วันอังคารที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2566

ร้านอาหาร คีรีธารา รีทรีต

 

Cover

                      วันนี้เรามีโอกาสมาทำธุระที่จังหวัดกาญจนบุรี และในช่วงเวลาอาหารกลางวัน เราก็ตัดสินใจเลือกมาทานอาหารกันที่ ร้านอาหาร คีรีธารา รีทรีต ทางร้านตั้งอยู่ใกล้กับสะพานข้ามแม่น้ำแคว ประมาณ100เมตรนิดหน่อย ทางร้านมีที่จอดรถไว้ให้บริการพร้อม และมีให้บริการโต๊ะอาหารทั้งแบบด้านนอก ริมน้ำ ชมวิวสะพานและแม่น้ำ รวมถึงโต๊ะอาหารด้านในมีให้บริการเครื่องปรับอากาศ เย็นสบาย


ป้ายหน้าร้าน

ทางเข้าหน้าร้าน

บรรยากาศภายหน้าร้าน

โต๊ะการเงิน

บรรยากาศภายในร้าน

โต๊ะนั่งริมน้ำ

โต๊ะนั่งริมน้ำ

บรรยากาศริมน้ำ

บรรยากาศริมน้ำ

                          ถึงวันที่เราไปใช้บริการ แสงแดดจะค่อนข้างแรง ด้วยเป็นเวลาเที่ยงกว่าๆ แต่โต๊ะอาหารที่เราเลือกนั่งทาน อยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ พร้อมด้วยมีร่มใหญ่กลางคลุมโต๊ะไว้ ทำให้บรรยากาศโต๊ะอาหารริมน้ำ ให้ความร่มรื่น หลังจากที่ได้โต๊ะนั่งเป็นที่เรียบร้อย ทางน้องพนักงานก็นำเมนูอาหารมาให้เราทำการเลือกสั่งครับ

เมนู

อุปกรณ์ในการทานอาหาร

                        ทางน้องพนักงานให้บริการแนะนำเมนูอาหารได้เป็นอย่างดี ไม่แน่ใจว่าด้วยมีลูกค้ามาใช้บริการจำนวนยังไม่มาก หรือว่าทางห้องครัวปรุงอาหารได้เสร็จเร็ว ใช้เวลาไม่นานครับ ประมาณ 5-10 นาที เมนูอาหารทุกอย่างก็ทะยอยนำออกมาเสริฟ์จนครบครับ


น้ำเปล่า

ข้าวเปล่า

พริกน้ำปลา

เมี่ยงกลีบบัว

ยำวุ้นเส้นโบราณ

ไข่พระอาทิตย์

ต้มยำปลาคัง (เล็ก)

ปลาช่อนคีรี

                     สรุปรสชาติอาหารตามความเห็นส่วนตัวของเราสองคนนะครับ เริ่มจากเมี่ยงกลีบบัว รสชาติเหมือนเมี่ยงคำ เพียงแต่ใช้กลีบบัวแทนใบชะพลู ให้สัมผัสนุ่มละมุน ไม่เหนียว ไม่มีกลิ่นเขียวฉุนเหมือนใบชะพลู สัมผัสดี รสชาติอร่อย แต่เสียดายทางร้านใส่น้ำราดเยอะไปหน่อย 

                      ยำวุ้นเส้นโบราณ รสชาติเผ็ดกำลังดี ไม่ได้จัดจ้านเกินไป วุ้นเส้นทำออกมาได้ดี เหนียวนุ่ม กำลังลงตัว ไม่ได้เละ กุ้งแห้งรสชาติดีไม่เค็ม ทานรวมๆกันแล้ว อร่อยแบบเพลินๆ

                      ไข่พระอาทิตย์ เมนูไข่เจียวที่ด้านในมีกุ้งหั่นเป็นชิ้นและข้าวเหนียวด้านใน ตัวไข่เจียวกรอบด้านนอก นุ่มด้านใน เนื้อสัมผัสของกุ้งยังอยู่ครบ อร่อยดีครับ

