ขนมเปี๊ยะไข่ระเบิด By เชฟปั๊ม

               ด้วยมิสเตอร์ทีและท่านแม่ ดูรายการทีวีช่องนึง ที่นำเชฟปั๊มมาออกรายการ และแนะนำถึงขนมเปี๊ยะไข่ระเบิด ขนมเปี๊ยะแป้งบาง อัดแน่นด้วยไส้และไข่แดงถึง 8 ฟอง เรียกว่า หั่นเป็นชิ้นส่วนตรงไหน ก็จะเจอไข่แดงกระจายตัวสำหรับทุกชิ้น และเชฟปั๊มทำการขายขนมเปี๊ยะเพียงปีละ 3 ครั้ง ตรุษจีน สารทจีน และช่วงปีใหม่ โดยจะมีให้ทำการพรีออเดอร์ สั่งล่วงหน้า โอนเงิน แล้วนัดมารับสินค้า หรือใช้บริการจัดส่งทาง Kerry ได้ครับ และก็มีค่าบริการจัดส่งตามจำนวนขนมเปี๊ยะที่สั่งอีกทีนึง

                หลังจากเฝ้ารอมาสักพัก ก็ถึงช่วงเวลาเปิดพรีออเดอร์สำหรับปีใหม่ครับ ไม่รอช้า เรารีบจัดการสั่งทาง facebook messenger ทันทีครับ โดยจะมีระบบตอบรับอัตโนมัติ อธิบายถึงไส้ที่มีให้เลือก และแนะนำให้ทำการระบุจำนวนสินค้าที่ต้องการ จากนั้นก็รอทาง admin มาตอบเพื่อที่จะแจ้งราคาสินค้า พร้อมให้เลขบัญชีสำหรับการชำระสินค้า เมื่อเสร็จครบทุกขั้นตอน ต่อไปก็เป็นการรอครับ 

                และแล้วเราก็ได้รับสินค้าครับ พวกเราสั่งไปทั้งหมด 3 อัน ได้แก่ไส้ถั่ว+ฟัก (250 บาท) / ไส้ถั่วขาว+งาดำ (250 บาท) และไส้น้องใหม่ล่าสุด คัสตาร์ดฝอยทอง (350 บาท) ขนมเปี๊ยะทุกชิ้นจะแพคมาในกันกระแทกก่อนจะบรรจุใส่กล่องขนมเปี๊ยะ กล่องละ 1 อัน

                     เรามาเริ่มจากการหั่นขนมเปี๊ยะไส้ถั่วขาว-งาดำกันก่อนเลยครับ 

           ต่อด้วยไส้ฟัก-ถั่ว

สุดท้ายที่ไส้คัสตาร์ด - ฝอยทอง

               หลังจากได้ชิมรสชาติแล้วทั้ง 3 ไส้ที่เราทำการสั่งมา ขอสรุปรสชาติขนมเปี๊ยะตามความรู้สึกส่วนตัวของครอบครัวเรานะครับ เริ่มจากเนื้อสัมผัสแป้งบางเบาจริงๆครับ แค่ใช้มีดตัดเปลือกด้านบนก็แทบจะหลุดออกหมด และทุกไส้มีไข่แดงอัดแน่น หั่นตรงไหนก็เจอไข่แดงครับ ไส้ถั่วขาว-งาดำ  ตัวเนื้อไส้ไม่ได้ละเอียด เหมาะสำหรับคนที่ชอบสัมผัสในการเคี้ยว น่าจะชอบครับ แต่สำหรับพวกเรา รู้สึกว่าค่อนข้างหยาบครับ รสชาติกลิ่นหอมของงาดำไม่ค่อยเด่น อาจเพราะผสมถั่วขาว แต่รสชาติโดยรวมทานได้ปกติ ไม่หวานมาก

                   ไส้ฟัก-ถั่ว ตัวเนื้อไส้อันนี้มาเป็นชิ้นๆขนาดเล็กเลยครับ มีใส่ลูกเกดเพื่อเพิ่มความหวานมาด้วย  เพราะตัวไส้ไม่ค่อยหวาน แต่อันนี้เราและท่านแม่ ไม่ค่อยชอบครับ อาจเพราะเราเคยชินกับการทานเนื้อสัมผัสที่ละเอียด ละมุน แต่มิสเตอร์ทีบอกว่าอร่อยดี เรียกว่า ต้องแล้วแต่คนชอบจริงๆ

