื่องด้วยติดใจในรสชาติของสลัดปลาเงินทอด กุ้งเทมปุระ น้ำจิ้มซีฟู้ด และเมนูของปิ้งย่างที่นี่ โดยเฉพาะเมนูสลัดปลาเงินทอด และกุ้งเทมปุระ ถึงแม้จะไปทานมาแล้วหลายที่ หลายร้าน ก็ยังมีความรู้สึกว่าที่นีี่อร่อยที่สุดครับ สำหรับคนทานปลาดิบ เนื้อปลาแซลมอนดีลักซ์ ช่วงท้อง ก็ยังคงละลายในปาก ความหวาน อร่อยของเนื้อปลาแซลมอน ยังครองใจได้เหนือร้านอาหารบุฟเฟ่ต์ญี่ปุ่นร้านอื่นๆอยู่ดีครับ อาจจะเป็นไปด้วยราคาของบุฟเฟ่ต์ที่อาจจะอยู่ในราคาหลักเกือบ 800 กว่าบาท เมื่อทำการรวมเครื่องดื่ม ค่าบริการเซอร์วิจชาร์ต และภาษี ทำให้ร้าน Real Ichi ยังคงรักษาคุณภาพอาหารไว้ได้ครับ

            

               วันนี้ครอบครัวเรามากันประมาณ 15 คน ในตอนแรกตั้งใจจะจองโต๊ะแยกเป็นกลุ่มละ 4 คนและ 3 คน เพื่อความสะดวกในการปิ้งย่าง เพราะถ้าเกิน 4 คนต่อโต๊ะแล้วใช้เพียงเตาเดียว จะค่อนข้างลำบากในการทาน ทางน้องพนักงานแนะนำว่า ใช้บริการเป็นห้อง VIP เลยดีกว่า น่าจะมีความเป็นสัดส่วนและส่วนตัวมากกว่า ทางเราก็เลยตกลงตามที่น้องพนักงานนแนะนำครับ

                 ปกติทางร้านเปิดให้บริการในเวลา 11.30 น. แต่ด้วยพวกเราทำบุญกันเสร็จเร็ว ทำให้มาถึงร้านอาหารไวกว่าเวลาประมาณ 10 นาที และด้วยเรามีผู้สูงอายุ ทางน้องพนักงานใจดี ให้เข้ามานั่งรอเวลาเปิดร้านที่ภายในร้านได้ก่อนครับ เมื่อพอถึงเวลาใกล้เปิดร้าน ก็จะเริ่มทำการวางอุปกรณ์ในการทาน จาน ช้อน ตะเกียบ ที่คีบปิ้งย่าง มาวางไว้ให้บริการ พร้อมทั้งนำเมนูมาให้เลือกว่าจะทานราคาไหน ระหว่าง 699 และ 899 บาท

                 จะเห็นได้ว่า ห้อง VIP จะเป็น 2 ห้องกั้นด้วยฉากประตูครับ ซึ่งถ้าเราใช้บริการพร้อมกัน 2 ห้อง สามารถเปิดตรงส่วนกลางกั้นออก เชื่อมต่อกันได้ครับ ด้านหน้าของห้องจะไม่มีประตูปิดนะครับ มีเพียงผ้าม่านขนาดเล็กด้านบนเท่านั้น เพื่อความสะดวกในการเรียกน้องพนักงานครับ

                หลังจากสอบถามทางเจ้าภาพ วันนี้เราจึงทานกันในราคาบุฟเฟ่ต์ท่านละ 699 บาท ครับ โดยเมนูเครื่องดื่มสุดฮิตก็คงไม่พ้น น้ำชาเขียว ที่สามารถรีฟิลได้ โดยมีทั้งแบบร้อน และแบบเย็น หลังจากแจ้งราคาบุฟเฟ่ต์แล้ว สิ่งที่นำมาเสริฟ์ก็จะเป็น น้ำจิ้ม และซุปมิโสะครับ