                        ปลาช่อนคีรี เป็นเนื้อปลาที่นำไปชุบทอดมาได้กำลังดี ด้านนอกมีความกรอบเล็กน้อย เนื้อปลาด้านในยังมีความนุ่ม สัมผัสกำลังดี ไม่มีความแห้งกระด้างแต่อย่างใด เสริฟ์มาพร้อมผักสด และน้ำซอสราด ที่ปรุงออกมาผสมน้ำมะขาม ความเผ็ดไม่มาก แต่เสียดาย เราเจอก้างค่อนข้างเยอะไปหน่อย ถ้าเป็นเนื้อปลาที่ไม่มีก้างเลย จะเป็นอะไรที่วิเศษมากๆ

                           ต้มยำปลาคัง รสชาติน้ำต้มยำ ทำออกมาได้จัดจ้านกำลังดี สดชื่นเวลาทานน้ำซุปเป็นอย่างมาก เนื้อปลาคังมีความเด้ง สด หวาน ไม่มีกลิ่นคาวเลย ด้วยแฟนเป็นคนที่สัมผัสความคาวของเนื้อปลาได้ง่าย การันตีว่า ร้านนี้ไม่มีกลิ่นคาวอย่างใดเลย ประทับใจมากๆครับ

                    สรุปความคุ้มค่าของอาหารมื้อนี้นะครับ เมื่อเทียบปริมาณอาหาร คุณภาพอาหาร และความอร่อยที่ได้รับ กับราคาค่าอาหารแล้ว เราสองคนเห็นตรงกันว่า คุ้มค่าครับ มีโอกาสหน้ามาที่เมืองกาญฯอีก ก็จะกลับมาทานกันอีกอย่างแน่นอนครับ และถ้ามาทานในช่วงเวลาเย็น บรรยากาศน่าจะสวยงามไปอีกแบบ ชมสะพานข้ามแม่น้ำแคว อยู่ริมน้ำ กับแสงไฟครับ


บิลค่าเสียหาย


วันจันทร์ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2566

ร้าน ยอดลาบเป็ดอุดร

            



          ร้านยอดลาบเป็ดอุดร เป็นร้านอาหารอีสานอีกหนึ่งร้าน ที่มีสาขากระจายตัวอยู่ในกรุงเทพฯค่อนข้างมาก โดยเราเคยทานสาขาถนนพระรามเก้า มาเกือบๆ 20ปีที่แล้ว มาวันนี้ได้มาทำธุระที่แถวลำลูกกาคลอง 4 จึงตัดสินใจเข้าไปใช้บริการกันที่นี่


ป้ายหน้าร้าน

ลานจอดรถ

ทางเข้าไปยังภายในร้าน

ป้ายเมนูแนะนำ

ทางเข้าใช้บริการห้องปรับอากาศ

                โดยทางร้านมีลานจอดรถค่อนข้างกว้างขวาง ไว้ให้บริการลูกค้าเป็นอย่างดี ภายในร้านแบ่งเป็นโซนด้านนอก รับอากาศธรรมชาติ และด้านในเป็นห้องปรับอากาศ ซึ่งมีเวทีคาราโอเกะไว้บริการ ให้ลูกค้าทุกท่านสามารถเวียนเปลี่ยนขึ้นไปร้องเพลงกันได้ตามอัธยาศัย โดยส่วนตัวเราสองคนก็อยากนั่งสัมผัสกับบรรยากาศธรรมชาติ แต่ด้วยวันนี้อากาศค่อนข้างร้อนอบอ้าว จึงตัดสินใจใช้บริการในห้องปรับอากาศกันครับ


