ต้นน้ำ ริเวอร์วิว

           ต่อเนื่องจากทริปไหว้พระที่อยุธยาในช่วงเช้า หลังจากอิ่มบุญ เราก็ต้องหาอาหารอร่อยๆ เพื่อจะได้อิ่มท้องกันต่อ ในตอนแรกตั้งใจจะไปทานกันที่ร้าน ริมแมน้ำเจ้าพระยา แต่เมื่อโทรไปเพื่อจะทำการจองโต๊ะ กลับพบว่า "วันนี้ ร้านปิด ไม่ขายจ้า" งานเข้ากันเลยทีเดียว เลยต้องเสาะหา ร้านอาหารที่จะทานกันในเวลาช่วงเที่ยง แล้วก็มาโป๊ะแตกกันที่ร้าน ต้นน้ำ ริเวอร์วิว

         ที่มาของการตัดสินใจเลือกร้าน ต้นน้ำ ริเวอร์วิว เนื่องจากท่านแม่ได้ดูรายการทีวีรายการหนึ่ง นำเสนอพาไปทานที่ร้านนี้ เมนูเด็ดคือ กุ้งแม่น้ำเผา แกงส้ม และอาหารรสเด็ดอื่นๆอีกมากมาย เราจึงตัดสินใจตามรอยรายการทีวี มุ่งหน้าสู่ร้าน ต้นน้ำ ริเวอร์วิว ถึงแม้ว่าจะอยู่ไกลออกไปอีก 30 กิโลเมตร เพราะร้านอยู่แถวพระราชวังบางปะอิน เราก็ไม่ย่อท้อ เพื่ออาหารที่อร่อย และก่อนออกเดินทาง เพื่อความมั่นใจว่าร้านเปิดให้บริการ เราก็ทำการโทรไปจองโต๊ะเรียบร้อย

        เมื่อผ่านทางแยกเข้าพระราชวังบางปะอิน เราจะเริ่มสังเกตเห็นป้ายชื่อร้าน ขับตามป้ายเข้ามาสักอึดใจเดียว ก็จะพบกับ ลานจอดรถ

ที่จอดรถ ค่อนข้างกว้าง ไม่ต้องกังวลว่า จะไม่มีที่จอดรถนะคับ

เดินจากที่จอดรถ ก็จะเห็นป้ายเด่นสง่าด้านขวามือ 

สังเกตตรงป้ายด้านขวามือ ที่มีคำว่า กาแฟโบราณ นั่นคือ ที่ตั้งของร้านไอติมมะพร้าว พี่หลิน

               แล้วก็จะพบกับ ร้านกาแฟสดของทางร้านต้นน้ำ ริเวอร์วิว มีครบทั้งน้ำปั่น สมูทตี้ น้ำผลไม้ สามารถสั่งจากด้านในส่วนของร้านอาหารได้ มีเมนูเครื่องดื่มให้เลือกสั่งครับ

ผ่านจากร้านกาแฟ เราก็จะพบกับป้ายชื่อร้านอีกครั้งทางด้านซ้าย

            เดินเข้ามาภายในร้าน ก็จะพบกับส่วนของครัวเตรียมอาหารด้านขวา ด้านซ้ายมือจะเป็นโซนเผา ที่ตรงนี้ล่ะครับ ที่เค้าใช้เตาถ่านเผากุ้งแม่น้ำ ที่เจ้าของร้านบอกกับทางรายการทีวีว่า เป็นการใช้ไฟที่พอดิบพอดี กุ้งเผาจะได้รสชาติที่ออกมาอร่อย ไม่แห้งจนเกินไป

สังเกตเตาขวามือ จะมีกุ้งกำลังเผาอยู่ เค้าจะปิดฝาหม้อเอาไว้ ให้สุกกำลังพอดี

มีปลาน้ำเงินย่างซีอิ๊ว กับห่อหมกวางไว้บริการให้สั่งทานที่ร้าน หรือจะห่อกลับก็ได้

เมื่อจะก้าวเข้าสู่ภายในโซนที่นั่งทานอาหาร เราก็จะพบกับป้ายแนะนำอาหาร

ป้ายแสดงราคากุ้งแม่น้ำเผา เลือกสั่งกันได้ตามงบประมาณจ้า

                    หลังจากบอกชื่อที่ทำการจอง พนักงานก็จะให้เราเลือกนั่ง ว่าอยากที่จะนั่งในโซนของแพที่ลอยอยู่กลางน้ำ หรือว่าบนพื้นดิน เราตัดสินใจนั่งกินริมน้ำ บนพื้นดิน เนื่องด้วยผู้ร่วมทริปมีบางท่านเมาคลื่นได้ง่าย เราจึงไม่เสี่ยง

