วันอาทิตย์ที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2563

ซัดโฮก ก๋วยเตี๋ยวเรือ

                           วันเสาร์ช่วงเย็นย่ำ อากาศขมุกขมัว เหมือนๆคล้ายว่าฝนจะตก แต่ก็ยังไม่ตกสักที เรากับแฟนเลยตัดสินใจไปเดินหาอะไรทานกันใกล้ๆบ้านดีกว่า และจำได้ว่าเคยเห็นร้านก๋วยเตี๋ยวเรือ แถวบริเวณซอยประชาสงเคราะห์ 1


ป้ายชื่อร้าน

ชามละ 13 บาท

บรรยากาศหน้าร้าน


                     ภายในร้านมีลูกค้าไม่มาก เราจึงเลือกที่นั่งตามอัธยาศัยเลย แฟนเลือกด้านใน จะได้นั่งกันสบายๆ คิดเผื่อว่าฝนจะตกลงมา ประกอบกับ ช่วงนี้มีข่าวทั้งรถยนต์และมอเตอร์ไซด์ขยันกันพุ่งเข้าหาร้านอาหารกันเหลือเกิน เพือความปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สิน กับกรณีอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิดนะครับ


มีป้ายราคาอาหาร เครื่องดื่มแจ้งไว้ชัดเจน

ทานครบ 10 ชามแถม 1 ชาม / ครบ 20 ชาม แถมเอส 1 ขวด

แคปหมู


                  เมื่อนั่งที่โต๊ะแล้ว จะเห็นว่าบนโต๊ะมีกระดาษให้เขียนสั่งรายการอาหารครับ แต่ด้วยช่วงเราไปลูกค้ามีเพียงเรากับอีกโต๊ะ ซึ่งกำลังทานอยู่ พนักงานในร้านจึงบอกว่า สั่งได้เลย เพื่อความไม่ประมาท เราจึงสั่งมาลองกันก่อนคนละ 2 ชาม และแฟนไม่รอช้า เมื่อเห็นแคปหมูที่แขวนอยู่ สีสัน หน้าตาดูดีทีเดียว จึงสอยมาลองด้วยครับ


เส้นเล็กน้ำตกหมู ไม่ลูกชิ้น

เส้นเล็กแห้งตกหมู ไม่ลูกชิ้น

ตับหมู

เส้นหมี่น้ำตกหมู ไม่ใส่เครื่องใน ไม่ใส่ผัก ไม่ใส่กระเทียม

โรยแคปหมูกันลงไป

น้ำกระเจี๊ยบ

เส้นหมี่น้ำตกหมู ไม่ลูกชิ้น

พริกแห้งป่น

ใส่พริกกันลงไป


                        ขอสรุปรสชาติอาหารตามความเห็นส่วนตัวของเราสองคนนะครับ เริ่มจากเครื่องก๋วยเตี๋ยวเรือกันก่อนจ้า ลูกชิ้นหมู รสชาติไม่ค่อยอร่อยสักเท่าไรนะครับ ออกแนวแป้งไปสักหน่อย เนื้อหมูนุ่ม รสชาติอร่อยดีครับ ในส่วนของตับ ในภาพจะเห็นนะครับว่า สีค่อนข้างเข้ม ในตอนแรกเราเองก็เกรงว่า จะอัดบุหรี่เยอะแน่ๆเลย (ตับแข็ง) แต่ก็เปล่านะครับ รสสัมผัสยังคงนุ่มละมุนอยู่ 