                         ไส้คัสตาร์ด-ฝอยทอง ชอบเนื้อสัมผัสของฝอยทองครับ ตัวฝอยทองอร่อย หอม ไม่หวานจนเกินไป ส่วนคัสตาร์ดอันนี้เฉยๆครับ ถ้าถามว่าที่ทานมา ทั้ง 3 ไส้ ส่วนตัวชอบอันไหน ต้องขอเลือกเป็น คัสตาร์ด-ฝอยทองครับ รสชาติกลมกล่อมที่สุดแล้ว

                     สำหรับความคุ้มค่า ในความคิดส่วนตัวของเรา คงไม่สั่งอีกรอบครับ ได้ชิมแล้ว ครั้งเดียวพอครับ ไม่ใช่ว่าไม่อร่อย ก็ทานได้ แต่ไม่อร่อยถึงขนาดที่จะอยากสั่งมากินอีกรอบสำหรับราคาประมาณนี้ ท่านใดอยากลองทาน ก็สามารถสั่งพรีออเดอร์ลองชิมกันได้นะครับ ได้ชิมรสชาติอื่นๆแล้ว อย่าลืมมาแชร์ความรู้สึกกันด้วยนะครับ

บ้านหวานเย็น - แชมป์ ขนมปัง สังขยาใบเตย @ลาซาล

             ต่อเนื่องจากเราไปทานส้มตำร้าน ลาบโคราช แล้วรู้สึกอยากหาอะไรหวานๆอร่อยๆ ทานกันครับ แล้วแฟนก็แนะนำว่า เดินเลยไปนิดเดียวจะมีร้านขายน้ำแข็งไส กับร้านขนมปังนึ่งสังขยา จึงไม่รอช้าครับ เรามุ่งหน้าไปกันทันที

                ร้านขนมปังสังขยาจะใช้พื้นที่ร่วมกับ ร้านบะหมี่เกี๊ยวนะครับ ตรงนี้สามารถนั่งได้เลย หลังจากสั่งขนมปังสังขยาแล้ว 1 ชุด เราก็เดินเลยไปร้านติดกันข้างๆ จะเป็นร้านขายขนมหวาน น้ำแข็งไส สามารถสั่งแล้วมานั่งทานที่ร้านไหนก็ได้นะครับ

                     ร้านบ้านหวานเย็น มีขนมหวานให้เลือกสั่งอยู่หลายรายการเลยครับ มีคิวอาร์โค้ดไว้ให้ชำระค่าบริการด้วยนะครับ หลังจากตัดสินใจแล้ว เราก็สั่งเป็นฟักทองเชื่อม ทับทิมกรอบ และ ลูกเดือยทานคู่กับน้ำลำไยครับ ในราคา 30 บาท หลังชำระเงินแล้ว ก็เดินกลับมานั่งรอที่ร้านขนมปัง

                ขนมปังนึ่งออกมานุ่มกำลังดี ร้อนๆครับ ทานคู่กับสังขยาราดด้วยนมสดแล้ว อร่อยเข้ากันเป็นอย่างมาก เผลอแป๊บเดียว เราก็ทานกันหมดจาน แต่น้ำแข็งไสก็ยังไม่มาครับ นั่งรออีกสักพักถึงจะนำมาเสิรฟ์ที่โต๊ะ ที่ร้านบ้านขนมหวานก็ไม่ได้มีลูกค้าท่านอื่น นอกจากพวกเราที่ไปสั่งนะครับ สงสัยจะพิถีพิถันในการตัก

                       พอมาเห็นทับทิมกรอบในชามใกล้ๆแล้ว ก็รู้สึกว่า แลดูบวมๆ แอบเละ แต่เอาน่า ลองกินดูก่อน อาจจะอร่อยก็ได้