เมนูสำหรับราคา 699

เตาสามารถเลือกที่จะเปิด หรือปิดได้นะครับ

น้ำจิ้มซีฟู้ด และน้ำจิ้มพอนสึ

มะนาวสด

ซุปมิโสะ

ชาเขียวเย็น

                 การสั่งอาหารก็ยังคงเป็นแบบเดิมนะครับ มีใบรายการมาให้เราทำการเลือก โดยสังเกตจากหมายเลขรหัสอาหารในการสั่ง ตรงนี้ต้องระวังด้วยนะครับ อย่าทำเครื่องหมายสั่งจำนวนจานผิดเบอร์ เพราะอาจจะได้รายการอาหารที่ไม่ได้ต้องการสั่งได้ครับ หลังจากการสั่งเสร็จแล้วก็สามารถส่งใบรายการอาหารไปยังน้องพนักงาน เพื่อทำการป้อนรายการลงคอม สำหรับสั่งตรงไปยังแผนกห้องครัว ใช้เวลาเพียงไม่นาน รายการอาหารที่เราทำการสั่งก็ทะยอยออกมาเสริฟ์ครับ อันนี้จะเป็นรายการอาหารของเฉพาะโต๊ะฝั่งเรานะครับ ทานกัน 7 คน 

เตาไฟพร้อมย่าง

หมูสามชั้นต้นหอม

หอยหวานและปลาหมึกสด

ยำปลาหมึก และปลาเงินทอด

ขิงดอง

กุ้งหิน

ยำสาหร่าย

เริ่มละเลงปิ้งย่างกันครับ

เห็ดออรินจิ

กิมจิ

สันคอหมู และหมูสามชั้นต้นหอม

สลัดซีฟู้ดสไปซี่

สลัดปลาเงิน

รวมมิตร โรลหลายรายการครับ

ซูชิ

กุ้งเทมปุระ

ปลาดิบ

ซูชิเซท 2

ซาซิมิ เซท2

ของหวาน

                   อาหารแทบทุกรายการยังคงคุณภาพความอร่อย และความสด ไว้ได้เช่นเดิมครับ กุ้งหินมีความสดมาก ย่างไฟอ่อนๆ ตัวเนื้อกุ้งเด้งมาก ทานแล้วอร่อยสุดๆ ปลาหมึกในจานแรกๆก็หั่นมาชิ้นใหญ่ หนา ย่างแล้วอร่อยสุดๆ ในช่วงหลังเริ่มได้ชิ้นเล็กลง แต่ก็ยังรสชาติคงเดิมครับ หมูสามชั้นต้นหอม เวลาย่างแล้วจะอร่อยกว่าสันคอหมูครับ เพราะสันคอหมูย่างแล้วจะค่อนข้างเหนียวกว่า สำหรับปลาดิบ รสชาติยังคงสด อร่อย หวานเช่นเดิมครับ สำหรับคนไม่ทานดิบ สามารถนำมาย่างไฟ แล้วขอน้ำจิ้มซอสหวาน สำหรับมาราดปลาแซลมอน ปลาซาบะ หลังย่างเสร็จได้ด้วยนะครับ รสชาติอร่อยมาก

                   สำหรับของหวาน พุดดิ้งเสาวรส รู้สึกว่าปริมาณในถ้วยลดลงครับ แต่ก็ไม่ใช่ปัญหา เนื่องจากเราสามารถสั่งเพิ่มเติมได้ตลอดอยู่แล้ว เรียกว่าเป็นการดีสำหรับคนที่อยากลองทาน เกิดไม่ถูกใจก็สามารถรับผิดชอบได้น้อยลง ไม่ต้องฝืนทานให้หมดทั้งแก้ว และก็มีไอศครีมหลายรส โดยจะมีรสชาติพิเศษในแต่ละเดือน ให้เลือกทานด้วยนะครับ ในวันนี้ไม่ได้ถ่ายมาครับ