                          ต่อด้วยน้ำซุปก๋วยเตี๋ยวเรือ ไม่ได้เข้มข้นเลือดจัดจ้าน แต่ก็ไม่ได้ใสจนไม่ได้รับรสชาติครับ เรียกว่ากลมกล่อม กำลังดี สำหรับเส้นเล็ก ลวกออกมาได้เหนียว นุ่ม เส้นเล็กอร่อยครับ เส้นหมี่ก็ลวกมาได้นิ่มดี ทานเพลินๆ (คิดเองว่า เส้นหมี่อ้วนน้อยกว่า) ในส่วนของเกาเหลา 30 บาท แฟนก็มีสั่งมาลองทานนะครับ แต่ไม่ได้ถ่ายรูปมา ก็ให้มาในปริมาณสมควร ชามใหญ่กว่า 15 บาทครับ สำหรับพริกป่นของทางร้าน น่าจะคั่วเองครับ เพราะความเผ็ดนี่ไม่ใช่เล่นเลย เหมาะสำหรับคนชอบรสชาติจัดจ้านถึงใจ ใส่ลงไป รับรองความเผ็ดครับ

                         พระเอกของวันนี้ต้องยกให้ แคปหมู มีความกรุบกรอบ สด ใหม่ ไม่เหม็นหืน ทานคู่กับก๋วยเตี๋ยวเรือแล้วเข้ากันแบบสุดๆ ในราคาถุงละ 10 บาท วันนี้จัดกันไป 3 ถุงเบาๆครับ สำหรับเครื่องดื่ม เราลองสั่งน้ำกระเจี๊ยบมาทานกันครับ ทางร้านเสริฟ์มาในขันครับ เป็นไอเดียที่น่ารักดีครับ แต่รสชาติน้ำไม่ค่อยถูกใจเราสักเท่าไร ด้วยส่วนตัว ชอบน้ำกระเจี๊ยบแบบอมเปรี้ยวๆหน่อย

                          สรุปความคุ้มค่านะครับ เมื่อเทียบปริมาณอาหาร คุณภาพ และราคาค่าเสียหาย ในมื้อนี้จำนวน 184 บาทแล้ว ต้องตอบว่า ไม่ถึงกับว้าว แต่ก็ไม่ได้รสชาติไม่อร่อยนะครับ ทานได้ครับ ทานอิ่มแล้วไม่รู้สึกเสียดายเงินที่จ่ายไป ท่านใดมีโอกาสผ่านมาแถวประชาสงเคราะห์ ลองมาทานกันดูนะครับ สำหรับส่วนตัวแล้ว จะมาลองอีกครั้งครับ เพราะแอบได้ยินมาว่า มีขนมถ้วยขายด้วย แต่เราไปในช่วงเย็น ขนมหมดแล้ว เลยเป็นความคาใจครับ

                        

วันจันทร์ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2563

Aroi Sushi - Buffet

           ในวันเสาร์ตอนเย็น ขณะที่ฝนกำลังโปรยปรายลงมา เป็นเวลาที่เรากับแฟนกำลังนั่งคิดว่า จะทานอะไรกันดี อยากได้ร้านที่อยู่ไม่ไกลบ้านมากนัก ไม่ต้องรออาหารนาน และที่สำคัญไม่อยากทานแป้งกันในมื้อค่ำด้วย และแล้ว ก็นึกขึ้นได้ว่า มีร้านบุฟเฟ่ต์อาหารญี่ปุ่น ที่กล่าวไว้ว่า เป็นร้านที่มีบุฟเฟต์ซูชิข้าวน้อยที่สุดในประเทศไทย ไม่รอช้า เราสองคนจึงมุ่งหน้าไปยังถนนเพชรบุรี ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที เราก็มาถึงเป้าหมายครับ


บรรยากาศหน้าร้าน

                ตอนมาถึงภายในร้าน ยังไม่ค่อยมีลูกค้ามากนักครับ ทำให้เราสามารถเลือกโต๊ะที่นั่งได้ตามอัธยาศัย ภายในร้านจะแบ่งเป็น 2 ส่วน หลังจากดูทำเลแล้ว เราเลือกนั่งฝั่งด้านขวาครับ เพราะมีโต๊ะแคชเชียร์ตั้งอยู่ และคิดว่าน่าจะเป็นส่วนที่มีพนักงานเดินดูแลตลอด จะได้เรียกสั่งอาหารไม่ยากครับ อย่างที่ทราบกันครับ ทางร้านมีเซ็ทเมนูบุฟเฟ่ต์ให้เลือกสั่งกันหลายราคา แต่ด้วยเรามาลองกันครั้งแรก จึงขอลองราคาต่ำสุดก่อนครับ จะได้ไม่เจ็บตัวมาก 