             

ส่วนของที่นั่งบนพื้นดิน

ส่วนสำหรับนั่งบนแพลอยอยู่กลางน้ำ

                  หลังจากได้ที่นั่งแล้ว ก็แวบเดินไปเข้าห้องน้ำ ด้านหน้าของห้องน้ำ มีตู้จำหน่ายอาหารปลาแบบหยอดเหรียญ ทางร้านมีบริการถังพร้อมทัพพีตักวางกองอยู่ในตะกร้า เราเพียงนำถังไปวางไว้ในช่องรับอาหารปลา จากนั้นหยอดเหรียญ 10 บาท จำนวน 1 เหรียญ แล้วอาหารปลาแบบเม็ดก็จะร่วงลงมาในถังของเราเกือบเต็ม

       

             เราเอาอาหารปลาไปให้ในบริเวณส่วนของที่นั่งริมน้ำ ตรงโซนบนพื้นดิน ก็เลยอาจะทำให้มีปลาจำนวนไม่มากมากินอาหาร แต่ก็ไม่มีอาหารเม็ดเหลือลอยน้ำ สักพักก็จะมีปลาน้อย ใหญ่่ มาจัดการกินจนเกลี้ยงผิวน้ำ เรียกว่า อาจจะให้แบบไม่สะใจ เหมือนตามแหล่งให้อาหารปลาอื่นๆ ที่ปลามากันพรึบพรั่บๆ โยนเป็นหายๆ

           หลังให้อาหารปลาเสร็จ ไปล้างมือ กลับมา อาหารก็เริ่มทะยอยออกมาเสิรฟ์กัน

ข้าวเปล่า 

ห่อหมกปลาช่อนใบเตย

ปลาเนื้ออ่อนทอดกรอบ

น้ำฉู่ฉี่

แกงส้มปลาช่อน ไข่ชะอม

ชาจีนร้อน

กุ้งแช่น้ำปลา

น้ำจิ้มซีฟู้ด

ไก่ห่อใบเตย

น้ำจิ้มไก่ห่อใบเตย

ผัดกะหล่ำปลีน้ำปลา

ทะเลผัดฉ่า

ลาบปลาช่อน

ทอดมันปลาอินทรีย์

ทอดมันกุ้งชุบแป้งทอด

ไอติมมะพร้าวอ่อน พี่หลิน 80 บาท/ลูก

ไอติมมะพร้าวอ่อน หลังจากลูกแรก จะไม่มีฝาด้านบนล่ะครับ ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน >_<

นมคาราเมล

                     ขอพูดถึงรสชาติอาหารทีเดียวล่ะกันนะครับ สำหรับอาหารในมื้อนี้ ขอเริ่มจากข้าวหอมมะลิ เป็นข้าวแบบทั่วไป ไม่ได้พิเศษอะไร เป็นปกติของร้านอาหารพื้นบ้าน เมนูแรกที่มาถึงก่อนเพื่อน ก็คือห่อหมกปลาช่อนใบเตย ยกมาเสริฟ์แบบร้อนๆ ค่อนข้างผิดหวังครับ เพราะรสชาติเผ็ดโดด รสชาติอย่างอื่นจืด ไม่เข้มข้น ตามติดด้วยเมนูฉู่ฉี่ปลาเนื้ออ่อน เมนูนี้น่าจะผิดพลาดจากการสั่งอาหารของทางเราเอง เพราะปกติ จะมาเป็นปลาเนื้ออ่อนที่ไม่ได้ทอดครับ แต่ทางเราได้เป็นแบบทอด แยกน้ำราด รสชาติก็แปลกไปอีกแบบ เนื้อปลาทอดออกมาได้กรอบ อร่อยครับ นำมาทานกับข้าวเปล่าก็เค็มกำลังดี ส่วนน้ำฉู่ฉี่ มาแนวรสชาติอ่อนมาก ไม่เข้มข้น

                    แกงส้มปลาช่อนไข่ชะอมทอด เมนูนี้ อยากบอกว่า เลวร้ายมากครับ ไข่ชะอมมาแบบอมน้ำมัน แหยะๆ เสมือนเป็นของเก่าที่ทอดไว้นาน และปลาช่อนเองก็เช่นกัน ไม่แตกต่างจากไข่ชะอม น้ำแกงส้มมาแบบเย็นเฉียบ ถึงแม้จะมาในหม้อที่มีไฟจากเจล ก็แทบไม่ช่วยอะไรให้ดีขึ้น (ตามปกติ จะเห็นว่าทำเดือดๆมาแล้ว เอามาใส่ในหม้อแล้วจุดไฟในเจล เพื่อให้ร้อนต่อเนื่องอีกสักพัก อันนี้เป็นสูตรพิเศษหรือเปล่า ที่ทำแบบเย็นๆ แล้วหวังว่าจะมาให้เดือดบนโต๊ะหลังจากใช้ไฟในเจล) น้ำแกงส้มรสชาติข้นเครื่องเทศ มาแบบข้นๆ แต่รสชาติไม่ได้กลมกล่อมครับ