                 สรุปความคุ้มค่าในความเห็นส่วนตัว ก็ยังรู้สึกว่าคุ้มค่า และรู้สึกสบายใจทุกครั้งที่มาทานที่ร้านนี้ ถึงแม้ราคาอาจจะสูงกว่าเมื่อเทียบกันร้านอื่นหลายร้าน แต่ด้วยความถูกใจในรสชาติและคุณภาพ ทำให้ร้าน Real Ichi ยังคงเป็นร้านประจำของครอบครัวเราครับ แต่รอบหน้าคงไม่ขอใช้บริการห้อง VIP ครับ ถึงแม้ว่าจะมีความส่วนตัว และให้บริการฟรี แต่ด้วยอากาศครับ ในห้องค่อนข้างร้อนมาก และยิ่งทำการปิ้งย่างด้วย ทำให้อากาศยิ่งร้อนเข้าไปอีก โดยเฉพาะคนที่นั่งทานติดด้านในกำแพง แอร์ด้านบนจะไม่ได้ตกลงมา และเครื่องปรับอากาศภายในห้อง ไม่สามารถปรับอุณหภูมิหรือเปลี่ยนแปลงค่าตั้งค่าอะไรได้เลยครับ

Masaru Shabu and Sushi Buffet

              กระแสร้านอาหารบุฟเฟ่ต์ Masaru Shabu and Sushi Buffet จริงๆมีมานานล่ะนะครับ น่าจะเกือบ 2-3 ปีที่แล้วได้เลย เริ่มจากสาขาที่เปิดตัวอลังการที่ CDC มีลูกค้าไปต่อคิวใช้บริการเป็นจำนวนมาก มีหลายหลายคนไปทำรีวิว และแนะนำว่า เป็นร้านบุฟเฟต์อาหารญี่ปุ่นที่คุ้มค่าน่าไปใช้บริการกันล้นหลาม จวบจนกระแสลูกค้าแห่กันไปมากมาย และก็เริ่มมีหลายเสียงบอกว่าคุณภาพลดลงไม่เหมือนเดิม

            วันนี้เรามาทำการปล่อยปลากันที่พุทธมณฑล ร้านก๋วยเตี๋ยวนายเงี๊ยบที่ทานกันประจำ ก็หยุดทำการในช่วงสงกรานต์ ท่านแม่อยากทานน้ำซุปร้อนๆ พี่ชายอยากกินอาหารญี่ปุ่น ความลงตัวในการทานร้านนี้ก็เลยออกมา จึงตัดสินใจไปทานกันที่สาขา The Walk ราชพฤกษ์ ในตอนแรกก็กังวลว่าต้องรอคิวนานหรือเปล่า เพราะมาใช้บริการในช่วงใกล้เที่ยง ทานร้านปกติจะสามารถใช้ Application Que Q ในการจองคิวได้นะครับ แต่ก็ต้องเข้าไปใกล้รัศมีร้านประมาณ 2 กิโล เมื่อมาถึงแถวหน้าห้าง The walk ก็พบว่าไม่สามารถจองคิวได้ เนื่องจากมี 0 คิวก่อนหน้า แปลว่าร้านต้องว่างล่ะครับ ร้าน Masaru ตั้งอยู่บนชั้น 2 เหมือนสาขาที่ CDC เลยครับ 

หน้าร้านมีแนะนำเมนูอาหารและโปรโมชั่น

           เวลาที่เรามาถึงภายในร้านยังคงมีโต๊ะว่างเหลือค่อนข้างเยอะครับ ทำให้ยังคงสามารถเลือกที่นั่งได้ตามความชอบ เราเลือกที่นั่งใกล้กับเคาน์เตอร์ขนมหวาน ตั้งใจว่าน่าจะลุกไปสั่งหลายรอบ ระหว่างรอพนักงานทำการจัดเตรียมโต๊ะที่นั่ง ก็เดินไปสำรวจรอบๆร้านกันก่อนครับ

เคาน์เตอร์สำหรับชำระเงิน

บรรยากาศภายในร้าน

ไข่ไก่สด

ผักสดและเครื่องเคียง

เห็ดหลากหลาย

ขนมหวานและผลไม้

ฟองดู เยลลี่

โซนเครื่องดื่ม

เคาน์เตอร์ของหวาน

เครปรสชาติต่างๆ

วาฟเฟิลไอศครีมรสชาติต่างๆ

                     หลังจากน้องพนักงานจัดเตรียมอุปกรณ์ในการทานอาหาร น้ำจิ้ม และแก้วน้ำสำหรับท่านละ 1 ใบ มาวางไว้พร้อมที่โต๊ะ ก็จะทำการสอบถามว่า เราต้องการทานแบบเซ็ทไหน แบบปกติ จะราคาที่ 690 ถ้าเพิ่มอีกท่านละ 50 บาทก็จะได้รับเมนูต้มยำและรายการอาหารที่เพิ่มขึ้นครับ