เมนูสำหรับ 499 บาท

รายการเมนูให้ทำการเลือกสั่งครับ
ขิงดองและวาซาบิ


อุปกรณ์ในการทาน


            ในส่วนของการสั่งอาหาร ทางร้านให้ลูกค้าเขียนจำนวนลงในใบรายการอาหารได้เลยครับ โดยใบรายการอาหารจะมีค่อนข้างหลายใน หลายขนาด โดยจะแบ่งเป็นโซนการปรุงอาหารแบบต่างๆ น่าจะเป็นการจัดการอาหารตามโซนปรุงในครัวครับ จะได้แบ่งรายการอาหารไปตามจุดต่างๆได้เลย และลูกค้าสามารถระบุได้ทุกเมนู ว่าต้องการแบบใด ต้องการข้าวมาก ข้าวน้อย แล่ปลาชิ้นหนา ชิ้นบาง จำนวนซูชิ กี่คำ ระบุได้เป็นที่เลยครับ ไม่จำเป็นต้องสั่งเป็นจาน เหมาะสำหรับคนที่ต้องการทานหลายๆอย่าง หลากหลายครับ

ชาเขียวเย็น









ท้องปลาแซลมอนทอดกระเทียม






บะหมี่เย็น













ซุปมิโสะ


















        ด้วยเป็นมื้อค่ำครับ เราสองคนก็เลยทานไม่ค่อยมากกันเท่าไร จึงขอสรุปรสชาติอาหารทีเดียว โดยอ้างอิงจากความรู้สึกส่วนตัวของเราสองคนนะครับ ขอเริ่มจากซาซิมิ เนื้อปลาปกติครับ ไม่ได้มีความอร่อยแบบโดดเด่น และก็ไม่ได้แย่จนทานไม่ได้ ขอให้ระดับปานกลาง ก็สมกับราคา 499+ ครับ ถึงจะมีเนื้อส่วนท้องปลาแซลมอน แต่ก็ไม่ได้เพิ่มความแตกต่างให้กับรสชาติแต่อย่างใดครับ ตัวหอยเชลส์ก็ปานกลางครับ ทานได้

           ต่อด้วย ซูชิ ครับ ตามที่เล่าลือ และกล่าวอ้างกันมาครับ ข้าวทางร้านน้อยจริงๆครับ แต่ไม่เข้าใจเหมือนกันครับ ถึงแม้ข้าวจะน้อยแล้ว แต่โดยความเห็นส่วนตัว กลับรู้สึกว่า มันแปลกๆครับ ทานได้ แต่ก็ยังไม่อร่อย แต่ที่ทานแทบจะไม่ได้เลย ต้องบอกว่า เป็นท้องปลาแซลมอนทอดกระเทียมครับ เป็นจานที่ไม่ได้เขียนสั่ง แต่ได้มาแบบงงๆ แต่ด้วยความอยากลอง ไหนๆก็ได้มาแล้ว ความรู้สึกแรกที่ได้คือ เหนียวมากๆครับ

               ทาโกะยากิ มาแบบกรอบๆดีครับ ถึงแม้จะมาแบบไม่ร้อน แต่ผิวด้านนอกนี่กรอบจนอีกนิดก็เกรียมครับ แป้งหนา มีเนื้อหนวดปลาหมึกมาแบบบางเบามากๆ ไม่เหมือนกันที่เคยดูรีวิวใน youtube เลย เห็นบอกว่ามีหลายชิ้นมากๆ ไม่เหมือนวิญญานปลาหมึกของที่อื่นๆ อันนี้ส่วนตัวเลยนะครับ ที่นี่ก็วิญญานเช่นกัน