โต๊ะด้านนอก

เวทีคาราโอเกะด้านในห้องปรับอากาศ

โต๊ะที่นั่งด้านใน

             หลังจากเราได้ที่นั่งเป็นที่เรียบร้อย น้องพนักงานก็นำเมนูมาให้สั่งอาหารกันครับ ทางน้องพนักงานก็มีการแนะนำเมนูที่นิยมหลายเมนู เราสองคนก็สั่งกันมาตามนั้นครับ ใช้เวลาไม่นานประมาณไม่ถึง 10 นาที อาหารก็เริ่มทะยอยนำออกมาเสริฟ์


น้ำแข็งและน้ำเปล่า

อุปกรณ์การทาน

ผักสด

ลาบเป็ด

ข้าวเหนียว

หอยแครงเผา

ยำวุ้นเส้นทะเล

ต้มยำปลาคังน้ำใส

ไก่บ้านย่าง

กบทอด

                    สำหรับรสชาติอาหารตามความเห็นส่วนตัวของเราสองคนนะครับ ขอเริ่มจากเมนูที่เป็นชื่อร้านกันเลย ลาบเป็ด มาแบบรสชาติจัดจ้าน ในจานมีเครื่องในเป็ดมาหลายส่วน แต่ไม่มีความคาวหรือมีกลิ่นอะไรเลย มีแต่ความหอมของเครื่องเทศ และรสชาติที่นัวอร่อยครับ จนอยากได้ข้าวเหนียวร้อนๆ นุ่มๆ ครับ แต่ข้าวเหนียวที่เราได้ ค่อนข้างเย็นและแข็ง ทำให้ความอร่อยลดลงไปเยอะทีเดียว

                  จานต่อมาเป็นหอยแครงเผา ทางร้านมาแบบหอยแครงตัวใหญ่ ซึ่งส่วนตัวไม่ค่อยชอบครับ เนื้อมันค่อนข้างจะด้านๆ อยากได้แบบตัวเล็กๆ แต่รสชาติก็อร่อยปกติดีครับ 

                      ยำวุ้นเส้นทะเล ตอนแรกที่ยกมาเสริฟ์ก็แอบงงๆ กับสีน้ำยำของทางร้าน และรสชาติยำ ก็ออกแนวอร่อยครับ แต่เป็นแบบที่ไม่ค่อยคุ้นเคย รสชาติละม้ายคล้ายกับยำเย็นตาโฟ แต่ก็ไม่ใช หวานๆเปรี้ยวๆ เผ็ดตาม อร่อยดีครับ กุ้งกับปลาหมึกก็มาแบบสดๆ เมนูนี้ประทับใจครับ

                   ต้มยำปลาคังน้ำใส ทางร้านเสริฟ์มาแบบหม้อไฟ แต่ไม่มีไฟจุดด้านล่าง รสชาติน้ำต้มยำปรุงออกมาดี เปรี้ยวเผ็ดถึงใจ แต่ติดที่เนื้อปลาคังบางชิ้นยังแอบมีความคาวอยู่เล็กน้อย แต่โดยรวมถือว่าดีครับ 

                    ไก่บ้านย่างครึ่งตัว เมนูนี้เป็นอะไรที่ไม่ค่อยประทับใจครับ อาจจะเป็นเพราะเราไม่ใช่สายไก่บ้านก็เป็นได้ เนื้อไก่มาแบบติดกระดูก แนวๆไก่ไทยที่ตัวไม่ค่อยใหญ่ แต่เนื้อจะค่อยข้างแน่น ปิดท้ายด้วยกบทอดกระเทียม เมนูนี้ทางร้านทอดมาได้แบบกำลังทานเลย มีความกรอบที่ผิวด้านนอก และเนื้อด้านในยังคงมีความนุ่มละมุน รสชาติเค็มอ่อนๆ ทานเพลินๆแปบเดียวหมดจานครับ