น้ำจิ้มและเครื่องปรุงน้ำจิ้ม

บนโต๊ะด้านในจะมีวางพริกกระเทียม มะนาวไว้พร้อมให้บริการ

จาน ตะเกียบ ช้อน และแก้วน้ำ

เมนูเพิ่มสำหรับลูกค้าที่เพิ่มราคา

                    ด้วยความหิวกันในระดับธรรมดา ก็เลยเลือกเมนูปกติ คนละ 690 บาท จากนั้นน้องพนักงานก็บอกว่า มีแผ่นกระดาษอยู่ในถ้วย สามารถนำมาเลือกติ๊กรายการสั่งได้เลยครับ โดยสามารถดูภาพประกอบได้ในเมนู และสอบถามว่าเราต้องการน้ำซุปแบบใด

รายการซูชิ

รายการเมนู

เมนู

รายละเอียดกติกาในการทานอาหาร

คลิปสำหรับนำไปวางในการสั่งขนมหวานที่เคาน์เตอร์

                      หลังจากทำการเขียนรายการอาหารที่ต้องการแล้ว เราก็สามารถส่งกระดาษให้กับน้องพนักงานนำไปคีย์ออเดอร์รายการอาหารของเราลงคอม จากนั้นก็นั่งรออาหารกันครับ ระหว่างนี้สามารถไปตักเครื่องดื่มกันก่อน โดยที่หน้าที่ตักน้ำแข็งจะมีการแจ้งเตือน ให้ใช้ที่ตักน้ำแข็ง ห้ามใช้แก้วน้ำลงไปตักน้ำแข็งขึ้นมา ถ้าหากทำแก้วแตก จะต้องชดใช้ค่าน้ำแข็งทั้งหมดภายในถังนะจ๊ะ เวลาผ่านไปประมาณ 5 นาที รายการของสดที่สั่งและหม้อน้ำซุปก็มาวางพร้อมที่โต๊ะครับ สำหรับผักสดและพวกเครื่องเคียงอื่นๆ สามารถไปหยิบเองได้ที่เคาน์เตอร์นะครับ

                            

ซุปสุกี้และซุปใส

 

หมูสามชั้น

หมูสามชั้น

หมูสันนอก

หมูสันนอก

สันคอหมู

สันคอหมู

                  หลังจากที่เมนูของสดเริ่มออกมาเสริฟ์ รายการอาหารที่สั่งอย่างอื่นก็เริ่มทะยอยนำออกมาครับ ที่เราเลือกมาทานท่ี่ร้านนี้ ส่วนนึงก็มาจากซูชิและโรลไข่ปลาแซลมอน ที่สามารถสั่งกันได้ไม่อั้นครับ บางเมนูก็ต้องขออภัยที่จำชื่ออาหารไม่ได้นะครับ

สไปซี่แซลมอนโรล

ซูชิไข่ปลาแซลมอน ซูชิเนื้อเป็ดอบ

ไข่หวาน ปูอัด แซลมอนซาซิมิ

เทมากิไข่ปลาแซลมอน

ไข่ปลาแซลมอนเม็ดใหญ่ ให้มาเยอะพอสมควร

สลัดกุ้งทอด

เทมปุระกุ้ง

น้ำจิ้มเทมปุระ

ยำปลาแซลมอน

ซูชิ

เทมากิ ไข่ปลาแซลมอน และไข่กุ้ง

ใบแจ้งราคาและเวลาในการทานอาหาร

                  เมื่อจบอาหารคาวกันแล้ว ก็ต่อกันด้วยของหวานนะครับ อันนี้ควรเผื่อเวลาในการสั่งไว้สักประมาณ 15 นาทีในแต่ละเมนูนะครับ ยิ่งถ้าเป็นช่วงมีลูกค้าสั่งขนมกันเยอะ จะทำให้เราต้องใช้เวลาในการรอนานเพิ่มขึ้นไปอีกครับ