               อาหารที่นี่ออกไม่ช้านะครับ มาเสริฟ์กันเรื่อยๆ เรียกว่าการจัดการทางร้านทำได้ดีมากๆครับ ในส่วนของเครื่องดื่ม ชาเขียวเย็นอร่อยดีครับ โค้กก็ดี มาแบบเป็นขวด เปิดกันใหม่ๆ รสชาติดีงาม ไอศครีมตัก มีให้เลือกทั้งแบบใส่โคนและใส่ถ้วย 

               อาจจะไม่ได้รีวิวสชาติอาหารโดยละเอียดทีละรายการแบบทุกทีนะครับ เพราะต้องขอเรียนตามตรงว่า รู้สึกมึนๆ และงงๆ กับรสชาติอาหารนิดหน่อยครับ ถ้าให้สรุปก็ขอบอกว่า ทานได้ครับ ไม่ได้แพงกับราคา 499+ ซึ่งตกคนละประมาณ 534 บาท โดยที่เป็นราคาเงินสดนะครับ ถ้า Credit Card มีชารจ์ตั้งแต่ 2% - 3% แล้วแต่ค่ายของบัตรจ้า และถ้าถามว่าจะมาทานซ้ำอีกไหม ต้องขอบอก่อนว่า ไม่แพงครับ แต่ไม่มีความรู้สึกว่าคุ้มค่า หลังจากทานเสร็จแล้วเลย ลองแล้ว รู้แล้ว พอแล้วครับ 

         ปล. ตึกทรู ทองหล่อ เมื่อจอดรถแล้ว กรุณามองหายามให้เจอ แล้วเดินไปขอบัตรจอดรถให้ได้นะครับ เพราะถ้ายามไม่ได้บัตร จะต้องโดนเก็บค่าจอดรถ ถึงจะมีใบเสร็จร้านมาทีหลัง แจ้งว่ามาทานที่ร้าน แต่ยามจะบอกว่า ลูกค้าไม่ยอมรับบัตรจอดแต่แรก จะไม่สามารถใช้ใบเสร็จของทางร้านมาทำอะไรได้นะครับ จ่ายค่าจอดกันไปเต็มๆจ้า




วันอาทิตย์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2563

ร้าน เซ้ง ก๋วยจั๊บสะท้านฟ้า เหม่งจ๋าย

            ด้วยสถานการณ์โควิด ทำให้เราห่างหายกับการรีวิวมานานหลายเดือน มาวันนี้แฟนอยากทานก๋วยจั๊บน้ำข้น โดยมีโจทย์ว่า อยากได้เต้าหู้เยอะๆ เพราะช่วงนี้แฟนงดทานเนื้อหมู หลังจากคิดตัดสินใจสักครู่ ก็คิดถึงร้าน เซ้ง ก๋วยจั๊บสะท้านฟ้า ตรงแถวสี่แยกเหม่งจ๋าย สำหรับสถานที่จอดรถทางร้านไม่มีให้บริการนะครับ สามารถจอดได้ที่ริมถนนหน้าร้าน โดยต้องสังเกตว่า วันคู่หรือวันคี่ ถ้าจอดผิดฝั่ง ขากลับมาอาจจะมีของแถมสีเหลืองๆเล็กๆ อยู่บริเวณล้อรถท่านได้ครับ

                 

ภาพหน้าร้าน

ครัวส่วนปรุงหน้าร้าน

                        เดินเข้ามาภายในร้าน เราสามารถสั่งรายการน้องพนักงาน ตรงหน้าครัวได้เลยครับ หรือว่าจะไปเลือกหาที่นั่งตามอัธยาศัยก่อน แล้วรอน้องพนักงานมารับรายการอาหารที่โต๊ะก็ได้เช่นกันครับ ด้วยเราไปถึงในเวลาประมาณ 9 โมงกว่าๆ คนในร้านยังไม่ค่อยเยอะมาก ก็เลยเลือกที่จะสั่งกันก่อน แล้วค่อยไปเลือกทำเลนั่งทานครับ