                    สรุปความคุ้มค่าตามความเห็นส่วนตัวของเราสองคนนะครับ ถ้าเทียบปริมาณอาหาร คุณภาพอาหารและความอร่อยที่ได้รับ กับ ราคาค่าอาหารที่จ่ายไป เราสองคนก็ยังคงมองว่าคุ้มค่านะครับ แต่ถ้ามารอบหน้า คงไม่สั่งไก่บ้านกับหอยแครงเผาอีกครับ เพราะไม่ใช่ทางเลย และยังคงมีอีกหลายเมนูที่อยากลองสั่งมาทานอีกครับ


บิลค่าเสียหาย


วันจันทร์ที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2566

ร้าน ครัวบางนา

                        ร้านครัวบางนา เป็นร้านอาหารประจำของครอบครัวแฟน ที่เรียกว่า แทบจะทุกเทศกาลที่มีการฉลองทานอาหารร่วมกัน ก็จะมารวมตัวกันที่ร้านนี้ ใช้บริการกันตั้งแต่ยังอยู่ที่เก่า จนย้ายมาที่ใหม่ ตกแต่งสวยงามกว่าเดิม และเพิ่มเวลาเปิดให้ทำการทุกวันเป็นตั้งแต่ 7.00-22.00 ทางร้านมีให้บริการห้องคาราโอเกะ (แต่มีเพียง 2 ห้อง ต้องจองล่วงหน้า) อาหารรสชาติอร่อย ครัวปรุงอาหารไม่นาน มีของหวาน เค้ก และเครื่องดื่มหลากหลายทั้งกาแฟ น้ำปั่น น้ำผลไม้ รวมถึงราคามิตรภาพ 

                           ในวันนี้เรามาทำธุระกับแฟน แถวเส้นถนนบางนา จึงตัดสินใจ เข้าไปใช้บริการเพียง 2 คนกันบ้าง จึงทำให้สั่งอาหารได้เพียงไม่กี่เมนูนะครับ ด้วยเรามาถึงร้านในเวลาประมาณเกือบๆจะเที่ยง ทำให้ลูกค้าภายในร้านค่อนข้างจะหนาแน่น ทั้งลานจอดรถ ที่มีให้บริการอยู่ด้านหลังร้าน ถึงจะกว้างขวางแต่ก็ค่อนข้างแน่นไปด้วยรถแล้ว โชคดีที่เราได้โต๊ะเล็กที่ว่างโต๊ะสุดท้ายพอดี


ป้ายหน้าร้าน

ทางเข้าหน้าร้าน

อุปกรณ์การทานอาหาร

น้ำแข็งและน้ำเปล่า

                                  หลังจากที่ได้โต๊ะนั่งเป็นที่เรียบร้อย ก็ถึงเวลาสั่งอาหารกันครับ หลังจากสั่งอาหารเรียบร้อย ใช้เวลาเพียงไม่ถึง 10 นาที รายการอาหารที่สั่งก็เริ่มทะยอยนำออกมาเสริฟ์จนครบ เรียกว่าทางครัวเค้ามีความพร้อมอย่างมากจริงๆ


หลนเต้าเจี้ยว-กรรเชียงปู

ต้มยำน้ำใส

เสริฟ์มาแบบหม้อไฟน้อยๆ พร้อมเจลแอลกอฮอล์

ข้าวผัดสับปะรด

ลาบปลาดุก

กุ้งทอดซอสมะขาม

เส้นหมี่ผัดกระเฉด

                   สำหรับรสชาติอาหารตามความเห็นส่วนตัวของเราสองคนนะครับ เริ่มจากหลนเต้าเจี้ยว ทางร้านทำรสชาติหวานนำนะครับ ตรงนี้ถูกจริตส่วนตัวมากๆ ในภาพอาจจะไม่เห็นกรรเชียงปู แต่ของจริง มีกรรเชียงปูเป็นก้อนๆ จมอยู่ด้านล่างถ้วยในจำนวนนึงเลยนะครับ เสิรฟ์มาคู่กับผักสดหลากหลายอย่าง 