                 กุ้งแช่น้ำปลา ทานคู่กับน้ำจิ้มซีฟู้ด ตัวกุ้งก็สดเป็นปกติดีครับ บางตัวใส บางตัวขุ่น ทานคู่กับน้ำจิ้มซีฟู้ดรสชาติ เผ็ดกลาง เปรี้ยว หวานกำลังดี เมนูนี้ผ่านครับ

               ไก่ห่อใบเตย เมนูที่มาแบบปราศจากความร้อน ไก่ที่อยู่ด้านในแห้งและค่อนข้างแข็งมาก น้ำจิ้มธรรมดา นำมาราดบนไก่ ก็ไม่ค่อยช่วยเพิ่มรสชาติอะไรมากมาย

               กะหล่ำปลีผัดน้ำปลา รสชาติเหมือนผัดผักกะหล่ำปลีทั่วไป ทะเลผัดฉ่า ทอดมันกุ้ง รสชาติธรรมดา ไม่ได้มีอะไรโดดเด่น

              ทอดมันปลาอินทรย์ เมนูนี้ผ่านครับ เนื้อทอดมัน เด้งกำลังดี ทอดออกมาชิ้นใหญ่ หนึบๆ รสชาติดีครับ

               ลาบปลาช่อน อีกเมนู ที่ตักใส่ปากคำแรกแล้วถึงกับเครียดครับ เพราะปลาช่อนที่ทอดมา เหมือนทอดมานาน เริ่มจะเหนียวและแห้ง รสชาติของน้ำลาบที่ราดด้านบนก็ไม่ได้เข้มข้น รสชาติจางๆของเครื่องลาบ

              บนโต๊ะอาหารจะมีป้ายไอศครีมมะพร้าวอ่อน แนะนำโดยพี่หลิน (ชื่อคุ้นๆไหมครับ ชื่อเดียวกับป้ายก่อนทางเข้าร้าน ต้นน้ำ ริเวอร์วิว ครับ) จะเสิรฟ์มาในลูกมะพร้าว ที่มีเนื้อด้านใน ให้ทานคู่กันได้ เราจึงไม่พลาดที่จะสั่งมาทาน โดยลองก่อนลูกนึง กันเหนียวครับ เจ็บมาค่อนข้างมาก จากเมนูอาหาร ปรากฏว่ารสชาติดี จึงสั่งมาซ้ำกันอีก 3 ลูกติด

             สำหรับเครื่องดื่ม เราสั่ง น้ำชาจีนร้อน ก็รสชาติปกติครับ พอทานน้ำหมดกา ด้วยความเคยชิน จึงขอน้ำร้อนเติม กาน้ำชาที่กลับมา เป็นน้ำร้อนใสแจ๋ว พอเปิดฝาดูตรงไส้กรอง ก็พบกับ .... ความว่างเปล่า... ไม่ได้มีใบชา หรือว่าถุงชาอะไรบรรจุอยู่ทั้งนั้น ด้วยความงง สอบถามพนักงานได้ความว่า ก่อนนำไปเติมก็เป็นเช่นนี้อยู่แล้ว ไม่ได้มีใบชาหรือถุงชา เท่ากับว่า น้ำชาร้อนที่นี่ น่าจะชงมาแล้วเทใส่กาให้นะครับ ด้วยความอยากลอง เมนูเครื่องดื่มของทางร้าน แต่ด้วยไม่อยากทานกาแฟ เลยเลือก นมคาราเมล รสชาติออกมาละมุน เนื้อวิปบางเบา อร่อยเพลิน แปบเดียวหมดแก้วครับ

            สรุป โดยความเห็นส่วนตัวของบรรดาสมาชิกในครอบครัวเรา ขอบอกว่าไม่ประทับใจครับ ผิดหวังกับรสชาติอาหารมาก แต่อาจจะเป็นเพราะเราไม่ได้สั่งอาหารขึ้นชื่อของทางร้าน กุ้งแม่น้ำเผา อันนี้เป็นความผิดของทางเราเอง เรียกว่าท่านแม่ถึงกับเงียบกริบต่างกับตอนก่อนมา ที่บรรยายความอร่อยมากมายของร้านอาหารตามรายการทีวีแนะนำ 

ปล. ขอย้ำอีกครั้งว่า เป็นความเห็นส่วนตัวครับ แต่ละคนชอบไม่เหมือนกัน