                         ทับทิมกรอบให้แห้วชิ้นใหญ่นะครับ แต่แป้งทับทิมกรอบเละ บวม มาก ทานแล้วแอบขนลุก รสชาติลูกเดือยปกติ ส่วนฟักทองเชื่อม ไม่ค่อยหนึบนะครับ รสชาติปกติธรรมดา ทำให้รู้สึกว่าทีหลังต้องส่องดูของหวานในโหลแก้วให้ดีก่อนสั่ง หลังจากทานน้ำแข็งไสเท่าที่ทานได้ แล้วก็ไปจ่ายเงินค่าขนมปังสังขยาครับ ในราคาชุดละ 40 บาท 

                              ท่านใดผ่านมาแถวลาซาล อย่าลืมแวะมาทานขนมปังนึ่ง สังขยา อร่อยๆกันนะครับ ส่วนร้านน้ำแข็งไส อันนี้อาจจะเป็นคราวโชคไม่ดีของกระผมเอง ที่สั่งทับทิมกรอบที่เละ อย่างอื่นอาจจะโอเคก็ได้ ถ้าท่านใดเคยทานอันไหนอร่อย ก็รบกวนบอกแชร์กันด้วยนะครับ 

ลาบโคราช ลาซาล 54

                  ช่วงเวลาเย็นๆ ก็ต้องหาอะไรที่เบาๆท้องทานกันครับ แล้วก็คงหนีไม่พ้นเมนูส้มตำ วันนี้เรามีเป้าหมายกันที่ร้าน ลาบโคราช พิกัดอยู่บริเวณริมถนนหน้าซอยลาซาล 54 สำหรับที่จอดรถ ไม่มีนะครับ ต้องจอดที่หน้าร้าน ซึ่งจะจอดได้หลังเวลา 2 ทุ่มเป็นต้นไป หรือต้องไปหาจอดในซอยฝั่งตรงข้ามเอาครับ ระวังอย่าให้ไปขวางทางเข้า-ออก บ้านใครนะครับ

                     ร้าน ลาบโคราช จะมีที่ให้นั่งด้านนอกร้าน และภายในร้าน โดยภายในร้านจะมีให้บริการอยู่ 3-4 โต๊ะเท่านั้นครับ โชคดีวันที่เราไปยังพอมีว่าง ก็เลยเลือกที่จะนั่งภายในร้านครับ หาที่นั่งได้แล้ว น้องพนักงานก็เอาเมนูอาหารมาให้เลือกสั่งครับ

            

            เพียงอึดใจเดียวผักสด น้ำจิ้มแจ่ว ข้าวเหนียว น้ำเปล่า และน้ำแข็ง ก็มาเสริฟ์ถึงโต๊ะเรียบร้อยครับ และก็ตามด้วยอาหารที่เราสั่งไป ก็เริ่มทะยอยออกมา

ข้าวเหนียว

ผักสด

น้ำจิ้มแจ่ว

น้ำเปล่า+น้ำแข็ง

มีทิชชู่ให้บริการบนโต๊ะ

คอหมูย่าง

ไก่ทอด

ตำป่าไม่ใส่พริก

ลาบหมู

ตำข้าวโพด ไม่ใส่พริก

ตำไทย รสจัด

                        สรุปรสชาติอาหารตามความเห็นส่วนตัวของพวกเรานะครับ คอหมูย่าง ย่างออกมาได้กำลังดี ไม่สุกจนแห้งเกินไป ทานคู่กับน้ำจิ้มแจ่วแล้วเข้ากันสุดๆ ส่วนไก่ทอด ก็ทอดออกมากรอบนอก นุ่มด้านใน สำหรับลาบหมู รสชาติออกมาจัดจ้าน เผ็ดแซบ หอมข้าวคั่ว แต่มีใส่ตับหมูมาจำนวนมากอยู่เหมือนกัน ทำให้ได้ปริมาณเนื้อหมูนิดเดียว ด้วยแฟนไม่ทานเครื่องใน เลยแอบผิดหวังที่จะได้กินเนื้อหมูเยอะๆ