ชอคโกบราวนี่วาฟเฟิล

สตอเบอร์รี่บานาน่าเครป

มัจฉะบราวนี่เครป

บิงซูสตอเบอรี่

เสาวรส พานาคอตต้า

                ขอสรุปรสชาติอาหารตามความรู้สึกส่วนตัวนะครับ สำหรับเมนูชาบูอันนี้เฉยๆครับ รสชาติปกติไม่ได้มีอะไรโดดเด่น เนื่องด้วยพวกเราไม่ได้ทานเนื้อวัวกันนะครับ ทำให้สั่งวนเนื้อหมูกันอย่างเดียว หมูสามชั้น หมูสันคอ หมูสันนอก ทุกอย่างคุณภาพทานได้ปกติ ตัวน้ำจิ้มก็รสชาติปกติธรรมดา 

                 ต่อด้วยเมนูไข่ปลาแซลมอนทั้งแบบซูชิและแบบเทมากิ ก็รสชาติอร่อยดีครับ ตัวไข่ปลามาใหญ่และไม่ได้เค็มจนเกินไป ซูชิหน้าอื่นๆรสชาติปกติทานได้ ข้าวมาแน่นๆ ไม่มีเมนูไหนที่ติดใจโดดเด่นแต่อย่างใด แต่ที่รู้สึกแอบเครียดหนักก็จะเป็นซาซิมิแซลมอนครับ ความสดและรสชาติที่ได้รับ ธรรมดามากจนผิดหวังกับร้านอาหารญี่ปุ่นในราคาประมาณนี้ 

                    สำหรับเมนูเครื่องเคียงอื่นๆ สลัดกุ้งทอด ตัวน้ำสลัดที่ราดมาเค็มค่อนข้างมากครับ เรียกว่าผักสลัดนี่แทบจะทานไม่ได เค็มจริงๆ ยำแซลมอน ก็ใช้เศษเนื้อช่วงท้องของปลา อันนี้ความสดยังดีกว่าซาซิมิ รสชาติน้ำยำ ทานได้ปกติ เมนูอื่นๆก็รสชาติธรรมดาครับ

                     ปิดท้ายด้วยเมนูของหวานที่ค่อนข้างจะเป็นจุดเด่นของร้านอาหารบุฟเฟ่ต่์ญี่ปุ่น ที่ส่วนใหญ่จะมีขนมหวานให้เลือกทานไม่มาก แต่สำหรับร้านนี้ม่ีให้เลือกสั่งกันได้หลากหลายเมนู เครป วาฟเฟิล และบิงซู แต่รสชาติที่ได้ออกมา ก็ปกติธรรมดาครับ หลังจากการลองแล้วหลายจาน ไม่มีอะไรโดดเด่นพิเศษ บิงซูธรรมดาสุดๆ ทั้งน้ำซอสราด และตัวน้ำแข็ง โดยเฉพาะเสาวรสพานาคอตต้า รสชาติหนักใจมากครับ ตัวน้ำซอสมีกลิ่นเหม็น ต้องต้กน้ำซอสทิ้งทานแต่ตัวเนื้อพานาคอตต้าด้านล่างอย่างเดียว

                  สรุปความคุ้มค่าและคุณภาพของอาหารที่ทานในวันนี้ มาครั้งเดียวครับ ถูกใจแค่ไข่ปลาแซลมอนเพียงเมนูเดียว ส่วนอย่างอื่นธรรมดามาก ราคาต่อท่าน 690 บาท(เงินสด)  ไม่คุ้มค่ากับการกลับมาทานอีกครั้งครับ และเช่นเดิมครับสำรับร้านนี้ ถ้าชำระค่าอาหารด้วยบัตรเครดิต จะเป็นราคาต่อท่านที่ 710 บาท คิดแบบหยาบๆ ก็จะชาร์จประมาณ 3% จากราคาปกติครับ

ราคาค่าเสียหาย