นั่งรออาหารกันจ้า

                       ทางร้านทำอาหารออกมาได้ไวทันใจแบบสุดๆนะครับ สั่งเพียงแป๊บเดียว รายการอาหารก็นำออกมาเสริฟ์ที่โต๊ะแล้ว ขนาดสั่งกลับบ้านด้วย ยังแป๊บเดียวก็ได้ ไม่ถึง 30 วินาที หลังจากทำการสั่งเลยจ้า


ก๋วยจั๊บน้ำข้น ไข่และเต้าหู้



โอเลี้ยงและน้ำส้มคั้นสด 1 ขวด


ก๋วยจั๊บทุกอย่าง


เส้นก๋วยจั๊บ


                       น้ำซุปรสชาติเข้มข้น อร่อยกลมกล่อมนะครับ เสียดายที่ทางร้านใส่น้ำเหนียวๆที่ลวกเส้นก๋วยจั๊บแช่ไว้ลงมาพร้อมกับเส้นด้วย ทำให้รู้สึกว่า น้ำมันเหนียวข้นไปสักนิด และตัวเส้นก๋วยจั๊บก็แอบเละอยู่หลายอัน มีที่เหนียวหนึบ ปนมาด้วย แต่น้อยกว่าเละครับ เหมาะสำหรับคนที่ชอบเส้นนิ่มๆ ซึ่งสำหรับเราสองคน ชอบแบบหนึบๆมากกว่าครับ

                     สำหรับเครื่องก๋วยจั๊บ โดยเฉพาะเครื่องใน ทำออกมาได้สะอาด ไม่มีกลิ่น อร่อยดีครับ หมูกรอบก็กรุบกรอบกำลังดี ในส่วนของเต้าหู้อร่อยครับ ไม่มีกลิ่นเหม็นหืน ไข่ต้มก็เนื้อสัมผัส ไข่รัดตัว เด้ง อร่อยมากครับ ที่สำคัญเสริฟ์มาในหม้อดิน รับประกันความร้อนถึงใจ ถูกใจคนชอบทานของร้อนๆอย่างแน่นอนจ้า ในราคาชามละ 60 บาท เมื่อเทียบกับคุณภาพและปริมาณอาหารที่ได้รับ ไม่ถือว่าแพงนะครับ เพราะทางร้านคัดสรร และปรุงวัตถุดิบออกมาได้รสชาติกำลังดี มีโอกาสจะกลับมาทานอีกครั้งแน่นอน แต่อาจจะขอน้องพนักงานว่า ขอเส้นแบบไม่เละ เพื่อเพิ่มความอร่อยตามความชอบส่วนตัวเข้าไปอีกครับ

                      ก่อนจะจบรีวิว ขอกล่าวถึงเครื่องดื่มกันสักหน่อย ทางร้านมีให้เลือกสั่งหลายอย่างนะครับ แต่แฟนกำลังอยู่ในช่วงรักษาสุขภาพ เลยเลือกน้ำส้มคั้นสด ทางเจ้าของร้านก็ย้ำว่า ไม่มีใส่น้ำตาลแน่นอน คั้นสดๆจากส้ม หลังจากทานจนถึงก้นขวด ก็พบกลีบส้มอยู่ด้านในด้วย รสชาติน้ำส้มอร่อยดีครับ ไม่หวาน ไม่เปรี้ยวมาก กำลังดี จะทานไม่ใส่น้ำแข็งก็ยังอร่อย สำหรับส่วนตัว โอเลี้ยงยังรสชาติอ่อนไปหน่อยครับ น่าจะเข้มกว่านี้ได้อีก

บทความที่ได้รับความนิยม