                        ต่อด้วยต้มยำน้ำใส รสชาติครบรส อาจจะไม่จัดจ้านมาก แต่ซดน้ำซุปแล้วคล่องคอดีครับ ในหม้อเล็กจะมีกุ้งอยู่ 2 ตัว เนื้อปลา 2 ชิ้นและตามด้วยเนื้อปลาหมึกเล็กน้อย เน้นไปทางเห็ดค่อนข้างมาก

                       จริงๆอยากทานข้าวอบสับปะรดครับ แต่ทางร้านมีข้าวผัดสับปะรด ก็เลยสั่งมาลองทาน ข้าวผัดมาแบบไม่แฉะ เรียงเม็ดสวย รสชาติกลมกล่อมกำลังดี ทานคู่กับเครื่องเคียงหมูหยองและเม็ดมะม่วงหิมพานต์แล้วลงตัวแบบที่สุด ทานได้เพลินๆเลยครับ ยิ่งคนชอบทานเผ็ด ราดด้วยพริกจากพริกน้ำปลา ยิ่งเพิ่มความอร่อย  ปริมาณมาแบบไม่น้อยเลย เราสองคนจัดการเมนูนี้ไม่หมดครับ ต้องยอมห่อข้าวเกินครึ่งกลับบ้าน

                        ลาบปลาดุก เป็นเมนูในใจของแฟนเสมอ ทางร้านปรุงออกมาครบรส กลมกล่อม จัดจ้านและไม่เผ็ดจัด เรียกว่าจานเดียวสามารถทานร่วมกันได้ ทั้งคนชอบเผ็ด และไม่ชอบเผ็ด ใครอยากทานเผ็ดก็แค่เคี้ยวพริกเม็ดโดดตามลงไป ก็จะซี้ดซ้าด ถึงใจ คนที่ไม่ทานเผ็ด ก็แค่ตักเลี่ยงเม็ดพริก ก็จะอร่อยไปได้ด้วยกัน

                        กุ้งทอดซอสมะขาม เป็นเมนูโปรดปรานของแฟนอีกเช่นกัน แต่เมนูนี้ แนะนำให้ทานตอนที่นำออกมาเสริฟ์ทันทีเลยนะครับ เพราะถ้าทิ้งไว้นาน ตัวแป้งจะไม่กรุบกรอบแล้ว จะออกไปแนวนิ่ม และจะทำให้เสียรสชาติความอร่อยไปเกินครึ่งครับ

                       ปิดท้ายด้วยหมี่ผัดกระเฉด เป็นเมนูที่มาทุกครั้งก็สั่งทานกันทุกครั้ง ทางร้านปรุงรสชาติออกมาได้กลมกล่อม ผัดกระเฉดอาจจะไม่อ่อนมาก แต่ก็ไม่ได้เหนียวขนาดเคี้ยวไม่เข้า ตักทานกันเพลินๆ แปบเดียวก็หมดจานครับ

                       สรุปตามความเห็นส่วนตัวของเรากับแฟนนะครับ เมื่อเทียบปริมาณอาหาร คุณภาพอาหารและความอร่อยที่ได้รับแล้ว ร้านครัวบางนามีความคุ้มค่ามากๆครับ เรียกว่ามีโอกาสเมื่อไร ไม่มีพลาดที่จะมาทานที่ร้านนี้ และทางร้านก็ยังมีเมนูอาหารตามสั่งไว้ให้บริการด้วยนะครับ เคยมาทานข้าวกะเพราของทางร้าน รสชาติดีทีเดียว วันนี้เราสองคนอิ่มกันจนไม่สามารถสั่งขนมหวานหรือเค้กอะไรมาทานกันไหว ไว้ครั้งหน้าค่อยกลับมาทานเค้กกันครับ


บิลค่าเสียหาย


บทความที่ได้รับความนิยม