                      ปัญหาคือ ตัวกระผมทานส้มตำไม่ใส่พริก ทั้งเมนูตำป่า และตำข้าวโพด ซึ่งทางร้านก็ตำออกมาได้รสชาติกลมกล่อม กำลังดี ตำข้าวโพดไข่เค็ม รสชาติอร่อย แต่แฟนผู้ชื่นชอบการทานเผ็ดเป็นชีวิตจิตใจ สั่งเมนูส้มตำไทยรสจัด ด้วยหวังว่าจะได้รสชาติเผ็ดร้อน แต่กลับออกมาไม่เผ็ดเลย น่าจะเป็นเพราะทางร้านเห็นส้มตำ 2 จานแล้วไม่ใส่พริก จานตำไทยเลยทำรสจัดครบรส แต่ไม่เผ็ดมาให้ อันนี้เป็นความผิดพลาดของทางเราเองครับ ที่เขียนไม่ชัดเจน ว่าอยากได้รสชาติเผ็ดๆ 

                       สำหรับความคุ้มค่า ปริมาณอาหารและรสชาติที่ได้รับ โอเคดีครับ ไม่ได้แพงจนเกินไป คอหมูย่างเป็นเนื้อคอหมูย่างจริงๆ ไม่ได้เป็นสันคอหมู แต่ทานมื้อนี้เสร็จแล้ว มีแอบคอแห้งเล็กน้อยครับ เป็นปกติธรรมดาของการมาทานส้มตำนอกบ้าน ทางร้านยังมีหลายเมนูแนะนำนะครับ ท่านใดมีโอกาสผ่านมาแถวนี้ อย่าลืมมาแวะลองชิมกันครับ

บิลค่าเสียหาย

Honmono sushi Buffet เซ็นทรัลพระราม 9

                   ร้านอาหาร Honmono sushi เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นที่ใช้วัตถุดิบเกรดดี และราคาอาหารก็ค่อนข้างสูงตามคุณภาพ ที่ผ่านมาเคยอยากไปลอง Buffet ที่สาขาทองหล่อ แต่ด้วยราคา 3500++ กับ 5500++ ทำให้ขอผ่านไปก่อนครับ และแล้วสาขาใกล้บ้าน เซ็นทรัลพระราม 9 ก็จัดทำบุฟเฟ่ต์ในราคาเอื้อมถึง 599++ จึงไม่รอช้าครับ ทำการโทรไปสอบถามทางสาขาและทำการจองโต๊ะทันที ด้วยเราไม่สามารถหารายละเอียดเมนูอาหารในเวปไซด์ใดได้เลย น้องพนักงานก็น่ารักครับ ทำการส่งเมนูมาให้เราดูทางไลน์ โดยที่ราคาไม่รวมเครื่องดื่มนะครับ และทางน้องพนักงานแจ้งว่า รายการอาหารมีครบทุกเมนู นอกจากเราต้องการสั่งอาหารนอกเมนูบุฟเฟ่ต์ สามารถขอให้ทำการสำรองอาหารไว้ได้ เผื่อบางเมนูหมด

                       เราจองโต๊ะไว้ในเวลา 11.00 น. เรียกว่าจองเวลาที่ร้านเพิ่งเปิดให้บริการเลยครับ ร้านอยู่ที่ชั้น 7 ของเซ็นทรัลพระราม 9 ฝั่งโรบินสัน ติดกับลานไอซ์สเก็ตครับ หน้าร้านมีป้ายเมนูอาหารบุฟเฟ่ต์ตั้งอยู่ชัดเจน

                  บรรยากาศภายในร้าน ตกแต่งตามสไตล์ร้านอาหารญี่ปุ่น มีโต๊ะให้บริการจำนวนค่อนข้างเยอะครับ และการวางโต๊ะไม่ได้ติดกันมาก จนทำให้อึดอัดเวลาในการทานอาหาร แต่ความกว้างของโต๊ะสำหรับครอบครัวเราแล้ว รู้สึกว่าเล็กไปสักหน่อย อาจเป็นเพราะเราสั่งอาหารกันค่อนข้างมากครับ บนโต๊ะจะมีป้ายบอกส่วนลด และเมนูแนะนำ อุปกรณ์ในการทานอาหาร น้ำจิ้ม และปุ่มกดเรียกพนักงานครับ

                   เมื่อนั่งโต๊ะเป็นที่เรียบร้อยแล้ว น้องพนักงานก็จะมาสอบถามอีกครั้งว่าเราทานเป็นบุฟเฟ่ต์หรือสั่งทานปกติ เมื่อแจ้งว่าเป็นบุฟเฟ่ต์ ก็จะทำการนำเมนูอาหารบุฟเฟ่ต์ และใบสำหรับสั่งอาหารมาให้ครับ

                           เนื่องด้วยเราได้ดูเมนูอาหารจากน้องพนักงานทางไลน์มาแล้ว ทำให้ใช้เวลาไม่นานในการสั่งอาหารครับ เรียกว่าครั้งนี้ทำการบ้านเลือกรายการอาหารที่อยากทานไว้แล้ว และน้องพนักงานก็ทำการแจ้งเพิ่มเติมว่า โรลจะมาที่ละ 3 คำ , ซูชิ ที่ละ 1 คำ ตามภาพในเมนู

                   หลังจากส่งใบรายการอาหารแล้ว น้องพนักงานก็กลับมารับรายการเครื่องดื่มครับ ตรงนี้จะมีเฉพาะชาเขียวร้อนกับเย็นนะครับที่มีรีฟีล ส่วนเครื่องดื่มอื่นๆก็มีจำหน่ายปกติ พวกเราเลือกเป็นชาร้อน และเพิ่มน้ำมะนาวโซดาให้ท่านแม่ครับ 

มะนาวโซดา

ชาร้อน

                        ใช้เวลาไม่นาน อาหารก็เริ่มทะยอยออกมาเสริฟ์ครับ หรืออาจจะเป็นเพราะเราสั่งอาหารเป็นโต๊ะแรก และยังเป็นช่วงเพิ่งเปิดร้าน ที่บอกว่าเป็นโต๊ะแรก เนื่องด้วยเราไปกันทั้งหมด 19 คน แต่นั่งแยกกันโต๊ะละประมาณ 3-4 คนครับ เพื่อความสะดวกในการสั่งอาหาร จะได้ไม่ต้องสับสนว่า อาหารของใคร

สลัดปลาเงิน

โซบะเย็น

น้ำโซบะเย็น

ซาซิมิปลาหมึกยักษ์ ปลาทูน่า และอิซูมิได

ซาซิมิปลาแซลมอน

ซุปสาหร่าย

ไก่ย่างเทอริยากิ

หัวปลาแซลม่อนนึ่งซีอิ๊ว

ปลาแซลม่อนย่างซีอิ๊ว

ยำสาหร่าย

ปลาหมึกย่างเทอริยากิ

กุ้งเทมปุระ

ซูชิแซลม่อน/อิซูมิได/ปลาหมึกยักษ์

ทาโกะยากิ

สุกี้หมู

อุปกรณ์การทานสุกี้หมู

สเต็กปลาแซลมอน

เครื่องเคียงสเต็ก

สเต็กปลาซาบะ

ปลาซาบะย่างเทอริยากิ

แซลมอนสไลด์บาง

อิซูมิได สไลด์บาง

หมูย่างเทอริยากิ

โรลเอนกาวะพอนซึ

หมูทอดทงคัตสึ 

ยำปลาแซลมอน

ยำปูอัด

เกี๊ยวซ่า

ข้าวหน้าโอโทโร่สับโรยต้นหอม

ข้าวหน้าปลาดิบรวม

geso ซูชิ เมนูนี้สั่งเพิ่มนอกบุฟเฟ่ต์

ซูชิ geso เมนูนี้สั่งเพิ่มนอกบุฟเฟ่ต์

เมลอน สำหรับท่านที่สั่งอาหารปกติ 

โซดา + น้ำแข็ง

ถั่วแระญี่ปุ่น

                    ชี้แจงเพิ่มเติมที่เมนูซูชิ geso และซาซิมิ geso นะครับ 2 เมนูนี้ไม่ได้รวมอยู่ในบุฟเฟ่ต์ แต่ด้วยมิสเตอร์ที ชื่นชอบเป็นการส่วนตัว จึงให้เราทำการจองกับน้องพนักงานไว้ล่วงหน้า ด้วยเมนูนี้มีหมดนะครับ ถ้าไม่จองไว้ก่อน และถ้าทำการสั่งอาหารปกติ ที่ไม่ได้ทานบุฟเฟ่ต์ เราจะได้ของหวานเป็นเมลอนญี่ปุ่นครับ ด้วยเรามีสั่งเพิ่มนอกบุฟเฟ่ต์ น้องพนักงานจึงนำเมลอนมาให้พวกเรา 1 ที่ สำหรับ 1 ท่านครับ

                   สำหรับรสชาติอาหารตามความรู้ส้ึกส่วนตัวของครอบครัวเรานะครับ สำหรับเมนูปลาดิบ มีความสด อร่อยครับ เนื้อปลาคุณภาพ ไม่มีเละ ถึงแซลมอนจะไม่ได้เป็นลายสวยงาม deluxe แต่ความอร่อยนับว่าดีทีเดียว หมึกยักษ์ก็กรอบกรุบ สดอร่อย เมนูปลาสไลด์บางก็หวาน อร่อย จิ้มกับน้ำจิ้มพอนสึแล้วเข้ากันเป็นอย่างมากครับ

                   เมนูเทอริยากิ อร่อยทุกเมนูครับ โดยเฉพาะไก่ย่าง ย่างมาได้หนังกรอบ เนื้อไก่นุ่มชุ่มน้ำซอส อร่อยสุดๆ ปลาหมึกย่างมากำลังดี ไม่สุกเกินไปจนแห้ง หมูย่าง ปลาซาบะและปลาแซลมอน ก็อร่อยเนื้อปลามาชุ่มฉ่ำ ทานแล้วเพลินสุดๆ หัวปลาแซลมอนต้มซีอิ๊ว เมนูนี้มีจำนวนจำกัดนะครับ ทำให้ไม่พลาดที่จะสั่งมา แล้วก็อร่อยสมความตั้งใจครับ เนื้อปลามาหวาน สด อร่อยกำลังดี

                   สำหรับเมนูของทอดทงคัตสึและเกี๊ยวซ่า สุกี้หมู ทาโกะยากิ สเต็กปลาแซลมอน สเต็กปลาซาบะ ซุปสาหร่าย โซบะเย็น อันนี้ปกติครับ ทานได้ ไม่ได้โดดเด่นอะไร แต่ท่านแม่กับแฟนแอบผิดหวังกับเมนู สลัดปลาเงินและกุ้งเทมปุระ อันนี้ต้องบอกว่า ร้านบุฟเฟ่่ต์ประจำตรงเพชรบุรีอร่อยกว่าครับ 

                    เมนูข้าวหน้าปลาดิบ สั่งได้ไม่ต้องกังวลใจนะครับ เพราะมาในชามเล็ก ไม่ได้มาแบบตัดกำลัง รสชาติก็อร่อยดีครับ ความสดปลาโอเค เว้นโอโทโร่สับ อันนี้แอบคาวเล็กน้อย แต่ก็ทานได้ครับ ถั่วแระญี่ปุ่นที่นี่เสริฟ์มาแบบอุ่นๆนะครับ โรยเกลือเล็กน้อย ทานแล้วเพลินอร่อยดี ตบท้ายด้วยโซดา 1 ขวด ทางร้านบริการน้ำแข็ง ใส่มะนาวฝานมาให้ด้วยครับ 

                      สรุปความคุ้มค่า ในราคา 599++ ไม่รวมเครื่องดื่ม เมื่อรวมเครื่องดื่มแล้ว จะตกท่านละประมาณ 700 กว่าบาท ขึ้นอยู่กับว่าเลือกเครื่องดื่มเป็นอะไรนะครับ ในราคาเท่านี้ได้ซาซิมิปลาหมึกยักษ์ นับว่าคุ้มค่าครับ และเมนูอาหารก็มีหลากหลายอยู่ ถึงจะไม่มีปิ้งย่างให้บริการ แต่ก็ทดแทนด้วยเมนูที่ทางร้านย่าง ปรุง มาให้สำเร็จแล้ว สะดวกดี สั่งแล้วรอทานอย่างเดียว ไม่ต้องมาย่างเองครับ การบริการก็ดีครับ อาหารมีผิดพลาดส่งผิดโต๊ะเพียงเมนูเดียว ที่เหลือออกมาครบถูกต้อง มีโอกาสจะต้องไปซ้ำอีกแน่นอนครับ